มะเร็งปากมดลูก

แนวทางการป้องกันการติดเชื้อโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์

  1. ไม่มีเพศสัมพันธ์กับคนที่เพิ่งรู้จัก เพราะคนนั้นอาจจะเป็นกลุ่มเสี่ยงติดเชื้อสูง เช่น มีคู่นอนหลายคน เป็นต้น
  2. ไม่เปลี่ยนคู่มีเพศสัมพันธ์บ่อย ๆ
  3. มีเพศสัมพันธ์อย่างปลอดภัย คือ สวมถุงยางอนามัยทุกครั้งที่มีเพศสัมพันธ์ เพื่อไม่ให้มีสารคัดหลั่งและของเหลวของคู่มาสัมผัสแล้ว และไม่สัมผัสกับแผลหรือร่องรอยโรคที่ผิวหนัง ให้ใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้งที่ร่วมเพศไม่ว่าจะมีเพศสัมพันธ์ทางช่องคลอด ทางทวารหนัก หรือทางปาก นอกจากนี้ ยังป้องกันการตั้งครรภ์ได้ดีอีกด้วย
  4. สำรวจลักษณะการติดเชื้อบางอย่างที่พอสังเกตได้ เช่น ติ่งหูดหงอนไก่ หนองที่ท่อปัสสาวะ แผลที่อวัยวะเพศ ถ้าเห็นสิ่งเหล่านี้ ต้องปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ด้วยอย่างจริงจัง

โรคเอดส์

สาเหตุโรคเอดส์

เอดส์หรือโรคภาวะภูมิคุ้มกันบกพร่องเกิดจากเชื้อไวรัสชื่อ Human Immunodeficiency Virus: HIV เมื่อเข้าสู่ร่างกายจะไปทำลายเม็ดเลือดขาว ทำให้ภูมิคุ้มกันในร่างกายบกพร่องเป็นผลให้เป็นโรคติดเชื้อฉวยโอกาสและมะเร็งบางชนิดได้ง่ายกว่าคนปกติ อาการจะรุนแรงและเรื้อรังจนเสียชีวิตในที่สุด

การถ่ายทอดเชื้อเอดส์

การถ่ายทอดเชื้อมักอาศัยทางเลือด ทางน้ำอสุจิ และน้ำในช่องคลอด

ช่องทางการถ่ายทอดเชื้อเอดส์

  1. ทางเพศสัมพันธ์
  2. ทางเลือดและผลิตภัณฑ์ของเลือด
  3. จากมารดาสู่ทารกในครรภ์ ทารกมีโอกาสได้รับเชื้อจากมารดาที่ติดเชื้อได้ในระหว่างตั้งครรภ์ ระหว่างคลอดหรือการกินนมมารดา

แนวทางป้องกันเอดส์

  1. โดยทั่วไปมักคิดว่า ผู้ที่มีภาวะเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี ได้แก่ กลุ่มหญิงหรือชายอาชีพบริการทางเพศ และกลุ่มติดสารเสพติด จนทำให้ละเลยต่อกลุ่มบุคคลทั่วไป ซึ่งกลุ่มคนเหล่านั้นมีเพศสัมพันธ์กับแฟนคนเดียว หรือเพื่อนซึ่งดูสวยหล่อ แข็งแรง สะอาด เรียบร้อย ไม่เที่ยวสถานบริการ ไม่ใช้สารเสพติด จึงคิดว่า ไม่มีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อเอชไอวี แต่กลุ่มคนเหล่านี้ไม่เคยรู้หรือเป็นการยากที่จะถามถึงประสบการณ์ทางเพศของคู่ในอดีตและอาจจะไม่รู้ว่า ทุกวันนี้คู่มีคนอื่นอยู่หรือเปล่า ฉะนั้นการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ไม่ใช่คู่ครอง จึงต้องใช้ถุงยางอนามัยทุกครั้ง
  2. ไม่มีคู่นอนหลายคน รักษาและยึดมั่นค่านิยมที่ถูกต้อง เช่น รักเดียวใจเดียว
  3. ไม่ใช้เข็มและกระบอกฉีดยาร่วมกับผู้อื่น
  4. หลีกเลี่ยงการดื่มสุราจนมึนเมา เพราะอาจชักนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ที่ไม่ปลอดภัย
  5. ก่อนแต่งงาน ควรตรวจเลือดหาเชื้อเอชไอวี หากพบว่า คนใดคนหนึ่งมีเลือดบวกควรพิจารณาหาทางป้องกันไม่ให้ถ่ายทอดเชื้อ และควรปรึกษากันว่า สมควรจะให้ตั้งครรภ์หรือไม่ รวมทั้งจะคุมกำเนิดอย่างไร
  6. การปฏิบัติทางเพศอย่างปลอดภัย ได้แก่ การสำเร็จความใคร่ด้วยตัวเอง การมีเพศสัมพันธ์โดยไม่มีการสอดใส่

มะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกเป็นมะเร็งที่พบมากเป็นอันดับ 2 ของมะเร็งในผู้หญิงไทย รองมาจากมะเร็งเต้านมในแต่ละปีจะมีผู้หญิงไทยเป็นมะเร็งปากมดลูกประมาณ 10,000 คนหรือวันละ 27 คนและเสียชีวิตจากมะเร็งปากมดลูกประมาณ 5,200 คนหรือเฉลี่ยวันละ 14 คน ทั้ง ๆ ที่เป็นมะเร็งที่ป้องกันได้ร้อยละ 80 ของมะเร็งปากมดลูก

สาเหตุมะเร็งปากมดลูก

มะเร็งปากมดลูกทางการแพทย์พิสูจน์ทราบสาเหตุแน่นอนแล้วว่า เกิดจากการติดเชื้อไวรัส ที่ชื่อ ฮิวแมน แพปพิลโลมาไวรัส เรียกย่อ ๆ ว่า HPV

ปัจจัยเสี่ยงต่อการติดเชื้อไวรัส HPV

  • ผู้หญิงทุกคนมีความเสี่ยงต่อการติดเชื้อ HPV ตราบใดที่มีเพศสัมพันธ์อยู่
  • การมีเพศสัมพันธ์ตั้งแต่อายุยังน้อย การมีคู่นอนหลายคน การคลอดบุตรหลายคน
  • การใช้ยาคุมกำเนิดติดต่อกันเป็นเวลานาน
  • ผู้หญิงที่ไม่เคยตรวจภายในหรือแพปสเมียร์

การรักษามะเร็งปากมดลูก

  1. การผ่าตัด : ตัดก้อนมะเร็งออกทั้งหมด บางกรณีอาจต้องตัดมดลูก
  2. การทำเคมีบำบัด : ให้ยาทางเส้นเลือดหรือด้วยการรับประทานเพื่อฆ่าเซลล์มะเร็ง
  3. การฉายแสง : ฉายรังสีที่มีความเข้มสูงเพื่อตรงเข้าทำลายเซลล์มะเร็ง

การป้องกันมะเร็งปากมดลูก

วิธีที่ 1 หลีกเลี่ยงปัจจัยเสี่ยง

  • งดรับเชื้อ (ไม่มีเพศสัมพันธ์)
  • หลีกเลี่ยงการมีคู่นอนหลายคน
  • หลีกเลี่ยงการมีเพศสัมพันธ์ครั้งแรกเมื่ออายุยังน้อย
  • ถุงยางอนามัยลดความเสี่ยงได้ แต่ไม่ 100%

วิธีที่ 2 ตรวจคัดกรองด้วย “วีไอเอ” หรือ “แพปสเมียร์”

  • เพื่อตรวจหาการเปลี่ยนแปลงของเซลล์ก่อนที่จะกลายเป็นมะเร็ง
  • การตรวจพบแต่เนิ่น ๆ จะช่วยรักษาได้โดยเร็ว
  • แนะนำให้ตรวจเป็นประจำทุกปี

วิธีที่ 3 ฉีดวัคซีนป้องกัน

การฉีดวัคซีนเอชพีวี (HPV vaccine) เพื่อเสริมสร้างให้ร่างกายมีภูมิคุ้มกันต่อเชื้อไวรัสนี้ ก็จัดว่า เป็นการป้องกันเพราะภูมิคุ้มกันต่อเชื้อจะออกจากกระแสเลือดเข้ามาในมูกและสารคัดหลั่งของปากมดลูกและช่องคลอดทำให้เชื้อไม่สามารถเข้ามาติดเชื้อที่ปากมดลูกได้ วัคซีนมะเร็งปากมดลูกหรือวัคซีน HPV ชนิด 4 สายพันธุ์ (6, 11, 16, 18) ช่วยลดโอกาสในการเกิดมะเร็งปากมดลูกได้ ร้อยละ 70 – 80 ในส่วนที่เป็นผลมาจากการติดเชื้อไวรัส HPV สายพันธุ์ที่สำคัญและป้องกันมะเร็งปากมดลูกได้ 100% หากได้รับวัคซีนก่อนมีเพศสัมพันธ์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *