ไสยศาสตร์ของเขมร ไสยดำ มนต์ดำ หนังวัวหนังควายเข้าท้องเสกกรรไกรเงิน กรรไกรทอง

ไสยศาสตร์เพื่อการทำลายนี้มักถูกเรียกว่า “ไสยดำ หรือ มนต์ดำ” เพราะมีความชั่วร้ายแฝงอยู่ และใช้เพื่อให้คนอื่นได้รับทุกข์ทรมานจนอาจถึงแก่ชีวิตได้ เช่น เสกกรรไกรเงิน กรรไกรทอง หรือหนังวัวหนังควายเข้าท้อง ใช้วัวธนูทำร้ายคนอื่น เป็นต้น ซึ่งไสยศาสตร์ประเภทนี้ น่าสนใจที่จะเรียนรู้ให้เข้าใจ มากกว่าที่จะเรียนรู้เพื่อนำไปใช้ มีอาจารย์ที่มีชื่อเสียงท่านหนึ่ง ให้เหตุผลว่า ไสยศาสตร์เพื่อการทำลาย ไสยดำนี้ เป็นศาสตร์ด้านมืด เป็นศาสตร์ที่ต้องคำสาป เพราะถ้าใครได้เรียนรู้และนำไปใช้แล้ว จะทำให้ชีวิตไม่มีความเจริญรุ่งเรือง ทำสิ่งใดก็จะติดขัดไปหมด ในเอกสารเขมรที่เขียนเกี่ยวกับไสยศาสตร์ด้านนี้ได้บอกไว้ว่า ผู้ที่เรียนวิชาด้านนี้ถ้าภายใน 1 ปี ไม่ได้ปล่อยของออกไปทำร้ายคนอื่น มนต์ดำนั้นจะย้อนกลับมาทำร้ายคนในครอบครัวตัวเอง เช่น ทำให้เจ็บป่วยหนัก ป่วยเรื้อรัง ผอมแห้งแรงน้อย ทำการทำงานไม่ได้ ทำมาค้าขายไม่ขึ้น เป็นต้น ทำให้ในปัจจุบันมนต์คาถาด้านนี้ จึงมีผู้สืบทอดน้อยลงมาก ทั้งในเขมรกัมพูชา และในเขมรถิ่นอีสานล่างของไทย

ในสมัยก่อน เขมรเริ่มปรากฎการใช้ไสยศาสตร์อย่างชัดเจนขึ้นในหลักฐานที่เป็นเอกสาร โดยแทรกอยู่ในวรรณคดีต่าง ๆ เช่น เรื่องมรณมาตา สังข์สิลปชัย สัพพสิทธิ และกากี เป็นต้น ซึ่งมีการกล่าวถึง คาถา อาคม เวทมนต์ต่าง ๆ และมีการสืบทอดจากรุ่นสู่รุ่นมาจนกระทั่งถึงปัจจุบัน

การเรียนวิชาอาคมทั้งหลายของเขมรนั้น มีข้อกำหนดไว้ว่า ถ้าเริ่มเรียนวันพุธหรือวันจันทร์ จะเรียนไม่สำเร็จ ถ้าเริ่มเรียนวันอาทิตย์หรือวันศุกร์ จะสำเร็จปานกลาง แต่ถ้าเริ่มเรียนวันเสาร์หรือวันอังคาร จะสำเร็จสมประสงค์ทุกอย่างและสามารถจำมนต์ คาถา อาคมต่าง ๆ ได้จนวันตาย

สำหรับข้อห้ามสำหรับผู้ที่เรียนวิชาอาคมเขมรนั้น มีข้อห้ามเป็นคำกลอนไว้ว่า

สรุปความว่า “วันขึ้นและแรม 7 ค่ำ ห้ามกินมะพร้าว วันขึ้นและแรม 12 ค่ำห้ามกินเผือก วันขึ้นและแรม 3 ค่ำ ห้ามกินผักที่เป็นใบไม้ใบป่า วันขึ้นและแรม 9 ค่ำห้ามกินน้ำเต้า มิฉะนั้น คาถาอาคมจะเสื่อม” และข้อห้ามนี้ก็เป็นข้อห้ามที่ต้องยึดถือตลอดชีวิต

ไสยศาสตร์ของเขมรนั้น ยังมีความเชื่อและข้อห้ามอีกมากมายของไสยศาสตร์แต่ละแขนงที่ไม่ได้กล่าวถึง ซึ่งความเชื่อและไสยศาสตร์เขมรส่วนหนึ่งที่มีผู้สนใจไต่ถามอยู่เสมอเวลาพูดถึงไสยศาสตร์เขมร คือ เรื่องปอบ กระสือ การปล่อยของต่าง ๆ เช่น กรรไกรเงิน กรรไกรทอง หนังวัว หนังควาย เข้าท้อง เป็นต้น

เสกกรรไกรเงิน กรรไกรทอง

การเสกกรรไกรเงิน กรรไกรทอง เป็นไสยดำแขนงหนึ่ง หมออาคมสามารถปล่อยอาวุธนี้ไปทำลายคนเป้าหมายได้ ในเวลาประกอบพิธีหมออาคมเตรียมเครื่องพิธีเสร็จแล้ววางกรรไกร (สมมติเรียกว่า กรรไกรเงิน กรรไกรทอง) บนพานข้างหน้า หมออาคมจะนั่งภาวนาคาถา พร้อมกับใช้ไม้เล็ก ๆ เคาะกรรไกรไปด้วย สวดเคาะ ๆ อยู่อย่างนั้นจนกรรไกรย่อเป็นขนาดเล็ก กระดิกตัวได้ และลอยไปหาคนเป้าหมายได้อย่างรวดเร็ว ระหว่างที่กรรไกรลอยไปจะมีเสียงหึ่ง ๆ คล้ายกับเสียงแมลงภู่บิน

เมื่อไปถึงที่หมาย กรรไกรเงินก็จะกลายเป็นแมลงเล็ก ๆ บินเข้าไปทางปากของคนที่เป็นเป้าหมาย ทำอันตรายภายในท้อง ทำให้เกิดอาการจุกเสียด เจ็บปวดรวดร้าว หรือปวดท้องอย่างรุนแรง ถ้ารู้ว่า ถูกของต้องรีบหาอาจารย์ผู้ทรงมนต์อาคมแก่กล้ามาแก้ไขโดยเร็วที่สุด อาจจะใช้มนต์อาคมหรือใช้ยาช่วย จึงจะรอดชีวิตเป็นปกติสุขได้ ถ้ามาช่วยไม่ทันหรือไม่มีผู้มาช่วย จะทำให้คนป่วยเลือดออกทางปากและทางทวารหนักเสียชีวิตได้

เสกหนังวัว หนังควายเข้าท้อง

“เสกหนังวัว หนังควายเข้าท้อง” เป็นไสยดำอีกแขนงหนึ่งที่มีผู้กล่าวถึงมาก และได้รับการสอบถามอยู่เสมอ เครื่องประกอบพิธี และการประกอบพิธีคล้ายกับกรรไกรเงินกรรไกรทอง เพียงแต่หมออาคมใช้หนังวัวหรือหนังควายตากแห้งขนาดใหญ่แทน โดยใช้วิธีสวดเป่า ๆ พร้อมกับใช้ไม้เรียวตีไปด้วย จนกระทั่ง หนังนั้นหดเล็กลงเหลือนิดเดียว และกลายร่างเป็นแมลงภู่บินไปหาคนเป้าหมาย เมื่อไปถึงแล้วหนังนั้นจะกลายเป็นแมลงขนาดเล็กบินเข้าไปทางปาก

และอีก 2 – 3 วันต่อมา หนังวัว หรือหนังควายนั้นจะเริ่มขยายตัวขึ้น ทำให้คนที่ได้รับเริ่มรู้สึกจุกเสียดเจ็บปวดทรมานมากยิ่งขึ้นไปพร้อมกับการขยายตัวของหนังวัวหรือหนังควายนั้น นอกจากจะมีอาการแน่นท้องแล้ว อาจจะมีอาการเหนื่อยหอบ หายใจถี่เร็วจนเหมือนจะขาดใจ เมื่อเกิดมีอาการเช่นนี้ ต้องรีบหาอาจารย์ผู้มีมนต์คาถาอาคมกล้าแข็งเท่ากันหรือกล้าแข็งกว่าหมออาคมที่ปล่อยของมาช่วยเหลือโดยด่วน อาจารย์ผู้มีมนต์กล้าแข็งอาจช่วยโดยใช้มนต์อาคม และผสมยาให้กิน ให้อาเจียนออกทางปากหรือถ่ายออกทางทวารหนัก คนป่วยนั้นจึงจะรอดปลอดภัยเป็นปกติสุขได้ มิฉะนั้น คนป่วยจะเจ็บป่วยทรมานจนเสียชีวิต

ใช้เสี้ยนไม้ เข็ม หรือเข็มหมุดทำอันตราย

หมออาคมปั้นหุ่นเป็นรูปคนที่เป็นเป้าหมายด้วยแป้ง แป้งมันหรือด้วยไม้อ่อน เมื่อทำพิธีต่าง ๆ เสร็จเรียบร้อยแล้ว หมออาคมจะเสกอาวุธทั้ง 3 คือ เสี้ยนไม้ เข็มและเข็มหมุด ใช้เข็มหมุดปักบริเวณส่วนหัวของหุ่น ใช้เข็มปักบริเวณหน้าอก เอาเสี้ยนไม้ยัดใส่บริเวณท้อง ขณะประกอบพิธี คนเป้าหมายจะรู้สึกปวดที่บริเวณส่วนหัว หน้าอกและท้อง ดิ้นทุรนทุรายอย่างทรมานก่อนที่จะขาดใจตาย

บางครั้งหมออาคมไม่ได้ทำพิธีให้เจ็บปวดหรือตายทันที แต่จะทำในลักษณะคล้ายยาสั่ง คือ ประกอบพิธีทุกอย่างเหมือนข้างต้น แต่กำหนดไว้ว่า ให้คนเป้าหมายไม่เป็นอะไรจนกว่าจะกินเนื้อหมู เมื่อประกอบพิธีเสร็จคนเป้าหมายนั้นจะยังไม่รู้สึกอะไร จนเมื่อได้กินเนื้อหมูแล้วนั่นแหละจึงจะเกิดอาการต่าง ๆ ดังที่กล่าวมาข้างต้น

วัวธนู ควายธนู

คำนี้คนไทยเราเรียกกันจนติดปากว่า “วัวธนู” หรือ “ควายธนู” ด้วยเข้าใจว่า คำว่า “ธนู” เป็นคำแสดงความหมายพิเศษของวัวหรือควายอาคม แต่ความจริงแล้ว คำว่า “วัวธนู” มีความหมายถึงวีการทางไสยศาสตร์ 2 ประเภท และมีการทำพิธีที่แตกต่างกันอย่างชัดเจน แบบหนึ่งใช้วัวอาคม อีกแบบหนึ่งใช้ธนูอาคมในการทำอันตรายคนเป้าหมาย เขมรเรียกว่า โกบา สนาเตะ หมายถึง วัวตัวผู้หรือวัวพ่อพันธุ์ กับหน้าไม้ ในภาษาเขมรเองก็นิยมเรียกเป็นคู่รวมกันเหมือนภาษาไทย แต่ในเวลาประกอบพิธีจริง ๆ แล้ว หมออาคมต้องเลือกเอาอย่างใดอย่างหนึ่ง

การใช้วัวอาคมทำอันตรายนั้น หมออาคมจะใช้ดินเหนียวปั้นเป็นรูปวัวตามกรรมวิธีเฉพาะที่ร่ำเรียนมาตามขั้นตอน (เขมรใช้วัวอย่างเดียว แต่ไทยใช้ได้ทั้งวัวทั้งควาย) ในเวลาใช้ หมออาคมจะสั่งให้วัวอาคมนั้นไปขวิดคนเป้าหมาย ถ้าไม่มีอาจารย์ผู้ทรงมนต์อาคมแก่กล้ากว่ามาช่วยไว้ทัน คนเป้าหมายก็จะเสียชีวิตได้

ส่วนการใช้ธนูอาคมนั้น อาจใช้หน้าไม้แทนกันได้ การประกอบพิธีและเครื่องประกอบพิธีจะเป็นแบบฉบับของตัวเองแต่ละสำนัก ส่วนที่มีลักษณะคล้ายกัน คือ มักจะปั้นหุ่นคนเป้าหมายด้วยแป้ง หรือวัสดุอื่น ๆ ที่อ่อน ๆ หมออาคมจะร่ายมนต์อาคมเป็นเวลานานมาก เพื่อจะให้บังเกิดผลที่ตัวเองต้องการมากที่สุด พร้อมกันนั้น ก็มีการอัญเชิญครูบาอาจารย์ให้มาช่วยเหลือในการประกอบพิธีด้วย เมื่อหมออาคมร่ายมนต์เสร็จสรรพเรียบร้อยแล้ว ก็เอาลูกศรใส่ที่ธนูหรือหน้าไม้เล็งไปยังหุ่นคนเป้าหมายนั้น อาจจะยิงที่หัว หน้าอกหรือท้องก็ได้ตามความปรารถนา ในขณะที่ประกอบพิธียิงธนูหรือหน้าไม้นั้น ที่บ้านของคนเป้าหมายจะเกิดมีเสียงดังลั่นสนั่นหวั่นไหวคล้ายเสียงฟ้าผ่าคนเป้าหมาย จะรู้สึกเจ็บบริเวณต่าง ๆ ที่หุ่นนั้นถูกยิง เหมือนถูกยิงด้วยลูกศรจริง ๆ บางครั้งถึงกับสลบ บางครั้งตายไปเลยก็มี

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *