ความไม่รู้ในเรื่องเพศของน้อง ๆ เป็นสาเหตุที่จะนำน้องหนูไปสู่โอกาสเสี่ยงต่อภัยทางเพศได้ง่ายดาย โดยเฉพาะในสังคมปัจจุบัน ฉะนั้น เวลาได้ยินพ่อแม่เตือนว่า “หากมีใครชวนหนูไปเที่ยวไหนก็ไปอย่ากับเขานะ” หรือ “อย่าไปเล่นที่ไหนตามลำพังคนเดียว” หรือ “เวลาใครให้ขนม หนูอย่าไปรับนะจ๊ะ” หรือ “อย่าไปเข้าห้องน้ำคนเดียวนะลูก” หรือ “ถ้าใครบอกว่าพ่อแม่ให้มารับแทน…อย่าเชื่อเขานะ” หรืออื่น ๆ อีกสารพัด
ก็ขอให้น้อง ๆ เข้าใจหัวอกพ่อแม่นะจ๊ะ เพราะเป็นเรื่องธรรมดาที่พวกเขาจะวิตกว่า ลูกอาจจะพบเจอเหตุการณ์ที่ก่อให้เกิดภัยทางเพศอย่างที่ตกเป็นข่าวได้ แต่ถึงกระนั้น น้อง ๆ หลานคนอดสงสัยต่อไปอีกไม่ได้ว่า…
“อันตรายทางเพศนี่เป็นไง ถูกลวนลามนี่เป็นยังไง แล้วถูกข่มขืนอีกล่ะ” เชื่อว่า เมื่อเจอคำถามแบบนี้ พ่อแม่น้อง ๆ หลายคนอาจจะอธิบายลูกได้ไม่เต็มปาก ไม่ชัดเจน หรือบางคนอาจทำเฉไฉเปลี่ยนไปพูดเรื่องอื่นก็มี ยิ่งน่าสงสัยเข้าไปใหญ่ใช่ไหมจ๊ะ
เหตุที่เป็นเช่นนี้ก็เพราะพ่อแม่ส่วนใหญ่มองเรื่องเพศหรือการตอบคำถามทางเพศว่าเป็นเรื่องน่าเขินอายซะเหลือเกิน เกินกว่าที่จะพูดให้เป็นเหมือนเรื่องกินข้าวหรือเรื่องดินฟ้าอากาศได้ เพราะฉะนั้น เรื่องเพศจึงเป็นเสมือนเรื่องเร้นลับสำหรับน้องหนูไปโดยปริยาย
ถ้าอย่างนั้น เรามาคิดเรื่องเพศศึกษากันใหม่ดีกว่า เพราะความรู้เรื่องเพศเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้น้องหนูรู้เท่าทันและทำตัวได้ถูกเวลาเกิดภัยทางเพศขึ้นมาจริง ๆ
ความจริงแล้ว เรื่อง “เพศศึกษา” เป็นเรื่องที่แสนจะธรรมดามาก ๆ เป็นเรื่องที่เกี่ยวข้องกับชีวิตและธรรมชาติตั้งแต่เกิด ตัวเราเกิดและเปลี่ยนแปลงเป็นมาอย่างไร สิ่งมีชีวิตในโลกก็อาศัยหลักการเดียวกัน
สำหรับมนุษย์ ความสนใจเรื่องเพศเริ่มเกิดขึ้นตอนหนูโต พอที่จะรู้ความสัก 3 ขวบขึ้นไปเลยทีเดียว ถ้าเด็กคนไหนไม่สนใจถามไถ่เรื่องเพศบ้าง ก็ดูจะแปลก ๆ แล้วล่ะ พอเริ่มเข้าวัยประถม เด็ก ๆ ก็จะจับกลุ่มวิ่งเล่นกับเพศเดียวกัน และเริ่มรู้ถึงความแตกต่างระหว่างเพศแล้ว และความแตกต่างทางเพศนี้เอง ถ้าหนู ๆ เรียนรู้ได้ดี หนูก็จะรอดพ้นจากภัยทางเพศ แถมยังช่วยให้หนูเติบโตเป็นวัยรุ่นที่น่ารัก รู้จักวางตัวได้ดีกับเพื่อนต่างเพศ ช่วยยับยั้งไม่ให้มีเพศสัมพันธ์ก่อนวัยอันควรด้วยล่ะ ฉะนั้น เราถึงต้องมาเริ่มเรียนรู้เรื่อง “เพศศึกษา” ตอนเป็นละอ่อนน้อยวัยประถมนี้ไง จะได้ช่วยให้หนู ๆ อยู่ในสังคมได้อย่างปลอดภัย
เพศศึกษา “หนูต้องรู้อะไรบ้าง”
น้อง ๆ รู้มั๊ยคะเรื่องของ “เพศศึกษา” นั้น ไม่ใช่เรื่องของการที่ผู้ชายกับผู้หญิง “มีอะไรกัน” หรือมี “เพศสัมพันธ์” เพียงอย่างเดียวเท่านั้น แต่มันครอบคลุมถึงเรื่องต่าง ๆ มากมาย ที่จะทำให้เด็กผู้ชายและเด็กผู้หญิงได้รู้จักตัวเอง ได้รู้ว่า มีพัฒนาการทางเพศเป็นอย่างไร ได้รู้จักเพศตรงข้าม อันจะนำไปสู่ความรู้สึกดี ๆ ต่อกัน และสุดท้าน “การมีอะไรกัน” ระหว่างชายหญิงก็จะเกิดขึ้นบนพื้นฐานของความรัก ความเข้าใจที่ดีและที่สำคัญต้องไม่ก่อให้เกิดปัญหา
น้อง ๆ จะประพฤติตัวได้อย่างเหมาะสมทั้งกับตัวเองและกับเพื่อนต่างเพศเลยล่ะ เรื่องเพศศึกษาไม่ใช่เรื่องน่าอายที่จะเรียนรู้ ก็เรื่องนี้เป็นเรื่องวิทยาศาสตร์แขนงหนึ่ง เป็นธรรมชาติที่ติดตัวหนูทุกคน ทุกเพศมาตั้งแต่เกิด ส่วนมีเรื่องอะไรที่น้องหนูจะต้องรู้บ้าง
ลองสำรวจตัวหนูเองสิ นี่ล่ะเป็นเรื่องแรกที่หนูจะต้องรู้ไว้นะจ๊ะ