ครีมบำรุงผิว (Moisturizer) ครีมบำรุงผิวทำหน้าที่ให้ความชุ่มชื้น ป้องกันไม่ให้ผิวหนังสูญเสียน้ำบางชนิด อาจมีคุณสมบัติพิศษ คือ สามารถดูดซึมน้ำให้ผิวหนังได้ ชนิดของครีมหรือโลชั่นที่ใช้มี 2 ชนิด คือ ครีมชนิดที่มีน้ำเป็นตัวหลัก ครีมชนิดนี้จะล้างออกได้ง่าย ไม่เหนียวเหนอะหนะ ซึ่งมักใช้เวลากลางวัน และใช้ในคนผิวปกติ ครีมบำรุงผิวชนิดที่ใช้น้ำมันเป็นตัวหลัก ซึ่งล้างออกยาก ทาแล้วเหนอะหนะ แต่จะทำให้ปริมาณน้ำในบริเวณผิวเพิ่มขึ้นได้มาก และอยู่นานกว่า จึงนิยมใช้ในคนผิวแห้งมาก ๆ และคนสูงอายุ มักไม่นิยมใช้ในคนผิวธรรมดา มีการสรุปวิธีทดสอบง่าย ๆ เพื่อแยกโลชั่นกับครีมบำรุงผผิวว่า มีอัตราส่วนของน้ำกับน้ำมัน โดยให้นำเอาครีมทาผิวและโลชั่นดังกล่าว ทาบริเวณผิวและลูบไล้ ถ้าพบว่า ผิวหนังรู้สึกเย็น แสดงว่า ครีมบำรุงผิวนั้นมีน้ำเป็นองค์ประกอบสำคัญ แต่ถ้าครีมมีน้ำมันเป็นองค์ประกอบสำคัญ จะทำให้รู้สึกอุ่น และที่บริเวณผิวหนังจะเป็นเงาใส เนื่องจาก น้ำมันที่ฉาบเคลือบผิวหนัง โดยสรุปได้ว่า ครีมทาผิว ครีมบำรุงผิวจะประกอบด้วย ส่วนสำคัญที่เป็นน้ำและน้ำมัน ซึ่งอาจเป็นน้ำมันพืช ขี้ผึ้ง น้ำมันสัตว์ หรือสารสังเคราะห์ที่มีลักษณะเป็นน้ำมัน น้ำมันจากเกลือแร่

นอกจากนี้ ยังมีสาร “อีมัลซิฟาย” (ตัวกระจาย) ซึ่งจะทำหน้าที่ทำให้น้ำผสมเข้ากับน้ำมันให้เป็นเนื้อเดียวกัน และก็มักจะมีสารที่ใส่เพิ่มเติม คือ น้ำหอม ยากันบูด สารกันการเกิดออกซิเดชั่น ซึ่งจะทำให้ครีมบำรุงผิวมีอายุการใช้งานยาวนานขึ้น แต่ก็มีข้อเสีย คือ จะสามารถทำให้เกิดอาการแพ้ระคายเคืองผิวได้ นอกจากนั้น อาจจะมีการเติมสารอื่น ๆ ลงไปด้วย แล้วก็โฆษณาออกมาเป็นจุดเด่นของครีมบำรุงผิวชนิดนั้น เช่น อาจใส่ วิตามินอี วิตามินซี คอลลาเจน วิตามินเอ อะโลเวรา (ว่านหางจระเข้) ลาโนลีน กรดไกลโคลิก เลซิติน ฮอร์โมน ฟอสโฟไลปิด เอ็มพีเอส ไลโพโซม เซราไมด์ อีลาสติน กรดแล็กติก ยูเรีย คิวเท็น เป็นต้น ซึ่งสารต่าง ๆ เหล่านี้ในบางชนิด พบว่า ก่อให้เกิดการแพ้แบบระคายเคืองได้ โดยอาจมีอาการคันยิบ ๆ โดยไม่มีผื่นให้เห็น หรืออาจจะทำให้เกิดอาการแพ้ได้ เป็นผื่นสีแดง เป็นขุย มีน้ำเหลือง และถ้ามีอาการดังกล่าวอาจต้องปรึกษแพทย์ เพื่อการวินิจฉัยที่ถูกต้องว่า แพ้สารชนิดใด โดยอาจนำเอาภาชนะที่บรรจุครีมทาผิวไปให้แพทย์ดูด้วย เพราะว่าจะมีการบอกส่วนประกอบของครีมบำรุงผิวข้างภาชนะที่บรรจุครีมทาผิวเพื่อแพทย์จะได้ทำการทดสอบ และเมื่อทราบว่า แพ้อะไรก็จะได้เลือกซื้อ และไม่ใช้ครีมบำรุงผิวที่ทำให้เกิดอาการแพ้ดังกล่าว

ปัจจุบัน มีการโฆษณาถึงผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวใหม่ ๆ ซึ่งโฆษณาว่า สามารถให้ความชุ่มชื้น โดยปราศจากน้ำมัน (Oil free) โดยพบว่า ผลิตภัณฑ์ครีมบำรุงผิวเหล่านี้ ไม่มีน้ำมันเป็นส่วนประกอบ มีแต่สารให้ความชุ่มชื้น (Humectant) เช่น กลีเซอรีน และใช้น้ำมันสังเคราะห์ สารพวกนี้ ยังก่อให้เกิดความมัน และกระตุ้นให้เกิดสิวได้ ดังนั้น คนที่เป็นสิว อาจต้องระมัดระวังเพิ่มมากขึ้น และอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาจนไม่คำนึงถึงผิวหน้าของเรา ครีมบำรุงผิวที่มีความมันมาก ๆ เนื้อข้น ๆ ก็ไม่ควรใช้บริเวณผิวหน้าของผู้ที่มีปัญหาเรื่องสิวอยู่ก่อนและอย่าหลงเชื่อคำโฆษณาของครีมบำรุงผิวที่บอกว่า ครีมจะซึมลึกไปออกฤทธิ์ในชั้นใต้ผิว เพราะไม่เป็นความจริง และไม่มีประโยชน์แต่อย่างใด เพราะว่าความแห้งเกิดขึ้นเฉพาะผิวชั้นนอกสุดของผิวหนังเท่านั้น

เพราะฉะนั้นใช้ครีมบำรุงผิวที่ให้ความชุ่มชื้นและออกฤทธิ์เฉพาะผิวนอกสุดก็เพียงพอแล้ว และอย่าดูแต่เพียงราคา ครีมทาผิวราคาถูกบางครั้งอาจเป็นครีมทาผิวหน้าที่ดีก็ได้ ในช่วงที่อากาศหนาวมาก ผิวหนังจะยิ่งแห้ง อาจต้องทาครีมบำรุงผิวบ่อยขึ้น และถ้าอากาศเริ่มร้อนอาจต้องใช้ครีมทาผิวในปริมาณลดลง นอกจากนั้น อาจต้องเปลี่ยนแปลงอุปนิสัยบางอย่าง เช่น อาบน้ำและฟอกสบู่ให้น้อยลง ควรใช้สบู่อ่อน อย่าอาบน้ำร้อน เพราะว่าการกระทำเช่นนี้จะทำลายไขมัน ทำให้ผิวแห้งมากขึ้น และเมื่ออาบน้ำเสร็จใหม่ ๆ ควรรีบทาครีมบำรุงผิว เพราะน้ำที่เกาะอยู่บริเวณผิวหนังจะดูดครีมที่ทากักเก็บไว้ทำให้เกิดความชุ่มชื้นได้ ครีมบำรุงผิวซึ่งให้ความชุ่มชื้นตามบริเวณที่ต่าง ๆ ของร่างกายในปัจจุบัน ได้มีการผลิตออกมาให้ใช้กับผิวหนังเฉพาะส่วนของร่างกาย เช่น ครีมทาริมฝีปาก ซึ่งนอกเหนือจากลบรอยย่น รอยแตกของริมฝีปากแล้ว ยังใส่สารที่ทำลิปสติกติดแน่น ไม่ซึมออกมาเปรอะนอกริมฝีปาก ครีมทำรอบดวงตา ซึ่งแก้ไขรอยเหี่ยวย่นเล็ก ๆ รอบดวงตา ครีมบำรุงผิวสำหรับกลางคืน (Night cream) ซึ่งพวกนี้มีส่วนประกอบที่มีน้ำมันเป็นตัวหลัก ทั้งหมดนี้มีผลให้แง่เพิ่มความชุ่มชื้นของผิวหนัง ฉะนั้น ควรเลือกใช้ให้เหมาะสมกับสภาพผิว ตามสภาวะอากาศ สิ่งแวดล้อม เพราะว่าผิวหนังของเราบางครั้งบางสภาวะ อาจไม่จำเป็นต้องใช้พวกมอยส์เจอร์ไรเซอร์ซึ่งให้ความชุ่มชื้น การที่จะมีผิวสวยสดใสได้ ไม่ใช่อยู่ที่ครีมบำรุงผิวอย่างเดียว อาหาร การหลีกเลี่ยงแสงแดด การดูแลผิวพรรณที่ถูกต้อง เช่น การรักษาความสะอาด การเลือกใช้เครื่องสำอางให้เหมาะสม โดยคำนึงถึงราคายุติธรรม สภาพผิวพรรณ การพักผ่อนนอนหลับให้เพียงพอ ควบคุมอารมณ์อย่าให้เครียด รวมทั้งการออกกำลังกาย ทั้งหมด คือ สิ่งที่สำคัญมากในการรักษาผิวพรรณอย่างถูกวิธี