สินค้าควบคุม “แปรงสีฟัน” ตามแบบกรมอนามัย

“แปรงสีฟัน” เป็นอุปกรณ์ในการทำความสะอาดฟันและลิ้น ซึ่งที่ผลิตและจำหน่ายในท้องตลาด จะมีรูปร่างหน้าตาของผลิตภัณฑ์แตกต่างตามความต้องการ และวัตถุประสงค์ที่ใช้ในการแปรง ดังนั้น เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์ได้รับประโยชน์ในการใช้สินค้าที่ได้ผ่านมาตรฐานตามหลักวิชาการ กรมอนามัยเป็นหน่วยงานที่มีหน้าที่หลักในการส่งเสริมให้คนไทยมีสุขภาพดี จึงได้ดำเนินการตรวจสอบคุณภาพแปรงสีฟันที่วางจำหน่ายในประเทศไทย ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2541 และในปี พ.ศ. 2545 คณะกรรมการคุ้มครองผู้บริโภค สำนักนายกรัฐมนตรี ได้ออกประกาศคณะกรรมการว่าด้วยฉลากฉบับที่ 11 เรื่องให้แปรงสีฟันเป็นสินค้าที่ควบคุมฉลาก ซึ่งมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันที่ 1 มกราคม พ.ศ. 2546 ซึ่งลักษณะแปรงสีฟันที่ดี ต้องประกอบด้วย

หัวแปรงต้องมน ไม่เป็นเหลี่ยมหรือเป็นมุม ขนาดไม่ใหญ่เกินไป สามารถเข้าไปทำความสะอาดฟันทุกซี่ในช่องปากได้ง่าย

ขนแปรง ทำจากไนล่อน ชนิดอ่อนนุ่ม กระจุกขนแปรงมี 3 – 4 แถว เพื่อรับแรงกดเวลาแปรงฟัน ขนแปรงแต่ละเส้นมีการมนปลาย เพื่อไม่ให้ปลายคมขรุขระที่อาจทำอันตรายต่อเหงือกและฟัน

ด้ามแปรงตรง หรือทำมุมเพียงเล็กน้อย จับถนัดมือ

ที่สำคัญต้องมีฉลาก ระบุข้อมูลเพียงพอต่อการเลือกซื้อ ได้แก่ ชนิดขนแปรง ลักษณะปลายขนแปรง วัสดุที่ใช้ผลิต วันเดือนปี ที่ผลิต และระบุผู้ผลิต หรือเครื่องหมายการค้า

ชนิดของขนแปรง แปรงสีฟันที่แนะนำให้เลือกใช้ต้องเป็นชนิดนุ่มหรือชนิดนุ่มปานกลางเท่านั้น ผู้ที่เข้าใจผิดและชอบใช้แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็ง โดยคิดว่า แปรงสีฟันที่มีขนแปรงแข็งน่าจะสามารถกำจัดคราบเศษอาหารได้ดีกว่าขนแปรงอ่อน ซึ่งก็เป็นเช่นนั้นจริง แต่แปรงขนแข็งนี้ จะทำให้คอฟันสึกไปด้วยในขณะที่แปรงฟัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งเมื่อแปรงฟันผิดวิธี แบบถูไปมา ขนแปรงสีฟันที่แข็ง จะยิ่งทำให้ฟันสึกมากขึ้นและฟันที่สึกก็จะทำให้คุณมีอาการเสียวฟันตามมา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *