วิธีแก้ไขแก้กรรมเรื่องเงินขาดมือ มืดแปดด้าน ดวงตก ชีวิตมีแต่ปัญหาแบบได้ผลทันใจ

ในชีวิตของคนเราเมื่อเวลาที่มีความสุขได้โชคลาภได้อะไร ๆ ที่ต้องการนั้นก็มาจากที่ผลบุญที่ทำมานั้นได้ส่งผล แต่เวลาที่พบกับความทุกข์ พบกับอุปสรรคต่าง ๆ ทำอะไรก็ไม่ขึ้น หยิบจับอะไรเป็นได้เสียหาย ไร้คนช่วยเหลือมองไปทางไหนก็ดูมืดมน เหมือนที่เค้าเรียกกันว่า “มืดแปดด้าน” หรือที่คนทั่วไปชอบเรียกกันว่า “ดวงตก” นั่นแหละ ที่เป็นสาเหตุเช่นนั้นมาจากกรรมอย่างแน่นอน ไม่ได้มาจากการเดินทางของดวงดาวแต่อย่างใด เพราะเรื่องการเคลื่อนย้ายองศาต่าง ๆ ของดาวนั้นไม่ได้เกี่ยวข้องหรือจะพูดง่าย ๆ ว่าไม่ได้มาส่งผลอะไรโดยตรงกับคน และสัตว์ทั้งหลาย ซึ่งอาจจะมีบ้างในเรื่องของกลางวัน กลางคืน และน้ำขึ้นน้ำลง ซึ่งก็เป็นไปตามกลไกที่ธรรมชาติดำรงไว้เพื่อความสมดุล

แต่อย่างไรก็ตาม ในความเข้าใจของคนมักจะเรียกกันว่า “ดวงตก” ใน สำหรับกรรมที่ว่านี้ เป็นทั้งกรรมเก่าและกรรมใหม่ฝ่ายไม่ดี ที่มีกำลังและถึงเวลาส่งผล วิธีที่จะแก้ไขนั้นต้องพิจารณาเป็นอย่างแรกก็คือ กรรมปัจจุบัน ต้องย้อนกลับไปพิจารณาจากสิ่งที่เราทำมาไม่ว่าจะเป็นการประกอบอาชีพการงานใด ๆ ก็ตาม ความคิด ความประพฤติของเรานั้นถูกต้อง ถูกธรรมหรือไม่ ทั้งนี้ ต้องหาสาเหตุให้เจอว่า เป็นเพราะอะไรถึงต้องยอมรับความจริงถึงจะแก้ได้ ซึ่งร้อยทั้งร้อยไม่เชื่อว่า กรรมมีจริง หรือเพราะความไม่รู้ จึงละเมิดผู้อื่น สิ่งอื่นจนเกิดกรรมไม่ดีขึ้นมา เช่น เคยแอบไปเบียดเบียนใครเขามา เคยไปคดโกง ยืมเงินคนอื่น แอบพรากประโยชน์ผู้อื่น เห็นแก่ได้จนคนอื่นเขาเสียหาย ทำการค้าแบบไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่มีความกตัญญูต่อผู้มีพระคุณ เป็นคนที่ประมาทในชีวิตยังคงเกียจคร้านไม่แสวงหาสิ่งดี ๆ สิ่งที่ถูกต้องมาสู่ชีวิต เป็นต้น เรื่องเหล่านี้ เหมือนกับเราเดินทางชีวิตที่ผิดทางไปจากความสำเร็จ ความร่ำรวยที่เราปรารถนาจะได้ไม่ว่าจะอยู่ในระดับไหนก็ตาม หรือเราเองนั้นเอาก้อนหินขนาดใหญ่ไปปิดทางน้ำด้วยตัวเอง ซึ่งก็คือ การไปสร้างบาปปิดทางบุญของตัวเองได้

เรื่องเหล่านี้เราต้องหาให้เจอเสียก่อน เพราะเหตุจากกรรมไม่ดีเหล่านี้ เป็นกรรมใหม่ที่เราปรับปรุงแก้ไขได้ด้วยตัวเอง แต่ต้องเปลี่ยนเพื่อเปลี่ยนทิศทางเดินชีวิตเสียใหม่ เราเองก็รู้ว่า เราทำแบบนั้นเราได้ผลอะไรกลับมา เราเป็นคนที่ทำร้ายตัวเอง ทำตัวเองให้ดวงตกหรือไม่ เรื่องไม่ดีเหล่านี้มักเหมือนจุดดำ ๆ หรือคราบสกปรกที่อาจจะเริ่มจากจุดเล็ก ๆ แต่มันสะสมเรื่อย ๆ จนผ้าที่เคยขาวนั้นดำสนิท ชีวิตจึงเหมือนอยู่ในความมืด จนคลำหาทางออกไม่เจอ หลายคนไปพึ่งหมอดู คนทรงเจ้า หรือไสยศาสตร์ที่ไม่ใช่ของจริง จนหมดเนื้อหมดตัวเหมือนอยู่ดี ๆ ไปหาขี้โคลนมาใส่ผ้าขาวเข้าไปอีก ซึ่งขออนุญาตบอกถึง การแก้ไขอย่างเร่งด่วนที่ครูบาอาจารย์ท่านเมตตา คือ ต้องปรับความเชื่อเสียใหม่ จากที่หลงผิดทาง หรือเกิดมิจฉาทิฐิ (มิจฉาทิฎฐิ) ขึ้นในใจที่เป็นความมืดให้กลับมาสู่ทางสว่าง หรือสัมมาทิฐิ (สัมมาทิฎฐิ) ต้องปรับใจตนเองเสียก่อน ถ้าไม่ปรับใจเสียก่อน ก็แก้ไขอะไรไม่ได้ทั้งสิ้น ดังเช่น อยากเดินทางไปเชียงใหม่แต่ดันขับรถลงไปทางใต้ ต่อให้อีกร้อยชาติพันชาติก็ไปไม่ถึง ไม่ว่ารถยนต์จะมีกำลังดีแค่ไหนก็ตาม อยากจะให้ชีวิตดี แต่ยังหลงผิดไปว่าการทำกรรมชั่วนั้นจะทำให้ชีวิตดี อยากจะมีความสุข มีเงินเยอะ ๆ รวย ๆ แต่คิดไปว่า การไปเบียดเบียนคนอื่น โกงเขา ขโมยเขาเป็นเรื่องถูกต้อง ซึ่งมันไม่มีทางเป็นไปได้ บาปไม่เคยส่งผลให้เกิดบุญ บุญบริสุทธิ์นั้นก็ไม่เคยทำให้ใครบาป มันคนละทางกัน

กรรมนั้นเหตุมันเกิดที่ใจ และในกรรมทุกกรรมที่เราทำมาไม่ว่าจะเป็นกรรมดีกรรมชั่ว จะหนักหรือจะเบา จะถูกบันทึกไว้ในจิตใจเราทั้งสิ้น ไม่ว่าเราจะเกิดไปอีกร้อยชาติ เปลี่ยนชื่อหรือเปลี่ยนนามสกุล เปลี่ยนหน้าตาหรือ เปลี่ยนภพภูมิไป แต่จิตเรานั้นยังเป็นดวงเดิมที่ได้มีการบันทึกกรรมนั้นไว้แล้วตลอดเวลา กรรมใดที่เป็นอโหสิกรรมแล้วก็จะไม่ส่งผลกรรมอีก ถือว่า กรรมนั้นได้ยุติลงไปแล้ว ต้องแก้ที่ใจเป็นอันดับแรก ต้องเชื่ออย่างไม่สั่นคลอนไม่ต้องสงสัยใด ๆ ว่า กรรมนั้นมีจริง ใครทำดีก็ต้องได้ดี ใครทำชั่วก็ต้องได้ชั่ว ในบางครั้งกรรมอาจจะส่งผลช้า เพราะจะเป็นไปตามลำดับ ตามหน้าที่ ตามเวลา และยังมีปัจจัยอื่น ๆ ประกอบไปด้วย แต่อย่างไรก็ต้องส่งผล กรรมหนักไม่ว่าจะฝ่ายใดก็ตามมีทั้งฝ่ายดีและฝ่ายไม่ดี อย่างช้าจะ 30 ปี หรือในชั่วชีวิตคนเราจะได้เห็นกัน หากทำดีแล้วก็ยังดวงตกอีก ทำอะไรก็ติดขัดไม่สำเร็จอีก ซึ่งอาจจะมาจากกรรมเก่าที่กำลังส่งผล โดยมีเจ้ากรรมนายเวรของเขาตามรังควาน ตามอาฆาตมาดร้ายอยู่ ซึ่งจะใคร่ขอแนะนำเคล็ดวิชาจากครูบาอาจารย์ในการแก้ดวงตกที่มาจากกรรมเก่าให้ลองไปใช้กันดู แล้วอย่าลืมว่า ถ้าไม่เชื่อ ไม่มีความศรัทธาขอร้องว่า อย่าไปทำเลย เพราะไม่ได้ผล จิตมันไม่ถึงจะเสียเงินทองไปเสียเปล่า ๆ

1.ให้รักษาศีลห้าอย่างมั่นคง เพราะการรักษาศีลห้าจะเป็นเครื่องมือช่วยในการป้องกันไม่ให้เราไปละเมิดกรรมไม่ดีต่อผู้อื่นอีก เป็นการหยุดการทำชั่วอย่างสิ้นเชิง ซึ่งคนดวงตกทั้งหลาย ถ้าหากยังละเมิดศีลห้าอยู่ผลกรรมที่จะได้รับ จนอาจจะทนทานไม่ไหวเลยก็ได้ เพราะแค่กรรมเก่ามาส่งผลยังลำบาก ยังดวงตกดิ่งนรกขนาดนี้ หากยังไปทำกรรมชั่วอีกคงหนักขึ้นหลายเท่า

การรักษาศีลห้านั้นเป็นเรื่องเร่งด่วน อย่างน้อยต้องศีลห้า ถ้าดวงตกหนักมากอาจจะต้องไล่ขึ้นไปอีกเป็นศีลแปด ศีลสิบ หรือถึงขั้นต้องบวชเพื่อถือศีล 227 อาศัยร่มกาสาวพักตร์เป็นเกราะป้องกัน ดังที่คนโบราณหรือครูบาอาจารย์ในอดีตกาลท่านทราบทางแก้ไขเรื่องนี้ดี ท่านจึงมักจะให้บวชเสียถ้าหากคนนั้นพบกับวิบากกรรมหนักหรือดวงตกหนัก ๆ จนดูแล้วจะไปไม่รอด

2.ใส่บาตรทุกวัน การใส่บาตรทุกวันนั้น เป็นการเสริมบุญให้กับตัวเองแบบง่าย ๆ ที่ทำได้

3.ทำสังฆทานใหญ่ เคล็ดวิชานี้มาจากครูบาอาจารย์ท่านสำคัญ ได้เมตตาให้กับคนดวงตกมาแล้วมากมายมหาศาล และเกิดผลดีทุกคน ไม่ว่าจะเป็นอดีตนายกรัฐมนตรีหลายท่านนักการเมือง ทหารระดับใหญ่ของประเทศ นักธุรกิจการค้า คนทั่วไปที่กำลังรับผลกรรมเก่าจนยากจะรับมือไหว้ เมื่อได้ทำครบถ้วนแล้ว ชะตาชีวิตดีขึ้นอย่างทันตาเห็น ท่านเมตตาให้ทำดังนี้

  • เตรียมอาหารคาวหวานครบ น้ำสะอาด ดอกไม้ธูปเทียน
  • วัตถุทานที่จัดเป็นปัจจัย 4 คือ เครื่องบวชพระไตรจีวร บาตรพระพร้อมตาลปัตร ยารักษาโรค ของใช้ของสงฆ์ต่าง ๆ ตามที่สมควร หนังสือธรรมะ 1 เล่ม
  • พระพุทธรูปประจำวันเกิดของตน ให้หน้าตัก 9 นิ้วขึ้นไปไม่ว่าจะเป็นวัสดุใดใช้ได้ทั้งนั้น
  • ถาดเงิน 1 ถาด (เอาไว้ใส่อาหารคาวหวานทั้งหมดรวมกัน)
  • ถาดทองเหลือง 1 ถาด (เอาไว้ใส่ของสงฆ์และพระพุทธรูป)
  • หากิ่งไม้สามง่าม 1 อันที่เหมือนเวลาเราทอดผ้าป่า
  • ถวายสังฆทานให้ได้บุญมากยิ่งขึ้น ให้ไปถวายกับพระสงฆ์ที่เป็นเจ้าคณะจังหวัดที่ตนเองอยู่ หรือพระสงฆ์ที่มีเนื้อนาบุญสูงเท่าที่เราจะหาได้ ถ้าหาไม่ได้จริง ๆ หรือไม่ทราบให้ถวานกับเจ้าอาวาสวัด หรือถ้าอยากจะให้บุญมากมายมหาศาลให้ตั้งจิตถวายแด่พระพุทธเจ้า หรือพระปัจเจกพุทธเจ้า พระอรหันต์ หรือครูบาอาจารย์ที่เรานับถือ เพื่อให้อานิสงส์ของบุญจะได้มากขึ้นทวีคูณ เวลาถวายให้เอากิ่งไม้นั้นตั้งขึ้นเหมือนที่เราเห็นในถังผ้าป่าทั้งหลาย เอาผ้าไตรจีวรนั้นพาด พระสงฆ์ท่านจะรับและชักออกไป เมื่อเสร็จสิ้นแล้วให้กรวดน้ำอุทิศบุญแผ่เมตตาให้เจ้ากรรมนายเวร การที่ครูบาอาจารย์ท่านแนะนำให้ถวายอาหารคาวหวานให้ครบนั้น เพราะเจ้ากรรมนายเวรบางท่านนั้นอยู่ในภาวะหิวกระหาย ไม่มีใครทำบุญไปให้ ยิ่งหิวก็ยิ่งโกรธแค้นหลายเท่ากับคนที่ทำให้เขาเป็นอย่างนี้ เครื่องบวชพระไตรจีวรนั้น จะเป็นเครื่องนุ่งห่มทิพย์ในกรณีที่เขาไม่มีเสื้อผ้าจะสวมใส่ การถวายพระพุทธรูปนั้น จะนำให้เข้าถึงระลึกได้ถึงพระพุทธเจ้าที่เป็นที่พึ่งของเขาได้จริง หนังสือธรรมะจะทำให้เขาเข้าใจในพระธรรมที่จะช่วยให้เขาพ้นทุกข์ได้จริง ลดความอาฆาตมาดร้ายลง ถาดเงิน ถาดทองนั้นเป็นการช่วยให้เขามีภาชนะเก็บกักของทิพย์ที่เขาได้รับและจะนำมาใช้เมื่อใดก็ได้ การทำสังฆทานใหญ่นี้ทำเดือนละ 1 ครั้งตรงกับวันเกิดสำหรับท่านที่ดวงตดมาก ๆ ต้องรีบทำเสียโดยด่วน เร็วที่สุดเท่าที่จะทำได้

หลายท่านที่ไม่มีเงินพอที่จะทำสังฆทานใหญ่แบบนี้ที่ต้องใช้เงินพอสมควร ขอแนะนำให้ไปที่วัดใดก็ได้ที่มีการเตรียมเครื่องสังฆทานไว้ให้แบบครบชุดที่เดี๋ยวนี้มีเกือบทุกวัด ให้ใช้วิธีทำผาติกรรมนำเงินใส่ซองจะ 10 บาท หรือ 5 บาทหรือเท่าใดก็ได้ ก็ครบถ้วนสมบูรณ์เหมือนกัน หรือถ้าวัดนั้น ไม่มีก็ขอเมตตาจากพระสงฆ์ท่าน ส่วนมากทุกวัดจะมีสิ่งของที่บอกไว้ครบ เราออกแรงขอท่านไปรวบรวมเอาสิ่งของดังกล่าวมาร่วมกันเป็นสังฆทาน แล้วขอผาติกรรมจากท่านก็ได้ เสร็จแล้วก็ไปคืนไว้ตามที่เอามา หรือท่านใดที่ดวงตกแต่ไม่มีเงินจริง ๆ หรือไม่สะดวกอยู่ในที่จำกัดไปไหนมาไหนไม่สะดวก ก็ให้เร่งถือศีลห้าและสวดมนต์ ทำสมาธิ เป็นการสร้างบุญโดยไม่ต้องเสียเงินแม้แต่บาทเดียว เพียง 3 อย่างนี้เท่านี้ก็แก้ไขได้แล้ว เพราะบางเจ้ากรรมนายเวรเขาต้องการเพียงเราสำนึกผิดกลับใจ และส่งบุญให้ เขาก็พอใจพร้อมถอนตัวออกไปจากการจองเวรนี้ หรือเพิ่มทานเข้าไปอีก เอาเงินสัก 1 บาทหรือสลึงหนึ่งก็ได้ใส่กระปุกไว้ก็ได้เพื่อจะให้ครบทั้งทาน ศีล ภาวนา ครบถ้วนในแต่ละวัน เมื่อเงินในกระปุกมีพอสมควรแล้วก็เอาไปถวายพระสงฆ์เป็นสังฆทานได้

การทำทานด้วยการหยอดเงินใส่กระปุกก่อนให้เป็นทาน แล้วอธิษฐานจิตเป็นสังฆทาน แล้วจึงสวดมนต์สมาทานศีล แล้วทำสมาธิในทุกเช้า จากชีวิตที่เคยลำบากมากมีเจ้าหนี้คอยตามรังควาน บ้านกำลังจะโดนยึด รถยนต์โดนยึด หรือมีแต่เรื่องที่ทำให้เสียหายมากมายก็จะทุเลาขึ้น จนดีวันดีคืน จึงอยากจะบอกเล่าให้ลองไปทำกันดู หรือแม้แต่ไม่มีเงินก็เอาแรงงานไปเช็ดถู ปัดกวาดทำความสะอาดลานวัด ทำความสะอาดหน้าพระประธาน และพระพุทธรูปที่รายล้อมอยู่ตามศาลาวัด หรือไปช่วยขนทรายขนปูนที่มีการก่อสร้างอะไรในวัดก็ตาม ร่วมทั้งไปช่วยกิจของสงฆ์ ช่วยงานโรงครัว โรงทานทำอาหารถวายพระ ช่วยล้างผลไม้ปอกผลไม้ ล้างจาน กวาดวัด ล้างห้องน้ำวัด และหรืออะไรก็ได้ที่เป็นของส่วนรวม และอุทิศบุญที่ทำนี้ให้แก่เจ้ากรรมนายเวรเขา แล้วอธิษฐานขอให้เป็นสังฆทานได้ทั้งนั้น และอย่าไปคิดเพียงแต่ว่า ต้องใช้เงินอย่างเดียวในการทำบุญสังฆทานเท่านั้น สำหรับการกรวดน้ำนั้น ควรทำทุกครั้งหลังจากสร้างบุญเสร็จเพื่อที่บุญจะได้ไม่ตกหล่น ถ้าลืมหรือติดธุระอะไรไม่ได้ทำ ถ้าเรานึกได้เมื่อใดก็ให้กรวดน้ำใหม่ในทันทีไม่ว่าจะเวลาไหนก็ตาม บุญที่เราทำนั้นไม่ได้หายไปไหน ซึ่งจะเห็นได้จากบุญเก่าและบาปเก่าในอดีตชาติที่กำลังจะส่งผลให้เราอยู่ในขณะนี้ก็จะไม่ได้หายไปไหนเช่นกัน

น้ำที่จะใช้ควรเป็นน้ำสะอาดเพื่อที่จะสื่อได้ง่ายและเร็ว เสร็จแล้วให้เอาน้ำนั้นไปเทราดใต้ต้นไม้กลางแจ้ง ในขณะที่เทน้ำให้ตั้งจิตอีกครั้ง และกล่าวขอให้พระแม่ธรณี ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ท้าวยมราช มาร่วมเป็นสักขีพยานในการสร้างบุญในครั้งนี้ ให้ท่านทั้งหลายที่เราอุทิศบุญให้มารับบุญไป และก็ถือว่า เป็นอันเสร็จสิ้นครบทุกประการตามหลักของครูบาอาจารย์ตั้งแต่ครั้นโบราณ แต่ถ้าไม่แน่ใจว่า ดวงจิตวิญญาณที่เราจะตั้งใจอุทิศบุญไปให้นั้น ท่านจะมารับได้หรือไม่นั้น เพราะบางดวงจิตวิญญาณถ้าไม่อยู่ในสภาวะที่จะรับบุญได้ เขาก็รับบุญไม่ได้ เช่น ถูกลงโทษในนรกชั้นลึกที่สุดเพราะมีกรรมหนักเขาก็มารับบุญไม่ได้ เหมือนนักโทษประหารหรือนักโทษขั้นเด็ดขาดที่ห้ามเยี่ยม ห้ามทุกอย่างไว้ก็เพราะทำกรรมหนักไว้ แต่มีวิธีแก้ไขให้ขอเมตตาฝากบุญไว้กับพระแม่ธรณี ท้าวจตุโลกบาลทั้ง 4 ท้าวยมราช เมื่อใดก็ตามที่เขามีความพร้อมจะรับบุญได้ ท่านก็จะเมตตาส่งเคราะห์ส่งบุญให้ได้

สังฆทานนั้นยิ่งทำบ่อย ยิ่งดี ทั้งสองทางทั้งสร้างบุญใหม่และลดกรรมไม่ดีได้เร็วมากยิ่งขึ้น

4.ต้องสวดมนต์และทำสมาธิทุกวัน ทั้งสองสิ่งนี้ขาดไม่ได้อย่างเด็ดขาด การสวดมนต์นี้เพื่อปรับฐานบุญ และทำให้ตนเองเกิดมงคล และการทำกรรมฐานเป็นการแก้กรรมหรือที่เรียกกันว่า “สมาธิแก้กรรม” นั้นเป็นของจริงที่พิสูจน์กันมาแล้วตั้งแต่ครั้งโบราณ และการสวดมนต์นั้น ควรทำในตอนเช้าและก่อนนอน แต่อย่าลืมว่า ต้องมีบทพื้นฐานในบทปลุกเสกตัวเองให้ศักดิ์สิทธิ์ก่อน และอยากแนะนำให้สวดบทยอดพระกัณฑ์ไตรปิฎกในทุกครั้ง และถ้าอยากเอาให้ได้ผลแบบเร็วทันใจให้สวดเลยอายุตนเอง 1 บท เช่น อายุ 30 ปี สวด 31 จบสวด ต่อเนื่องกันเป็นเวลา 15 วันอย่าขาด

เมื่อสวดมนต์แล้วให้นั่งสมาธิ และวิปัสสนาต่ออย่างน้อยวันละ 30 นาที เมื่อออกจากสมาธิเจริญภาวนาแล้ว ให้แผ่เมตตาอุทิศบุญให้เจ้ากรรมนายเวรทันที แบบเจาะจงด้วยวา โดยเฉพาะเจ้ากรรมนายเวรที่กำลังตามรังควานให้เกิดอุปสรรคอยู่ในขณะนี้ให้มารับบุญที่เกิดขึ้นนี้ แม้ว่า ดวงจะดีแล้ว ก็อย่าหยุดทำให้ทำต่อไป ดวงจะดียิ่งขึ้นร้อยเท่าพันเท่า

5.สงเคราะห์ปล่อยสัตว์ ให้ปล่อยปลาหมอหรือปลาไหลวันละ 8 ตัวทุกวันติดต่อกัน 7 วันหรือให้ครบ 7 ครั้ง (56 ตัว) ใน 1 เดือน การปล่อยสัตว์ก็ให้ไปดูเรื่องการสะเดาะเคราะห์ปล่อยสัตว์แบบได้บุญมาก ถ้าหาปลาหมอหรือปลาไหลไม่ได้ก็จะใช้ปลาอะไรก็ได้ที่คนเอามาทำเป็นอาหาร (หาซื้อได้ที่ตลาดสด) แบบว่า ปลาเขาต้องตายแน่ ๆ ถ้าเราไม่ไปช่วยเขาไว้ ไปที่ตลาดแล้วบอกแม่ค้าว่า ให้เลือกปลาที่คิดว่า กำลังจะฆ่าให้หน่อย ในสมัยพุทธกาล เณรน้อยที่แม้ถึงฆาตได้ช่วยปลาจากปลักให้ไปอยู่ในแหล่งน้ำที่สมบูรณ์ แล้วเณรน้อยยังรอดตายได้ แค่ดวงตกแค่นี้ ยิ่งได้ผลหลายเท่า

6.ร่วมสร้างถาวรวัตถุใหญ่ ๆ ทางพระพุทธศาสนา ไม่ว่าจะเป็นสร้างพระพุทธรูป สร้างโบสถ์ สร้างวิหาร หรือจะสร้างห้องน้ำ หรืออะไรก็ตามที่เป็นของใหญ่ ๆ และเป็นประโยชน์ต่อคนหมู่มาก ซึ่งจะเป็นทานใหญ่ที่ก่อให้เกิดโชคลาภ สำหรับการร่วมบริจาคสร้างนั้นไม่จำเป็นต้องเป็นเงินจำนวนมากเท่าใดก็ได้ แต่ต้องให้ตรงกับจำนวน หรือมากกว่าที่ตั้งใจไว้ เช่น ตั้งใจทำบุญสร้างพระพุทธรูป 1 บาทก็ต้อง 1 บาทและอย่าไปลดบุญตัวเองด้วยการทำเพียง 50 สตางค์เพราะเสียดายเงิน และให้ทำตามที่เราตั้งใจจริง ๆ เท่าไหร่ก็เท่านั้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *