การเลือกใช้แชมพูให้เหมาะกับเส้นผมต่าง ๆ ผมแห้ง เกร็ดความรู้คู่ผมสวย

แชมพูต้องประกอบด้วยสารชำระล้าง (detergent) ซึ่งจะมีส่วนที่เป็นสารลดความตึงผิวของน้ำ และส่วนที่ขจัดความกระด้าง นอกจากนั้น ยังมีไขมันบางชนิด วิตามิน สี น้ำหอม สารกันเสีย สารทำให้เกิดฟอง สารขจัดรังแค ซึ่งแต่ละบริษัทที่ผลิตแชมพูออกมา อาจจะมีส่วนประกอบที่แตกต่างกันบ้าง ก็ขึ้นกับความพอใจและวัตถุประสงค์

ท่านควรเลือกใช้แชมพูให้เหมาะสมกับตัวท่านเอง ซึ่งก็เหมือนกับการเลือกใช้สบู่ คือ ใช้แล้วต้องไม่แพ้ ซึ่งบางคนอาจแพ้สารน้ำหอมในแชมพู และบางคนแพ้สารที่ช่วยให้เกิดความคงตัวของแชมพู เช่น แอลบูมิน ฟอร์มาลดีไฮด์ และบางคนชอบใช้แชมพูสมุนไพร เพราะชอบเรื่องของกลิ่นสมุนไพร ซึ่งแต่ละท่านก็คงจะชอบไม่เหมือนกัน แต่ก็มีจุดประสงค์เดียวกัน คือ ทำให้ผมและหนังศีรษะสะอาด สดใส สบายหนังศีรษะ และไม่ก่อให้เกิดอาการคันหนังศีรษะ

ข้อสำคัญอีกประการ คือ ราคาไม่ควรแพงเกินไปโดยใช่เหตุ แชมพูที่ใช้ไม่ควรมีความเป็นกรดหรือด่างมากเกินไป ควรมี ph อยู่ระหว่าง 5 – 8 แชมพูสระผมส่วนมากซึ่งจำหน่ายตามท้องตลาดจะมีฤทธิ์เป็นด่าง ดังนั้น จึงต้องระวังเวลาสระไม่ควรให้เข้าตา เพราะอาจเกิดอาการระคายเคืองนัยน์ตาได้

แชมพูสำหรับผมแห้ง

สำหรับผมแห้ง ผมที่ต้องเป่า ผมที่ต้องดัดบ่อย ๆ ควรมีส่วนผสมของ surfactant (สารที่ชำระล้างทำความสะอาดเอาความมันออกจากเส้นผม) หลายชนิด เช่น โปรตีน เพื่อบำรุงเส้นผม หลังสระผมอาจต้องใช้ครีมนวดเพื่อป้องกันเส้นผมพันติดกันเวลาหวี

แชมพูสำหรับผมมัน

สำหรับผมมัน ใช้แชมพูที่มีส่วนผสมของ aikylsulphate ซึ่งอยู่ในกลุ่มของ anionic surfactant (คือ สารที่ละลายน้ำแล้วได้ประจุลบ) ซึ่งมีคุณสมบัติในการชำระล้างสิ่งสกปรกได้ดี

แชมพูสำหรับนักว่ายน้ำ

สำหรับนักว่ายน้ำ ควรใช้แชมพูที่มีส่วนประกอบของสารที่สามารถจับกับคลอรีน เพื่อให้คลอรีนหลุดจากเส้นผม เช่น สารในกลุ่ม non ionic surfactant , amphoteric surfactant

แชมพูเด็ก

สำหรับเด็ก เหมาะสำหรับคนผมแห้ง พวกแพ้ง่าย และผมเด็ก แชมพูประเภทนี้ สามารถหาซื้อได้ง่าย ไม่มีสารระคายเคืองผิวและเยื่อบุตา เหมาะสำหรับเด็ก เนื่องจาก ผมยังไม่มันมาก

แชมพูขจัดรังแก

ควรมีส่วนผสมของเซเลเนียมซัลไฟด์ คีโตโคนาโซล ซิงก์ไพริไทออน น้ำมันดิน อาจมีการใส่สารกรดซาลิไซลิก ซัลเฟอร์ ไพรอคโทนโอลามีน รีซอร์ซินอล เพื่อช่วยเพิ่มประสิทธิภาพในการกำจัดรังแค

ปัจจุบันแชมพูประเภทต่าง ๆ มักมีส่วนผสมของสมุนไพร หรือส่วนผสมของวิตามินบำรุงผิวอื่น ๆ เช่น อะโลเวรา วิตามินอี เพื่อช่วยบำรุงเส้นผม เมื่อใช้สระผมควรทิ้งไว้ประมาณ 3 – 5 นาที ซึ่งจะเป็นผลดีต่อหนังศีรษะมากน้อยเพียงไร หรืออย่างไร ยังเป็นที่ฉงนอยู่

เกร็ดน่ารู้คู่ผมสวย

  • หลังสระผมควรเช็ดผมให้แห้งโดยค่อยๆ ซับ อาจใช้ไดร์เป่าผมร่วมกับการใช้แปรง
  • แปรงที่ใช้หวีผมควรใช้แปรงหวีซี่ห่าง ๆ เพื่อที่จะได้ไม่เสียดสีเส้นผม หรือขัดถูเซลล์ของเส้นผมชั้นนอก ซึ่งเป็นเกราะให้เสียไป และการแปรงผมควรใช้ขนแปรงที่มีคุณภาพดี ไม่ควรใช้แปรงที่มีขนแหลมแข็ง และการแปรงผมจะสามารถช่วยกระจายน้ำมันหล่อเลี้ยงเส้นผมได้อย่างทั่วถึง จะทำให้เส้นผมนุ่มสลวยเป็นเงางาม
  • การเป่าผมด้วยความร้อนสูง และกรกัดสีผมด้วยสารเคมี ถ้าไม่จำเป็นควรหลีกเลี่ยง เนื่องจาก สิ่งเหล่านี้จะเป็นสาเหตุให้เส้นผมแห้งและเสียอย่างรุนแรงได้
  • ถ้าคุณต้องอยู่ท่ามกลางแสงอาทิตย์เป็นเวลานาน อาจต้องหาหมวก หรือผ้าคลุมผม เพื่อป้องกันผมไม่ให้ถูกความร้อนจากแสงแดดแผดเผา
  • อย่ารวบ หรือทำผมทรงที่ต้องดึงรั้งรากผมมากเกินไป เพราะจะทำให้ผมร่วงได้
  • ถ้าต้องว่ายน้ำอาจต้องใส่หมวกว่ายน้ำ เพื่อป้องกันเส้นผมทุกครั้ง
  • อย่าสางผมในขณะที่ผมยังเปียก เพราะจะทำให้ผมแตกปลาย เปราะ ขาดง่าย
  • ควรทำความสะอาดอุปกรณ์เครื่องมือทุกชนิดที่เกี่ยวกับการจัดแต่งดูแลทรงผมทุกครั้งที่ใช้
  • ควรจัดแต่งทรงผมที่เข้ากับสภาพเส้นผมของคุณ เช่น ควรตัดผมในลักษณะเรียบแต่เก๋ในรายที่มีเส้นผมทิ้งตรงการทำลอนบาง ๆ สำหรับผู้ที่มีผมหยักศก เป็นต้น
  • ควรตัดเล็มเส้นผมทุก 4 – 6 สัปดาห์ เพื่อให้คุณดูดีอยู่เสมอ

เส้นผมมีความสำคัญอย่างมาก ทรงผมที่งดงามเหมาะกับรูปหน้าของคุณ เรือนผมที่มีสุขภาพดี เป็นประกาย จะเป็นการเสริมบุคลิกภาพของคุณให้สง่า และโดดเด่นได้เป็นอย่างมาก เส้นผมที่มีสุขภาพดีจะเป็นสิ่งบ่งบอกถึงสุขภาพร่างกายที่แข็งแรงปราศจากโรคภัยไข้เจ็บ นอกจากนั้น การดูแลรักษาสุขภาพทั่วไป รับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ การทำจิตใจให้ร่าเริงแจ่มใส สามารถจะทำให้สุขภาพผมของคุณดีตามไปด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *