เรื่องเกี่ยวกับประจำเดือน อาการปวดระดู ปวดประจำเดือน ไข้ทับระดู

ประจำเดือนแต่ละคนจะแตกต่างกัน ซึ่งขึ้นอยู่กับฮอร์โมนเพศ ซึ่งประจำเดือนเป็นเพียงเยื่อบุผนังมดลูกที่หลุดออกมาปนกับเลือด ที่ออกจากเส้นเลือดฝอย มาเลี้ยงเยื่อบุผนังมดลูก แต่ที่เห็นเป็นสีดำคล้ำ เนื่องจาก เลือดออกน้อยและมาตกค้างอยู่ในช่องคลอด ก่อนที่จะไหลออกสู่ภายนอก จึงกลายเป็นสีคล้ำและเหมือนเลือดเก่า ปกติประจำเดือนจะเป็นน้ำเลือด จะไม่เป็นก้อนหรือลิ่มเลือด แต่อาจมีลิ่มเลือดได้ในกรณีที่มีเลือดออกมาก ๆ

ประจำเดือนจะมาทุก ๆ 28 วัน อาจเร็วหรือช้าไม่เกิน 7 วัน แต่ละครั้งนาน 3 – 5 วัน ไม่เกิน 7 วัน จำนวนเลือดประมาณ 30 – 150 ซี.ซี. หรือใช้ผ้าอนามัย 3 – 4 ชิ้นต่อวัน เลือดจะออกมามากในวันที่ 1 และ 2 และค่อย ๆ ลดน้อยลง ลักษณะควรเป็นน้ำเลือด วันแรกมีสีแดงค่อนข้างสด ต่อไปจะมีสีคล้ำขึ้น จนกลายเป็นสีน้ำตาลแล้วค่อย ๆ จางไป

ตามปกติจำนวนเลือดประจำเดือนที่ออกต้องไม่มากผิดปกติ คือ ประมาณ 100 – 150 ลบ.ซม. (หรือใช้ผ้าอนามัยซับเลือดประมา 3 ผืนต่อวัน) ซึ่งจะมีมากเฉพาะวันที่ 1 และ 2 ช่วงการมีประจำเดือน จะกินเวลา 3 – 7 วัน ควรรับประทานอาหารที่มีคุณค่า เช่น เนื้อ นม ไข่ ผักสด ผลไม้ โดยเฉพาะตับ ซึ่งมีธาตุเหล็กไปเสริมสร้างเม็ดเลือดโลหิตแดงที่สูญเสียไป และรวมทั้งการทำจิตใจให้ผ่องใสอย่าวิตกกังวลหรือเครียดก็จะช่วยให้ประจำเดือนมาสม่ำเสมอได้

อาการปวดประจำเดือน ปวดระดู

อาการปวดประจำเดือน ปวดระดูมักเป็นในเด็กรุ่นสาวหลังจากมีระดูครั้งแรกไปแล้ว 2 – 3 ปี จะปวดบริเวณท้องน้อย เหนือหัวเหน่า โดยเริ่มปวดในวันแรกของการมีระดูทุก ๆ เดือน เป็นการปวดแบบปวดถ่วงที่ท้องน้อย ตรงกลางและร้าวไปที่สะโพกด้านหลังและต้นขา หรือปวดแบบบิด ๆ เหมือนการเจ็บท้องคลอด เป็นผลจากการหดรัดของตัวมดลูกเพื่อขับเลือดออกมา ความรุนแรงแตกต่างกันในหญิงแต่ละคน บางคนรุนแรงทุรนทุรายควบคุมตนเองไม่ได้ บางคนมีอาการเบื่ออาหาร คลื่นไส้ อาเจียน ท้องเดิน อ่อนเพลีย ปวดศีรษะ และหงุดหงิดมาก บางคนปวดอยู่ไม่กี่ชั่วโมงก็ทุเลาหายไป แต่บางรายปวดอยู่หลายวัน อาการปวดระดูอาจหายไปได้ภายหลังหญิงนั้นตั้งครรภ์และคลอดบุตรซึ่งเชื่อว่า เป็นเพราะปากมดลูกที่ถ่างขยายออก การแก้ไขอาการปวดระดูช่วยได้โดยรับประทานยาแก้ปวดชนิดธรรมดา หรือใช้กระเป๋าน้ำร้อนประคบบริเวณท้องน้อย จะบรรเทาอาหารได้บ้าง การออกกำลังกายอย่างเพียงพอ และสม่ำเสมอ ช่วยป้องกันมิให้อาการรุนแรงได้

การปวดประจำเดือนแบบนี้ ทางการแพทย์ถือเป็นเรื่องเกิดขึ้นได้ คือ เนื่องจาก เยื่อบุมดลูกงอกผิดตำแหน่ง คือ มางอกอยู่บริเวณ อวัยวะเพศ หรือบริเวณระหว่างช่องคลอดกับทวารหนัก ทำให้ปวดบริเวณทวารหนักด้วย ถ้ายังไม่ได้แต่งงานให้ใช้ยาแก้ปวดพาราเซตามอล บารัลแกน หรือพอนสแตนก็ได้ ไม่ต้องกลัวติดยา เพราะใช้เดือนละครั้งเดียว ถ้ายังไม่ทุเลาให้ปรึกษาแพทย์เพื่อการรักษาที่ถูกต้อง ซึ่งแพทย์อาจจะใช้ประเภทฮอร์โมนช่วย บางรายอาการปวดท้องจะน้อยลง หรือหายไปเลยหลังจากมีลูกแล้ว อย่างไรก็ดี ควรหาสาเหตุเสียก่อนว่า เป็นอาการปวดประจำเดือนที่ผิดปกติหรือไม่ ถ้าอยู่ในวัย 30 ปีขึ้นไป ปวดประจำเดือนตลอดระยะเวลาของการมีประจำเดือน และอาการปวดทวีความรุนแรงมากขึ้นทุกเดือนให้ปรึกษาแพทย์ทันที แต่ถ้าเป็นวัยไม่เกิน 30 ปี หรืออายุยังน้อยมีอาการปวดเฉพาะวันแรกให้กินยาแก้ปวดได้ ปัจจุบันมียาแก้ปวดประจำเดือนเฉพาะซึ่งไปลดสารบางอย่างที่หลั่งออกมาจากตัวมดลูก ซึ่งเป็นสาเหตุโดยตรงของอาการปวดประจำเดือน ยานี้ให้ผลค่อนข้างดี แต่ถ้าจะใช้ประเภทนี้ ควรปรึกษาสูติแพทย์ก่อนเสมอ เพราะว่าอาจแพ้ยาและยาประเภทนี้มีผลทำให้ปวดกระเพาะอาหาร ควรรับประทานหลังอาหารทันที อย่างไรก็ตาม การออกกำลังกายสม่ำเสมอและรับประทานอาหารที่มีประโยชน์คงเป็นยาแก้ปวดที่ดีที่สุด

การปฏิบัติตัวขณะมีประจำเดือน

การปฏิบัติตัวขณะมีประจำเดือน ให้รักษาความสะอาดของร่างกาย ใส่ผ้าอนามัยที่สะอาดและเปลี่ยนบ่อย ๆ เปลี่ยนกางเกงในวันละครั้ง ไม่ควรอาบน้ำในสระน้ำสาธารณะ หรือแช่ในอ่างอาบน้ำ เพราะอาจติดเชื้อโรคในช่องคลอดได้ ไม่ควรออกกำลังกาย โลดโผนจนเกินไป แต่ควรออกกำลังกายเพื่อให้เลือดไหลเวียนได้สะดวก ร่วมเพศได้ แต่ควรระวังการติดเชื้ออาจทำให้ลุกลามเข้าไปในมดลูกได้ สำหรับอาการเอนที่ร่วมกับประจำเดือน เช่น ปวดศีรษะ ปวดท้องน้อย ถ้าเป็นไม่มากให้นอนพักผ่อน และรับประทานยาแก้ปวด ถ้าเป็นมากควรปรึกษาแพทย์

แพทย์ทั่ว ๆ ไป เห็นว่า ผู้หญิงปฏิบัติตนเองได้เป็นปกติขณะมีรอบเดือน การออกกำลังกาย อาบน้ำฝักบัว และสระผมไม่มีอันตรายใด ๆ ต่อร่างกาย แต่ไม่ควรแช่ในอ่างน้ำสาธารณะ แม้การร่วมเพศระหว่างการมีประจำเดือนก็ไม่เป็นข้อห้ามทางการแพทย์ แต่อย่างไรก็ตาม ในวันที่มีเลือดออกมาก ๆ จะทำให้สกปรกเลอะเทอะและมีโอกาสที่จะให้ติดเชื้อต่าง ๆ ได้ง่ายกว่าเวลาไม่มีประจำเดือน

ขณะมีประจำเดือน สามารถเล่นกีได้ แต่อย่าเล่นให้หักโหมจนเกินไป โดยเฉพาะคนที่มีอาการปวดท้อง ควรนอนพักผ่อนและรับประทานยาแก้ปวด แต่ถ้ามีความจำเป็นที่จะต้องแข่งขัน กีฬาถ้าอยากปรับเลื่อนประจำเดือนก็ย่อมทำได้ โดยใช้ออร์โมนซึ่งมีอยู่ในยาเม็ดคุมกำเนิด แต่ต้องมีการวางแผนล่วงหน้าและควรปรึกษาแพทย์เพื่อเริ่มต้นเสียแต่เนิ่น ๆ

อาการร่วมขณะมีประจำเดือน

ในสตรีบางท่าน ขณะมีประจำเดือน อาจมีอาการที่เกิดร่วมกับการปวดประจำเดือน อาจมีการอ่อนเพลีย ปวดหลัง ปวดท้อง ปวดท้องเดิน ปวดศีรษะ เรียกรวมว่า ภาวะเครียดก่อนมีประจำเดือน เกิดหลังจากที่มีไข่สุกมีทั้งอาการทางด้านจิตใจ เช่น อารมณ์อ่อนไหวเปลี่ยนแปลงง่าย หงุดหงิด และอาการทางด้านร่างกาย บางคนอาจมีอาการคั่งของของเหลวตามส่วนต่าง ๆ ของร่างกายทำให้มือเท้าบวม ท้องขยายโตขึ้น เจ็บปวด ตึงเต้านม เต้านมขยายโตขึ้น เป็นสิว เป็นต้น สาเหตุโดยตรงเป็นเรื่องของฮอร์โมนที่เพิ่มขึ้น ฮอร์โมนโปรเจสเตอโรนที่สร้างขึ้นในรังไข่ จะทำให้มีอาการเหมือนคนตั้งครรภ์ คือ หิวบ่อย รับประทานอาหารบ่อย ส่วนฮอร์โมนเอสโตรเจน ทำให้เกิดอาการหงุดหงิด ขี้ใจน้อย ปัญหานี้แก้ไขได้ โดยออกกำลังกายสม่ำเสมอ เพราะสารที่ร่างกายหลั่งออกมาเพิ่มหลังจากการออกกำลังกายจะช่วยปรับสภาพการทำงานของระบบย่อยอาหารและระบบของจิตใจให้มีสภาพสมดุล ทำให้ลดอาการหงุดหงิด กินเก่ง ลงไปได้

นอกจากนี้ ความเครียดมีผลต่อการปวดประจำเดือน เพราะความเครียดจะทำให้ระบบรอบเดือนผิดปกติได้ ศูนย์ควบคุมรอบเดือนของผู้หญิงอยู่ที่ต่อมใต้สมองเปรียบเหมือนเจ้านายของรังไข่ ซึ่งจะสร้างฮอร์โมนออกมาควบคุมการทำงานของรังไข่ ดังนั้น ความเครียดอันเกิดจากการใช้สมองมากเกินไป หรือนอนหลับพักผ่อนน้อยเกินไป จะทำให้มีการปวดประจำเดือนมากขึ้น รุนแรงขึ้น เพราะระดับฮอร์โมนแปรปรวนไป ทำอย่างไรจึงจะขจัดความเครียดได้ เป็นการแก้ที่สาเหตุมากกว่าการกินยาแก้ปวด ซึ่งจะแก้ปัญหาในระยะสั้น การออกกำลังกายจะช่วยได้มาก การผ่อนคลายทางด้านจิตใจจะทำได้มากหรือน้อยขึ้นอยู่กับนิสัยใจคอของแต่ละคน

ไข้ทับระดู เป็นโรคที่เราได้ยินมาตั้งแต่สมัยคุณแม่ คุณย่า คุณยาย เป็นคำที่ใช้มาแต่โบราณ ความจริงทางการแพทย์ หมายถึง โรคอุ้งเชิงกรานอักเสบเรื้อรัง อาจจะเป็นการติดเชื้อจากสามีที่สำส่อนมีเชื้อกามโรคโดยเฉพาะเชื้อหนองใน ทำให้เกิดการติดเชื้อหนองในบริเวณตัวมดลูกและรังไข่ ทำให้เกิดการอักเสบเรื้อรัง มีผลทำให้มีบุตรยากทำให้ช่วงมีประจำเดือนรุนแรงและไม่ไข้สูง แต่ในสมัยปัจจุบันมีโรคนี้น้อยลง เพราะคนหนุ่มสาวมีความรู้ระมัดระวังในเรื่องการป้องกันโรคมากขึ้น

อย่างไรก็ดี การดื่มน้ำมะพร้าว น้ำเย็น สระผม ทำให้ประจำเดือนหมดจริงนั้น ยังไม่มีรายงาน แต่คนทั่วไปมักจะบอกต่อ ทำให้เกิดความกังวลและกลัว ถ้างดได้ก็น่าจะดี เพราะจะทำให้เราไม่เครียดหรือกังวลได้

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *