ชายรักชาย

กลุ่มชายรักชายถูกจัดให้เป็นกลุ่มรักเพศเดียวกันที่ถูกสังคมสร้างให้เป็นอื่นที่มีความแตกต่างจากระบบรักต่างเพศอื่น ๆ โดยการถูกกระทำอย่างเป็นระบบภายใต้กฎเกณฑ์ ข้อบังคับ ระเบียบ ประเพณี และอื่น ๆ ผ่านสถาบันทางสังคม โดยที่การกระทำหรือปฏิบัติต่าง ๆ ตั้งอยู่บนฐานคติทางเพศที่สั่งสมอยู่ในสังคมไทยมายาวนาน การที่สังคมรับรู้และสร้างการยอมรับว่า มนุษย์มีเพียงสองเพศ ผ่านกระบวนการขัดเกลาทางสังคม จนกลายเป็นบรรทัดฐานทางสังคมที่ได้รับการยอมรับ ทำให้บุคคลที่มีลักษณะและพฤติกรรมทางเพศที่แตกต่างไปจากบรรทัดฐานและกฎเกณฑ์ที่สังคมกำหนด ถูกกีดกัน หรือเบียดขับออกนอกพื้นที่ ทั้ง ๆ ที่บุคคลเหล่านั้นมิได้แตกต่างไปจากคนอื่น ๆ ดังนั้น การกำหนดความเป็นเพศหรือเพศสภาพจึงเป็นประเด็นที่ควรจะต้องได้รับการทบทวนและขยายความเพื่อให้สอดคล้องกับสภาพความเป็นจริงที่ปรากฏอยู่ในสังคมไทยในปัจจุบัน

การจัดการความเครียดของกลุ่มชายรักชาย

ความเครียดเป็นสิ่งที่สามารถเกิดขึ้นได้กับทุกคน จากการศึกษาของวัชรวุฒิ ซื่อสัตย์ และพัชรินทร์ สิรสุนทร (2558) กล่าวว่า สำหรับความเครียดของนักศึกษาชายรักชายที่ได้สัมภาษณ์นั้น พวกเขามักจะเครียดกับปัญหาจากการเรียน สภาวะกดดันจากครอบครัว และคู่ครองซึ่งทั้ง 4 ราย มีจุดร่วมกันของความเครียด คือ ปัญหาการเรียน เพราะพวกเขายังอยู่ระหว่างการศึกษา ซึ่งปัญหาส่วนใหญ่ มีดังนี้

  1. การบริหารจัดการเวลาเรียนและการอ่านหนังสือ ซึ่งปัญหาที่เกิดนั้นส่งผลให้พวกเขาต้องอดนอนในช่วงเวลากลางคืน เพื่อทำกิจกรรมที่เกี่ยวข้องกับเรียนอย่างเคร่งครัด ในบางครั้งเมื่ออยู่ในห้องเรียนมักจะง่วงนอนและแอบหลับบ้าง
  2. การบริหารจัดการเวลาทำกิจกรรมกับสถานศึกษา เมื่อสถานศึกษามีกิจกรรม พวกเขาจะเป็นกลุ่มแรก ๆ ที่จะถูกนำเสนอให้เข้าร่วมกิจกรรม เช่น การแสดงโชว์ การตกแต่งสถานที่ การจัดดอกไม้ หรืออื่น ๆ ที่สถานศึกษาพิจารณาเห็นว่า เหมาะสมกับพวกเขา แต่ในทางกลับกันมันกลายเป็นความกดดันและความเครียดที่ส่งผลต่อการบริหารจัดการเวลาเรียน

นอกจากนี้ ปัญหาภาวะความกดดันจากครอบครัวมีผลต่อภาวะความเครียดของพวกเขา ถึงแม้ว่า บางครอบครัวจะรับได้กับความเป็นชายรักชาย แต่การยอมรับนั้นไม่ได้ตั้งอยู่บนพื้นฐานของสังคมที่จะรับได้ ทำให้พวกเขารู้สึกเสียใจที่ไม่สามารถเป็น “ผู้ชาย” ให้พ่อแม่กับได้ตามความคาดหวังของสังคม

ดังนั้น การจัดการความเครียดของพวกเขาจึงแตกต่างกันออกไป ตามลักษณะของการดำเนินชีวิตพื้นฐานครอบครัว สภาพสังคม เศรษฐกิจ และวัฒนธรรม ได้แก่ การอยู่กับตนเองทบทวนตนเอง การพูดคุยเพื่อระบายความในใจ การบริโภคสื่อบันเทิง การท่องเที่ยว และการดื่มเครื่องดื่มแอลกอฮอล์กับกลุ่มเพื่อน เป็นวิธีการช่วยให้พวกเขาสามารถลดความเครียดและใช้ชีวิตประจำวันได้อย่างมีความสุข

การจัดการกับความต้องการทางเพศของกลุ่มชายรักชาย

ความต้องการทางเพศเป็นอารมณ์พื้นฐานที่เกิดจากการเปลี่ยนแปลงทางการเจริญเติบโตของร่างกายมนุษย์ จึงไม่ใช่เรื่องผิดปกติหากจะเกิดความต้องการทางเพศ ซึ่งจากการสัมภาษณ์พบว่า พวกเขาสามารถจัดการกับอารมณ์ทางเพศได้อย่างเหมาะสมด้วยการสำเร็จความใคร่ (ช่วยตัวเอง) หรือภาษาอย่างไม่เป็นทางการเรียกว่า “การชักว่าว” สำหรับการสำเร็จความใคร่นั้น พวกเขาจะกระทำในพื้นที่ลับตา เช่น ห้องน้ำ ห้องนอน หอพัก และบ้านพัก วิธีการในการจัดการอารมณ์ทางเพศ เริ่มจากอวัยวะเพศแข็งเต็มที่ ใช้มือข้างใดข้างหนึ่งที่ถนัดหรือทั้งสองข้าง รูดหนังหุ้มปลายองคชาตขึ้นลงเป็นจังหวะ เพื่อให้เกิดการเสียดสี และบรรลุถึงความใคร่ เป็นอันเสร็จกิจ สื่อที่มักกระตุ้นให้เกิดอารมณ์เพศ ได้แก่ ภาพผู้ชาย ภาพอวัยวะเพศชาย คลิปวิดีโอการมีเพศสัมพันธ์ระหว่างชายกับชาย ซึ่งได้จากการท่องเว็บไซต์ของกลุ่มชายรักชาย

การจัดการสำเร็จความใคร่นั้นจะใช้เวลาไม่นาน เนื่องจาก เกรงว่า จะมีผู้อื่นมาพบเห็น จากการสัมภาษณ์ พบว่า ส่วนใหญ่ใช้เวลาโดยเฉลี่ย 2 – 3 นาที ขณะที่สำเร็จความใคร่มักจะดูสื่อกระตุ้นอารมณ์ทางเพศและจินตนาการว่า กำลังร่วมเพศกับคนที่ชอบอยู่ เมื่อเสร็จภารกิจจะล้างทำความสะอาด ฟอกสบู่และเช็ดให้แห้ง

การดูแลอวัยวะเพศชาย และช่องทางการมีเพศสัมพันธ์ของกลุ่มชายรักชาย

การดูแลรักษาความสะอาดของอวัยวะเพศ และช่องทางการมีเพศสัมพันธ์เป็นสิ่งที่ควรคำนึงเป็นอย่างยิ่ง โดยแบ่งการดูแลรักษา ดังนี้

1. การดูแลอวัยวะเพศชาย

จะทำความสะอาดด้วยการล้างคราบขาวที่ติดอยู่บริเวณโคนองคชาตด้วยวิธีการลอกหนังหุ้มปลายองคชาตออก เนื่องจาก ทั้ง 4 ราย ไม่ได้ขลิบปลายอวัยวะเพศ ล้างทำความสะอาดด้วยน้ำสะอาด สบู่อาบน้ำ ในขณะที่กำลังอาบน้ำทั้งเช้าและเย็น แต่ในบางรายจะกระทำเฉพาะตอนเย็นเท่านั้น ซึ่งพวกเขาทั้งหมดไม่ได้ใช้ผลิตภัณฑ์ทำความสะอาดจุดซ่อนเร้น เพราะเป็นการสิ้นเปลือง

2. การดูแลรูทวารหนัก

ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ทางทวารหนัก ฝ่ายที่จะเป็นผู้ถูกกระทำ (รับ) จะต้องทำการล้างสวนทวารหนัก เพื่อขจัดสิ่งติดข้างในลำไส้ใหญ่ เพื่อป้องกันสิ่งไม่พึงประสงค์ไหลออกมาในขณะมีเพศสัมพันธ์ ด้วยวิธีการขับถ่าย ใช้สายยางน้ำเข้าไปล้างภายในรูทวารหลาย ๆ ครั้ง หรือใช้ยาสวนทวารสำหรับแก้ไขอาการท้องผูก ซึ่งวิธีการดังกล่าวเรียกอย่างไม่เป็นทางการว่า “ทำแท้ง” ส่วนหลังการมีเพศสัมพันธ์จะทำความสะอาดโดยรอบรูทวาร แต่มิได้สวนน้ำเข้าไปล้างเนื่องจากเกิดอาการบาดเจ็บ หรือเกิดการฉีกขาดของหูรูดบริเวณทวารหนัก ซึ่งบางรายใช้วิธีการเหน็บยาสอดสำหรับสมานแผลที่ฉีกขาด

3. การดูแลช่องปาก

ในบางรายที่มักจะมีการกระตุ้นอารมณ์ทางเพศกับคู่นอน จำต้องใช้วิธีการจูบปาก ดังนั้น เพื่อลดปัญหาของกลิ่นปากและสร้างความมั่นใจในการปฏิบัติกิจกรรม ก่อนการมีเพศสัมพันธ์จะต้องบ้วนปากด้วยน้ำบ้วนปากเพื่อลดกลิ่นปาก แต่ไม่นิยมแปรงฟัน เนื่องจาก อาจจะทำให้เกิดแผลใหม่ในช่องปากได้ มีเพียงบางรายเท่านั้นที่แปรงฟันก่อนการจูบ สำหรับหลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว มักบ้วนปากด้วยน้ำเปล่า น้ำยาบ้วนปาก และการแปรงฟัน

4. การดูแลเรือนร่างและจุดซอกในร่างกาย

ก่อนการมีเพศสัมพันธ์ ทุกรายมักจะเริ่มต้นด้วยการอาบน้ำก่อนเพื่อลดกลิ่นอันไม่พึงประสงค์ แต่หากเร่งรีบบางครั้งจะไม่ได้อาบน้ำ สำหรับจุดที่กระตุ้นอารมณ์ทางเพศในร่างกาย โดยเฉพาะหัวนม ซอกหู ซอกรักแร้ แผ่นหลัง และร่องก้น จะได้รับการดูแลเป็นพิเศษ เพื่อให้การมีเพศสัมพันธ์ดำเนินไปด้วยราบรื่นและเป็นการรักษาความสะอาดของร่างกาย หลังจากมีเพศสัมพันธ์แล้ว จะอาบน้ำเพื่อชำระล้างร่างกาย เช่น ล้างคราบน้ำลาย น้ำอสุจิ เจลหล่อลื่น และสิ่งไม่พึงประสงค์อื่น ๆ

ดังนั้น การจัดการกับความต้องการทางเพศเป็นกระบวนการชุดหนึ่งของกลุ่มนักศึกษาชายรักชายที่เลือกใช้ “การสำเร็จความใคร่ด้วยมือ” ซึ่งกระบวนการดังกล่าวเป็นองค์ความรู้ที่อธิบายผ่านความเป็นชายโดยเพศชาย แต่เมื่อพิจารณาจากโครงสร้างทางชีวภาพแล้ว ลักษณะทางภายวิภาคของชายรักต่างเพศและชายรักเพศเดียวกันไม่มีความแตกต่างกัน จึงทำให้การดูแลอวัยวะเพศใช้ความรู้ทางวิทยาศาสตร์ชุดเดียวกัน

ที่มาบทความ เรื่อง สุขภาวะทางเพศและกิจกรรมทางเพศของนักศึกษาชายรักชาย โดยวัชรวุฒิ ซื่อสัตย์ และพัชรินทร์ สิรสุนทร วาสารศิลปศาสตร์ ปีที่ 15 ฉบับที่ 1

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *