แม้ว่า “การเดิน” จะเป็นวิธีการออกกำลังกายที่นับว่า ง่ายที่สุด เหมาะสมกับทุกเพศ ทุกวัย และทำได้ทุกที่ ทุกเวลาที่มีโอกาส แต่การเดินที่ถูกต้องและเสริมสร้างสมรรถภาพร่างกาย ก็มีขั้นตอนและเทคนิคที่ต้องคำนึงและเรียนรู้อยู่หลายประการนับตั้งแต่

การเตรียมตัวก่อนเดิน การเลือกเสื้อผ้าที่สวมใส่ให้เหมาะสมและการเลือกรองเท้าสำหรับการเดิน เทคนิคการเดิน ได้แก่ ท่วงท่าการเดิน การเคลื่อนไหวแขนขา จังหวะการก้าวย่าง การเดินที่ไม่ทำให้บาดเจ็บ การอบอุ่นร่างกาย การยืดเหยียดกล้ามเนื้อและการผ่อนหยุดหลังออกกำลังกาย

ดังนั้น หากมองกันอย่างลึกซึ้ง “การเดิน” คือ ศิลปะการออกกำลังกายรูปแบบหนึ่งที่มีความผึ่งผาย สง่างาม และปลอดภัยอย่างยิ่ง หากทำได้ถูกต้องตามขั้นตอนและวิธีการ

การเดินที่ถูกต้องและเหมาะสม

ท่าการเดินที่ถูกต้องและเหมาะสม คือ ศีรษะและลำตัวตรง ควรอยู่ในแนวขนานพื้นตามองไปข้างหน้าประมาณ 10 – 15 ฟุต เพื่อหลีกเลี่ยงการเดินชนผู้คนและสิ่งของ หลีกเลี่ยงการเดินก้มหน้าหรือเอียงตัวไปข้างหน้ามากกว่า 5 องศา เพื่อป้องกันอาการปวดคอและหลังจากการบาดเจ็บของกล้ามเนื้อ และกลุ่มอาการปวดจากพังผืดและกล้ามเนื้อ

ขณะเดินไม่ควรเกร็งไหล่ ข้อศอกงอประมาณ 90 องศาและกำมือหลวม ๆ เพื่อลดปวดเกร็งที่กล้ามเนื้อ ควรเดินแกว่งแขนแต่ไม่ควรแกว่งแรงไปและไม่ใช่แกว่งแขนข้ามแนวกลางลำตัว เพราะอาจทำให้กล้ามเนื้อบริเวณหลังและไหล่เกิดการบาดเจ็บ แต่หากไม่แกว่งแขนเลยการเดินอาจไม่ได้ผลเท่าที่ควร เพราะการแกว่งแขนขาสลับกัน จะช่วยเพิ่มการทรงตัวและความเร็วในการเดิน ทำให้การเดินมีประสิทธิภาพมากขึ้น การก้าวเดินควรใช้แรงเหวี่ยงจากสะโพกก้าวเท้าไปข้างหน้าลงน้ำหนักที่ส้นเท้าก่อนถ่ายน้ำหนักลงเต็มฝ่าเท้า ยกส้นเท้าขึ้น ถ่ายน้ำหนักสู่ปลายเท้าก่อนยกเท้าก้าวไป

รองเท้าสำหรับเดินก็มีความสำคัญ ควรมีความยืดหยุ่นกระชับเท้าและน้ำหนักเบา เพื่อป้องกันการบาดเจ็บ หากต้องการเดินให้เร็วขึ้นควรสาวเท้ายาวเกินกว่าปกติให้เดินเท่าก้าวปกติ แต่เพิ่มความถี่ของก้าวให้มากขึ้น เพราะการเดินถ้าเท้ายาวเกินไปอาจทำให้เกิดการบาดเจ็บที่สะโพกหรือขาได้