ไม่มีใครชอบโชคร้าย เวลาถูกโชคร้ายมาตามรังควาน ซึ่งคนแต่ละชาติเลยต้องหาทางปัดเป่ากันอย่างสุดฤทธิ์ วิธีการเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดีของชาติไหนจะเปรี้ยวจี๊ดได้ใจมหาชนเป็นที่สุด ไม่ว่าจะมีเคราะห์เพราะกระจก ใครทำกระจกแตกจึงต้องรีบสะเดาะเคราะห์ อาบน้ำล้างซวย ไล่โชคร้ายด้วยเกลือ ค้างคาวบินผ่าน แมวดำเป็นเหตุ งานศพห้ามไป แก้เคล็ดด้วยโลงศพ เป็นการเปลี่ยนโชคร้ายให้กลายเป็นโชคดีของแต่ละชาติ

มีเคราะห์เพราะกระจก ชาวตะวันตกเชื่อว่า กระจก คือ สิ่งที่สะท้อนวิญญาณของคนเรา ถ้าใครทำกระจกแตกก็เหมือนทำให้วิญญาณบาดเจ็บ เจ้าของวิญญาณจะต้องดวงตกไป 7 ปีเต็ม ๆ จะทำงานทำการอะไรก็ไม่รุ่ง แถมไปไหนก็ต้องคอยระวังตัว เพราะดีไม่ดีอุบัติเหตุอาจจะวิ่งมาเสยเอาดื้อ ๆ

ใครทำกระจกแตกจึงต้องรีบสะเดาะเคราะห์ ด้วยการเอาเศษกระจกที่แตกทั้งหมดไปฝัง และตลอดเวลาที่ปฏิบัติการอยู่นั้นก็ต้องเชิดหน้าชูคอเข้าไว้ ห้ามก้มลงมองเศษกระจกในมือเป็นอันขาด ที่สำคัญจะต้องฝังกระจกในตอนกลางคืนที่พระจันทร์กำลังขึ้นเท่านั้น ยิ่งถ้าเป็นคืนเดือนหงายได้ยิ่งดี ดวงจะได้รุ่งพุ่งฉิวเหมือนพระจันทร์เต็มดวง

ไล่โชคร้ายด้วยเกลือ เกลือกับชาวตะวันตกนั้นมีความผูกพันกัน เพราะในสมัยโบราณนั้น ฝรั่งผลิตเกลือเองไม่ได้ ต้องนั่งเรือไปซื้อถึงตะวันออกไกล เกลือเลยกลายเป็นของล้ำค่า เกลือเป็นสิ่งที่ควรแก่การเทิดทูนบูชา ฝรั่งเชื่อว่า ถ้ามีใครบังอาจทำเกลือหก จะมีโชคร้ายจะมาเคาะประตูบ้าน และวิธีเดียวที่จะสะเดาะเคราะห์ทำให้โชคร้ายกลายเป็นโชคดีได้ก็ด้วยการสาดเกลือเข้าไปในกองไฟเพื่อเผาโชคร้ายที่มาเล่นงานให้ไหม้เป็นจุณไป แล้วที่เด็ดดวงกว่านั้น คือ พวกฝรั่งสามารถเลือกได้ว่า จะให้โชคร้ายของตัวเองนั้นไปตกอยู่ที่ใคร โดยระหว่างที่กำลังเผาเกลือนั้น ก็จะให้อธิษฐานไปด้วยว่า จะให้โชคร้ายลอยไปหาใคร ซึ่งส่วนใหญ่นั้นก็จะส่งไปให้กับศัตรูหรือคนที่กำลังเหม็นขี้หน้ากัน หรือคล้าย ๆ กับการเผาพริกเผาเกลือสาปแช่งแบบไทยเรานี่เอง

อาบน้ำล้างซวย ในทุกวันที่ 24 มิถุนายนของทุกปี ชาวเปอร์เซียโตริกันจะมีเทศกาลสำคัญเรียกว่า “เทศกาล “ลา นอช เดอ ซาน ฮวน” (La Noche de San Juan) ซึ่งจัดขึ้นเพื่อรำลึกถึงนักบุญคนสำคัญ และเชื่อกันว่า วันนี้เป็นวันศักดิ์สิทธิ์ ทำให้น้ำในแม่น้ำพลอยได้รับพลังพิเศษไปด้วย ถ้าลงไปอาบน้ำในแม่น้ำ หรือทะเลตอนเที่ยงคืนของวันที่ 23 มิถุนายน จะช่วยรักษาโรค ชำระล้างความโชคร้าย และนำโชคดีมาให้ ความเชื่อนี้ คล้ายกับคนไทยที่เราเชื่อกันว่า ถ้าได้อาบน้ำตอนเที่ยงคืนของวันลอยกระทง ชีวิตจะมีแต่สุขสมหวัง

ค้างคาวบินผ่าน ฝรั่งไม่ค่อยพิศวาสเจ้านกมีหู หนูมีปีกตัวนี้นัก เลยเกิดเป็นข่าวเม้าท์กันแล้วร่ำลือกันว่า ถ้าค้างคาวบินเข้าบ้าน และเห็นนกฮูกร้อง 3 ครั้ง เจอผีเสื้อทีเดียว 3 ตัว หากได้ยินไก่ขันตอนกลางคืน หรือรูปภาพร่วงลงมาจากที่แขวน ซึ่งทั้งหมดนี้ ถือว่าเป็น อาเพศ แปลว่า เจ้าของบ้านนั้น กำลังจะมีเคราะห์ ส่วนวิธีสะเดาะเคราะห์ให้โชคร้ายกลายเป็นโชคดีก็คือ ต้องหาทางย้อนเวลากลับไปตอนที่เหตุการณ์นี้ยังไม่ได้เกิดด้วยการหมุนตัวทวนเข็มนาฬิกา 3 รอบ แล้วความโชคร้ายก็จะหายไปเอง

แมวดำเป็นเหตุ ในบรรดาสัตว์ที่ไปเกิดทางซีกโลกตะวันตกทั้งหมด “แมวดำ” จัดว่า เป็นสัตว์สี่ขาหน้าขนที่อาภัพรักมากที่สุด เพราะฝรั่งทั้งเกลียดทั้งกลัวมันจนไม่มีใครอยากจะเลี้ยง และถ้าแมวดำเดินผ่านหน้าใครคน ๆ นั้น ต้องพบกับคลื่นความซวยระลอกใหญ่ชนิดชาตินี้ไม่มีวันได้ผุดได้เกิด วิธีทางแก้โชคร้ายกลายเป็นโชคดีก็คือ ต้องเดินถอยหลังตรงจุดที่แมวเดินผ่านเป็นจำนวน 13 ก้าวเพื่อล้างอาถรรพ์

แก้เคล็ดด้วยโลงศพ เรื่องของโลงศพ ฝรั่งยังไม่ค่อยเชื่อกันนัก แต่คนเอเชียเรา เช่น คนไทย คนเกาหลี เชื่อกันมากว่า ถ้าดวงตกสุดขีดถึงขั้นชะตาขาด ต้องลงไปนอนในโลงศพแล้ว ให้พระทำพิธีสวดบังสุกุลให้ เป็นการแก้เคล็ดว่า เราได้ตายไปครั้งหนึ่งแล้ว เมื่อออกจากโลงก็เท่ากับเป็นคนใหม่ ถือว่า เป็นการแก้โชคร้ายให้กลายเป็นโชคดี เป็นการต่ออายุ และขับไล่โชคร้ายให้หมดไป

งานศพห้ามไป คนไทยและคนจีนนั้น เชื่อกันว่า “งานศพ คือ ความอัปมงคล” ในพื้นที่จัดงานจะมีวิญญาณของคนที่เพิ่งตายและวิญญาณเก่า ๆ ที่ไม่ได้ไปผุดไปเกิดล่องลอยอยู่ในบริเวณงานศพ ซึ่งคนที่กำลังดวงจิตอ่อนแอ เช่น คนแก่ คนป่วย คนดวงตก และคนกำลังท้อง จึงไม่ควรไปงานศพเด็ดขาด ไม่อย่างนั้นดวงวิญญาณร้ายจะถือโอกาสเกาะติดกลับมาบ้านด้วย ซึ่งสำหรับคนธรรมดานั้นเมื่อกลับจากไปงานศพแล้ว ต้องเอายอดทับทิมแช่น้ำแล้วเอาน้ำนั้นมาล้างหน้า เพื่อจะล้างสิ่งอัปมงคลที่ติดตัวมาออกไปก่อน แล้วจึงจะเข้าบ้าน เพราะคนจีนถือว่า ทับทิมเป็นผลไม้สวรรค์ และทับทิมมีอำนาจเหนือภูตผีปีศาจทั้งปวง