ออกกำลังกายเพื่อแก้อาการปวดศีรษะข้างเดียว ไมเกรน

“อาการไมเกรน” ที่ใครต่อใครเป็นกันมากนั้นก็คือ อาการปวดศีรษะข้างเดียวบางคนมีอาการคลื่นไส้ เวียนศีรษะร่วมด้วย ต้องกินยาตามแพทย์สั่งจึงจะทุเลา เมื่อถึงวันดีคืนดีก็จะเป็นขึ้นมาอีก

คุณทราบไหมว่า การออกกำลังกายนั้น ช่วยได้ช่วยอย่างไรลองฟังดูนะคะ ผู้เชี่ยวชาญด้านการออกกำลังกาย บอกว่า การออกกำลังกายแบบแอโรบิกด้วยความแรงระดับปานกลางอย่างสม่ำเสมอ จะทำให้ไมเกรนหายไปจากตัวเราอย่างแน่นอน การออกกำลังกายแบบแอโรคบิกด้วยความแรงระดับปานกลางที่ว่านั้นคือ การทำกิจกรรมหรือการเคลื่อนไหวร่างกายติดต่อกันอย่างน้อย 10 นาที ทำให้ร่างกายรู้สึกเหนื่อยพอประมาณ หัวใจเต้นแรงขึ้น หายใจเร็วขึ้นกว่าเดิม มีเหงื่อซึม ส่วนคำว่า “สม่ำเสมอ” คือ ทำให้ได้อย่างน้อย 30 นาทีต่อวัน ทำวันเว้นวัน หรือ 3 – 5 วันต่อสัปดาห์ ตัวอย่างการออกกำลังกายแบบแอโรบิก เช่น วิ่งเหยาะ เดินเร็ว เต้นรำ ว่ายน้ำ เป็นต้น และที่สำคัญ คือ ต้องยืดเหยียดกล้ามเนื้อส่วนบนของลำตัวร่วมด้วย วิธีการ คือ เกร็งและเหยียดกล้ามเนื้อบ่าทั้ง 2 ข้าง กล้ามเนื้อลำคอซึ่งทำโดยเอียงศีรษะซ้ายที ขวาทีทั้ง 2 ข้าง ในการยืดเหยียดกล้ามเนื้อต้องทำอย่างน้อย 4 ครั้งต่อท่า ต่อข้าง จึงจะได้ผล และต้องทำเป็นประจำสม่ำเสมอ ทำทุกวันได้ยิ่งดี ทั้งนี้ เพราะการเกร็งของกล้ามเนื้อบ่าและคอจากการใช้งานมากเกินไป นานเกินไป หรืออยู่ในท่าเดิม ๆ นาน ๆ เช่น การใช้แขนทำงานมากเกินไป การต้องจ้องมองอะไรเป็นเวลานาน ๆ ทำให้กล้ามเนื้อลำคอทำงานนานเพื่อตรึงศีรษะให้อยู่กับที่ จึงเกิดจุดเจ็บในกล้ามเนื้อและทำให้ปวดศีรษะอยู่เรื่อย ๆ

ไม่มีเวลาออกกำลังกาย จะทำอย่างไรดีจึงจะป้องกันโรคได้

การเคลื่อนไหวออกแรง/ออกกำลัง แม้เพียงเล็กน้อย ก็ทำให้ร่างกายรู้สึกดีขึ้น แต่เพื่อป้องกัน และส่งเสริมสุขภาพ ต้องออกกำลังกายให้ค่อนข้างเหนื่อย หรือเหนื่อยพอประมาณ สะสมอย่างน้อยวันละ 30 นาที ทุกวันหรือเกือบทุกวัน เพื่อให้มีการเผาผลาญพลังงานเพิ่มขึ้น 150 แคลอรีต่อวัน ตัวอย่างง่าย ๆ เช่น ลงจากรถประจำทาง 2 ป้าย ก่อนถึงที่ทำงานแล้วเดินต่อไปจนถึงที่ทำงานใช้เวลา 20 นาที และขากลับลงจากรถประจำทาง 1 ป้าย ก่อนถึงบ้าน แล้วเดินต่อจนถึงบ้านใช้เวลาอีก 10 นาที รวมทั้งวันให้ได้ 30 นาที หรือถ้าอยู่บ้านก็เคลื่อนไหวร่างกายด้วยการออกแรงทำงานบ้าน ตบแต่งสวนหย่อม/สนามหญ้า ล้างเช็ด ถูรถยนต์ เล่นกับลูก เดินไปซื้อของ หากอยู่ที่ทำงานก็ใช้วิธีเดินขึ้นบันไดแทนลิฟต์ เดินหลังอาหารเที่ยงหรือทำกายบริหารข้างโต๊ะทำงาน หรือขณะนั่งเก้าอี้ด้วยการยืดเหยียดร่างกาย การเคลื่อนไหวออกแรงไม่จำเป็นต้องทำรวดเดียว 30 นาที ทำครั้งละ 10 นาทีก็ได้แต่สะสมให้ได้ 30 นาทีก็นับว่า พอเพียงแล้วต่อการป้องกันโรคและสุขภาพ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *