การสะเดาะเคราะห์

การสะเดาะเคราะห์เป็นการทำให้เคราะห์หมดไป ตามคำอธิบายในพจนานุกรมฉบับราชบัณฑิตยสถาน พ.ศ. ๒๔๙๓ ได้แยกคำว่า “สะเดาะ” คำหนึ่ง และ “เคราะห์” คำหนึ่ง โดยให้คำจัดกัดความว่า “สะเดาะ” คือ ทำให้หลุดออกมาด้วยคาถาอาคม เช่น สะเดาะโซ่ตรวน “เคราะห์” คือ โชค คราวดี คราวร้าย โดยมากใช้ในทางร้าย เช่น ฟาดเคราะห์ แต่สำหรับความหมายของคำว่า “สะเดาะ” ตามความเป็นจริงในปัจจุบันนี้คงมิใช่การทำให้หลุดออกมาด้วยคาถาอาคมเสียแล้ว และเมื่อมาใช้ร่วมกับคำว่า “เคราะห์” เป็น “สะเดาะเคราะห์” ความหมายที่น่าจะตรงที่สุด คือ การทำให้ความโชคร้าย ความไม่ดี ออกไปให้พ้นจากตัวจากชีวิต

การสะเดาะเคราะห์มีรูปแบบและวิธีปฏิบัติแตกต่างกันไปตามความเชื่อถือของปัจเจกบุคคล แต่เป็นที่นิยมและพบเห็นกันโดยทั่วไปนั้นมักจะเป็นการปฏิบัติในรูปแบบของการทำบุญทำทาน ปล่อยนกปล่อยปลา รดน้ำมนต์ อาบน้ำมนต์ หรือในคนรุ่นใหม่มีพฤติกรรมการสะเดาะเคราะห์ ที่ใช้ตัวเองเป็นสื่อแทนการประกอบพิธีกรรมดังที่กล่าวมา โดยมีคำเรียกในภาษาวัยรุ่นว่า “ล้างซวย” เช่น การตัดผม เปลี่ยนรูปแบบการแต่งกายและบุคลิกลักษณะ แต่ที่พบส่วนใหญ่จะมีพฤติกรรมที่เกี่ยวกับทรงผมเสียมาก ถ้ามองกันผิวเผินก็อาจจะบอกว่า เป็นการประชดชีวิตเมื่อผิดหวังจากสิ่งที่ต้องการ (แม้เพียงเล็กน้อยในความคิดของวัยรุ่น) แต่ถ้าจะมองให้ลึกอีกสักหน่อย จะเห็นว่า ความคิดในส่วนที่เป็นสัญชาติญาณดิบของมนุษย์นั้น มีเรื่องเหนือความเป็นจริงเข้ามาเกี่ยวข้องด้วยเกือบทุกเรื่อง และทุกสภาวะวัยของชีวิตนับตั้งแต่เกิดจนตาย

การสะเดาะเคราะห์ภายในศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนี้ เริ่มตั้งแต่บริเวณรอบนอกศาล จะมีพ่อค้าแม่ค้าทั้งเด็กและผู้ใหญ่ชักชวนให้ซื้อนกปล่อย ส่วนที่ไม่ได้ร้องชักชวนแต่มีอยู่คู่กันเสมอ คือ เต่าและปลาไหล เข้ามาภายในศาล ถึงแม้การสะเดาะเคราะห์จะมีเพียงสองอย่างที่เป็นหลัก แต่ก็ได้รับความนิยมพอสมควร คือ บนหอพระจะมีโต๊ะหมู่ประดิษฐานพระพุทธรูปต่าง ๆ ประจำวันเกิด และให้ทำบุญตามกำลังวันของแต่ละคน ซึ่งมีไม่เท่ากันดังจะกล่าวในรายละเอียดต่อไป ส่วนบริเวณที่สักการะจะมีอ่างน้ำมนต์ (น้ำเทพมนต์) ไว้สำหรับให้ผู้คนดื่ม รด ราด ประพรม ตามคำอธิษฐานในใจ ตรงกันข้ามนั้นก็มีการสะเดาะเคราะห์อีกแบบหนึ่ง คือ การเติมน้ำมันพระประจำวันเกิด เมื่อเติมน้ำมันแล้วใครประสงค์จะบริจาคทรัพย์เป็นการทำบุญก็จะได้กุศลแรงขึ้นไปอีก

ตัวอย่างพิธีสะเดาะเคราะห์ที่พบในวรรณคดีเรื่องพระอภัยมณี เป็นพิธีสะเดาะเคราะห์ของนางละเวง แสดงให้เห็นถึงความเชื่อและพิธีกรรมที่มีการผสมผสานทั้งพิธีพุทธ พราหมณ์ และเทพเจ้าอื่น ๆ รวมทั้งสะท้อนสภาพสังคมวัฒนธรรม ความเชื่อ ค่านิยมในสมัยที่มีการแต่งวรรณกรรมเรื่องนี้ขึ้น ดังตัวอย่าง

จะต้องแต่งบัตรพลีคัมภีร์ไสย

ประตูทั้งแปดทิศให้ปิดไว้

อย่าให้ใครเข้าออกบอกกิจจา

ในเจ็ดวันนั้นพระองค์จงทรงศีล

ตัดให้สิ้นพยาบาทปรารถนา

สังเวยไหว้ไท้เทวโลกา

ให้รักษาสะเดาะเคราะห์พระเคราะห์นาม

ประตูรอบขอบวังให้ตั้งศาล

เครื่องคาวหวานนมเนยสังเวยถวาย

สุกรแกะแพะโคสิงโตควาย

ล้มถวายกว่าจะเสร็จทั้งเจ็ดวัน

ปิดประตูผู้คนห้ามให้ขาด

ใครล่วงราชอาชญาถึงอาสัญ

เร่งปักธงตรงทวารศาลสำคัญ

บ้างปลูกศาลบ้างก็จัดทำบัตรพลี

เครื่องพลีกรรมแกะทั้งแพะโค

ปักธงเทียวเขียวดำประจำศาล

เขียนรูปท่านพระมหาเยวาโห

ทั้งแปดด้านศาลเทวอิสโร

ให้ภิญโญอย่างฝรั่งตั้งบูชา

ประตูทั้งแปดทิศก็ปิดหมด

บอกกำหนดนายประตูผู้รักษา

แต่งสำเร็จเสร็จสรรพแล้วกลับมา

แจ้งกิจจาตัวนายทูลรายงาน

ฝ่ายสามนางต่างจัดบรัศว์ซ้าย

ให้วงสายสิญจน์ตั้งที่นั่งสนาน

น้ำมนต์รดกลศสังข์ให้ตั้งพาน

คาดเพดานม่านบังบัลลังก็ทรง

ครั้นเสร็จสรรพกลับมาเฝ้าเยาวราช

อภิวาททูลตามความประสงค์

อรุณฤกษ์เบิกแสงพระสุริยง

เชิญพระองค์สรงน้ำสุรามฤต

แล้วแต่งองค์ทรงดำทั้งสำรับ

ไปคำนับศาลสุรากลากิจ

วันละหนจนทั่วทั้งแปดทิศ

เทวฤทธิ์จะรักษาให้ถาวร

พิธีสะเดาะเคราะห์ในเรื่องนี้ทำตามคัมภีร์ไสยศาสตร์ ให้มีการตั้งบัตรพลี ปิดยันต์ทั้งแปดทิศ ห้ามใครเข้าออกและผู้อยู่ในพระเคราะห์ทุกคนจะต้องรักษาศีลภาวนาห้ามยุ่งเกี่ยวกับเพศตรงข้าม สังเวยเทวดาด้วยเครื่องเซ่น และเครื่องพลีกรรมต่าง ๆ มีการเชือดสัตว์ ได้แก่ สุกร แกะ แพะ โค ควาย สิงโต เป็นเวลาเจ็ดวัน มีการปลูกศาล เขียนรูปพระมหาเยวาโหบูชา ปักธงเขียวดำ มีการวงสายสิญจน์ รดน้ำมนต์ รดกลศ และน้ำสังข์

การสะเดาะเคราะห์ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองนี้ไม่มีการสะเดาะเคราะห์ที่เป็นพิธีรีตองตามคัมภีร์ไสยศาสตร์ดังในตัวอย่างข้างต้น รูปแบบการสะเดาะเคราะห์จะเป็นไปอย่างเรียบง่ายและรวดเร็วเหมาะกับสภาพเศรษฐกิจและสังคมอย่างในปัจจุบัน[i]


[i] จีรนันทน์ ดีประเสริฐ. (2537). การสะเดาะเคราะห์ เสี่ยงทาย แก้บน ที่ศาลเจ้าพ่อหลักเมืองกรุงเทพมหานคร. ภาคนิพนธ์ปริญญาศิลปศาสตรมหาบัณฑิต สาขาวิชามานุษยวิทยา คณะโบราณคดี มหาวิทยาลัยศิลปากร.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *