ทารกเจริญเติบโตเร็ว ต้องการสารอาหารในอัตราสูงกว่าวัยอื่น ๆ การให้นมมารดาดีที่สุด เนื่องจาก ได้รับภูมิคุ้มกัน ความอบอุ่นและสารอาหารครบ
ประเภทของนมมารดา (แบ่งตามระยะเวลา)
Colostrum (ระยะหัวน้ำนม) ใน 1 – 3 วันแรกเกิด
Transitional milk วันที่ 4 – 10 หลังคลอด (ระยะน้ำนมปรับเปลี่ยน)
Mature milk (ระยะน้ำนมแม่) ตั้งแต่วันที่ 10 หลังคลอดเป็นต้นไป
พลังงานที่ได้รับจากนมแม่
Colostrum มีพลังงาน 58 – 67 Cal/100 cc. หรือ 17 cal/oz.
Transitional milk มีพลังงาน 70 – 75 Cal/100 cc. หรือ 22 cal/oz.
Mature milk มีพลังงาน 74 Cal/100 cc. แหรือ 22 cal/oz.
Infant Formula มีพลังงาน 70 Cal/100 cc. หรือ 20 cal/oz.
ในทางปฏิบัติการคำนวณจะคิดพลังงานจากนมแม่และนมวัว คือ 20 cal/oz.
ความสำคัญของนมแม่
1.นมแม่มีคุณค่าทางอาหารครบถ้วนตามความต้องการของทารก
- ทอรีน (Taurine) สำคัญต่อการทำงานของระบบประสาท จอตา และการดูดซึมไขมัน
- นิวคลิโอไทด์ (Nucleotide) ช่วยระบบภูมิคุ้มกัน เพิ่มการดูดซึมธาตุเหล็ก ซ่อมแซมเยื่อบุลำไส้
- การเจริญเติบโตของจุลินทรีย์ในลำไส้ใหญ่ ช่วยให้ร่างกายตอบสนองทางภูมิคุ้มกันที่ดีหลังได้รับวัคซีน
- คาร์นิทีน (Carnitine) สำคัญในการสังเคราะห์ไขมันสำหรับสมอง
- กรดไขมันจำเป็น DHA, ARA, lutein, prebiotics
2.นมแม่ย่อยง่ายกว่านมวัว นมแม่มีอัตราส่วน Whey : Casein = 60 : 40 (นมวัว 20 : 80 ทำให้ย่อยยาก เพราะ Casein + Rennin กลายเป็น Curd) นมแม่มีกรดไขมันไม่อิ่มตัวสูงจึงดูดซึมง่าย และมี Enzyme Amylase, Lipase, Protease ช่วยย่อย
3.นมแม่มีคุณค่าเพิ่มภูมิต้านทานต่อเชื้อโรค มีภูมิต้านทานโรคชนิด Cellular component เช่น Macrophage, T & B Lymphocyte และ Humoral component เช่น Ig โดยเฉพาะ Secretory IgA และ Factor อื่น ๆ (ในนมวัวจะถูกความร้อนทำลายในขบวนการผลิต)
4.นมแม่ปลอดภัยจากการแพ้ เนื่องจาก โปรตีนในน้ำนมวัวมีโมเลกุลขนาดใหญ่ และมี Whey protein เป็น Beta – lactoglobulin ส่วนในน้ำนมแม่เป็น lactalbumin
5.นมแม่มีสารกระตุ้นการเจริญเติบโต มีสารกระตุ้นการเจริญเติบโตชนิดต่าง ๆ เช่น Epithelial growth factor (EGF), Nerve growth factor (NGF), Taurine, มี Epidermal growth factor สำคัญต่อการควบคุมการเจริญเติบโตของเยื่อบุทางเดินอาหาร Somatomedin – C / Insulin – like growth factor สำคัญต่อการแบ่งตัวของ Cell ของเยื่อบุทางเดินอาหาร
6.ผลต่อสติปัญญาของเด็ก
Rodger B., 1987 การเลี้ยงเด็กด้วยนมแม่จะมีสติปัญญาสูงกว่าเด็กที่เลี้ยงด้วยนมวัว วัดเมื่ออายุ 8 และ 15 ปึ
Silva PA. et all, 1987 ไม่มีความแตกต่างด้านสติปัญญาของเด็กที่เลี้ยงด้วยนมแม่และนมวัว
7.สะดวก สะอาด ประหยัด และปลอดภัย
8.มีคุณค่าทางด้านจิตใจ ทำให้แม่ลูกผูกพัน เกิดความอบอุ่น ความรัก ความเข้าใจซึ่งกันและกัน
หลักการพิจารณาว่าน้ำนมแม่เพียงพอหรือไม่
1.พิจารณาจากตัวเล็ก
- ชั่งน้ำหนักเด็ก ก่อนและหลังดูดนม (ทราบปริมาณน้ำนมที่ได้รับ)
- สุขภาพทั่วไปแข็งแรง สมบูรณ์ ร่าเริง แจ่มใส ไม่ร้องกวน
- หลับสบายหลังดูดนม นอนได้นาน 2 – 4 ชั่วโมง
- ไม่มีอาการขาดน้ำ
- ถ่ายปัสสาวะปกติ
- น้ำหนักตัวเพิ่มขึ้นวันละ 25 – 30 กรัม
2.พิจารณาจากตัวแม่
- ในขณะให้ลูกดูดนมข้างหนึ่ง น้ำนมไหลพุ่งจากนมอีกข้าง เรียกว่า Let down หรือ milk ejection reflex แสดงว่า น้ำนมเพียงพอ
ข้อห้ามในการเลี้ยงลูกด้วยนมแม่
- มารดาเจ็บป่วยรุนแรงและเฉียบพลัน เช่น TB ระยะติดต่อ, Septicemia, Typhoid, Malaria
- มารดาเจ็บป่วยเรื้อรัง เช่น เบาหวานระยะรุนแรง ไตวาย หัวใจล้มเหลว ขาดอาหารอย่างรุนแรง
- มารดามีภาวะแทรกซ้อนหลังคลอด (Post partum complication) เช่น ครรภ์เป็นพิษ, ตกเลือดรุนแรง
- มารดามีปัญหาด้านจิตใจหรือเป็นโรคจิต (Psychosis) โรคประสาทอย่างรุนแรง
- มารดาติดยาเสพติด
- มารดาประกอบอาชีพสัมผัสกับสารพิษเป็นประจำ เช่น ยาปราบศัตรูพืช
- มารดาเป็นโรคเรื้อรังที่ต้องรับประทานยาต่อเนื่องเป็นเวลานาน และยานั้นมีข้อห้ามเลี้ยงลูกด้วยนมแม่ ได้แก่ ยารักษามะเร็งทุกชนิด
- ยารักษา Toxic goiter ทุกชนิด
- ยาที่ผสม Atropine
- ยาคุมกำเนิดที่มี Estrogen สูง
- ยา Corticosteroid ขนาดสูง
- ยาปฏิชีวนะ เช่น Chloramphenical ส่วน INH, Tetracycline, Sulfonamide, Metronidazole, Tinidazole, Acyclovir
- ยาห้ามการแข็งตัวของเลือด คือ Phenindione ยกเว้น Heparin, Warfarin
- สารกัมตภาพรังสี
- ยากลุ่ม NSAIDS
นมผงดัดแปลงสำหรับทารกคลอดก่อนกำหนด Premature infant formula
นมผงดัดแปลงสำหรับทารกคลอดก่อนกำหนดซึ่งมักจะมีปัญหาการย่อยการดูดซึมสารอาหารบางชนิด
- ให้พลังงานสูงกว่า Infant formula (คือ 24 kcal/oz.)
- อัตราส่วน Whey: Casein ใกล้เคียงกับนมแม่ (60: 40)
- คาร์โบไฮเดรต ควรดัดแปลงเพื่อเพิ่มการย่อย ให้มีคาร์โบไฮเดรต 2 ชนิด คือ Lactose และ Maltodextrin เนื่องจาก ทารกที่คลอดก่อนกำหนดจะมีเอนไซม์ glucoamylase ที่ช่วยย่อย maltodextrin มากกว่าเอนไซม์ lactase
- ไขมัน เนื่องจาก ทารกคลอดก่อนกำหนด จะมีความบกพร่องในการย่อยและการดูดซึมไขมันชนิด LCT ดัดแปลงให้มี Medium – chain triglyceride (MCT) แทน Long – chain triglyceride (LCT) บางส่วน เนื่องจาก มี bile pool น้อย
- ปริมาณ sodium phosphorus สังกะสีและทองแดงมากขึ้นเท่ากับปริมาณที่ทารกต้องการ
- ปริมาณวิตามินหลายชนิดมีมากขึ้น
- ค่า Osmolarity ใกล้เคียงกับของนมแม่
ระยะ 1 ปีแรกเกิด : นมผสม หรือนมวัว
นมผงสำหรับทารก เรียกว่า infant formula เป็นนมวัวดัดแปลง มีโปรตีนสูงกว่า 3 เท่า โดยเฉพาะชนิด casine มี 80% ทำให้เกิดการตกตะกอนจับเป็นก้อน (curd) ในกระเพาะอาหารนมวัว มีสารโปรตีนที่ทำให้เกิดการแพ้ได้ นมวัว มีปริมาณ Vitamin A D E และ C ต่ำกว่านมแม่ แต่มี Vitamin B และ K สูงเพียงพอ
โภชนาการสำหรับเด็กอายุ 12 – 18 เดือน
นมแม่ในระยะนี้ถ้ายังมีปริมาณมากพอสมควร ควรให้เด็กต่อไปและค่อย ๆ เลิกนมแม่เมื่ออายุประมาณ 18 เดือน ถ้ากินนมผสมอาจให้นมวัวดัดแปลงสูตรต่อเนื่องสำหรับเด็กอายุ 6 เดือน – 3 ปี (follow – up formula) หรือนมวัวธรรมดา เช่น นมผงธรรมดา นมสม UHT นมพาสเจอร์ไรซ์ ประมาณวันละ 3 มื้อ มื้อละ 7 – 8 ออนซ์ รวม 20 – 24 ออนซ์ ควรค่อย ๆ เลิกขวดนม และดื่มนมจากถ้วยแทน ไม่ควรให้ดูดนมขวดจนหลับไปจะทำให้ฟันผุ
ปริมาณอาหารวัยทารกแรกเกิด – 1 ปี
อายุ | อาหารเสริมที่ควรเริ่ม | ปริมาณอาหารเสริมที่ควรได้รับ/วัน |
แรกเกิด – 6 เดือน | ไม่จำเป็นต้องให้อาหารเสริม เพราะว่า น้ำนมแม่เป็นอาหารที่ดีที่สุดสำหรับทารกแต่ถ้าจำเป็นจึงจะใช้นมผสม | น้ำนมแม่สามารถให้รับประทานได้ถึง 18 เดือน |
อายุครบ 6 เดือน เริ่มให้อาหารเสริม | -ข้าวบดละเอียด หรือข้าวครูด -ไข่แดงต้มสุกผสมน้ำต้มจืด หรือเนื้อปลาบดหรือตับบด -ผักต้มสุกบด เช่น ผัก ตำลึง ผักกาดขาว ฟักทอง -น้ำต้มผักกับกระดูกหมู -ผลไม้สุก เช่น มะละกอสุก มะม่วงสุก ส้ม กล้วยน้ำว้าสุก | -ข้าวบดประมาณ 3 ช้อนกินข้าว ไข่แดงครึ่งฟอง ตับบด 1 ช้อนกินข้าว ปลาบด 2 ช้อนกินข้าว ผักสุกบดครึ่งช้อนกินข้าว และผลไม้สุก 1 – 2 ชิ้น -อาหารเสริม 1 มื้อ |
อายุครบ 7 เดือน | -ข้าวบด -ไข่ทั้งฟอง สลับกับเนื้อปลา เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ -ผักสุกบดหยาบ ให้ผักหลายชนิดสลับกัน -น้ำต้มผักกับกระดูกหมู – ผลไม้สุก | -ข้าวบดประมาณ 4 ช้อนกินข้าว ไข่ทั้งฟอง เนื้อสัตว์ 2 ช้อนกินข้าว ผักสุกบด 1.5 ช้อนกินข้าว -ผลไม้สุก 2 – 3 ชิ้น เป็นอาหารว่าง 1 มื้อ -อาหารเสริม 1 มื้อ |
อายุครบ 8 – 9 เดือน | -ข้าวบดหยาบ -ไข่ทั้งฟองสลับกับเนื้อปลา เนื้อหมู หรือเนื้อไก่ -ผักสุกบดหยาบ ให้ผักหลายชนิดสลับกัน -น้ำต้มผักกับกระดูกหมู / ผลไม้สุก (เหมือน 7 เดือน) | -ข้าวบดประมาณ 5 ช้อนกินข้าว ไข่ทั้งฟอง เนื้อสัตว์ 2 ช้อนกินข้าว ผักสุกบด 2 ช้อนกินข้าวและผลไม้สุก 3 – 4 ชิ้น -อาหารเสริม 2 มื้อ -ผลไม้ 1 มื้อ (เพิ่มปริมาณ) |
อายุครอบ 10 – 12 เดือน | -ข้าวสุกนิ่ม -อาหารอย่างอื่น รับประทานเหมือนอายุครบ 8 – 9 เดือน แต่เพิ่มประมาณมากขึ้น | -ข้าวสุกนิ่มประมาณ 6 ช้อนกินข้าว ไข่ทั้งฟอง เนื้อสัตว์ 3 ช้อนกินข้าว ผักสุกหั่น 3 ช้อนกินข้าว และผลไม้สุก 4 – 5 ชิ้น -อาหารเสริม 3 มื้อ -ผลไม้หลังอาหาร |
ขอขอบคุณที่มาบทความ การพยาบาลเด็กและวัยรุ่น 1 (Nursing of Children and Adolescent 1) โดยอาจารย์กชกร เพียซ้าย