เวทมนตร์ไสยดำ เดรัจฉานวิชา เลขยันต์ การทำเสน่ห์ยาแฝด การทำคุณไสย และการสาปแช่ง

ความเชื่อเรื่องเวทมนตร์คาถาฝ่ายร้าย คือ “ไสยดำ หรือเดรัจฉานวิชา (Black Magic)” ซึ่งเป็นวิทยาการที่ใช้พลังงานทางจิตประกอบเวทมนตร์คาถา โดยใช้วิญญาณของมนุษย์หรือวิญญาณของสัตว์ไปทำร้ายผู้อื่นให้เกิดความเจ็บป่วยหรือเสียจริต หรือเกิดความวิบัติฉิบหายต่าง ๆ นานา วิทยาการลึกลับเกี่ยวกับเวทมนตร์คาถาฝ่ายร้าย ไสยดำหรือเดรัจฉานวิชานี้แบ่งออกเป็นสาขาใหญ่ ๆ 3 สาขา แต่ละสาขาแบ่งออกเป็นสาขาย่อย ๆ อีก 1,580 สาขา และยังแบ่งเป็น 3 ประการด้วย คือ การทำเสน่ห์ยาแฝด การทำคุณไสย และการสาปแช่ง สาขาใหญ่ ๆ 3 สาขานี้ คือ

  1. เวทมนตร์คาถาฝ่ายร้าย (ไสยดำ เดรัจฉานวิชา) ว่าด้วย “วิชานัพนาพี” คือ วิชาลึกลับที่ใช้พลังงานของจิตประกอบเวทมนตร์คาถา เลขยันต์ บังคับให้วิญญาณมนุษย์ที่ดุร้าย หรือวิญญาณของสัตว์เดรัจฉานที่ดุร้ายไปทำร้ายผู้อื่นให้เกิดเจ็บป่วยล้มตาย หรือเกิดวิบัติฉิบหายต่าง ๆ เช่น การทำเสน่ห์ยาแฝด ฝังรูป ปล่อยคุณไสยไปเข้าผู้อื่น ผู้ที่จะใช้วิชาเหล่านี้จะต้องเรียนรู้ถึงธรรมชาติของวิญญาณมนุษย์และวิญญาณของสัตว์ต่าง ๆ โดยเฉพาะ และสามารถเรียกมาบังคับให้ปฏิบัติตามคำสั่งได้
  2. เวทมนตร์คาถาฝ่ายร้าย (ไสยดำ เดรัจฉานวิชา) ว่าด้วย “วิชานาฟิอี” คือ คือ วิชาลึกลับที่ใช้พลังงานของจิตประกอบเวทมนตร์ เลขยันต์ บังคับให้วิญญาณของผู้ตายนำพิษต่าง ๆ จากธรรมชาติและพิษของแร่ธาตุ หรือต้นไม้ไปทำร้ายผู้อื่น ให้เกิดป่วยเจ็บล้มตาย หรือให้เกิดโรคระบาดต่าง ๆ ในกลุ่มชนหรือฝูงสัตว์ เป็นต้น วิชานัพนาฟิ และนาฟิอีแพร่ไปในตะวันออกกลาง อิลสามิกชนทุกภาคในโลกยังถ่ายทอดวิชานี้อยู่
  3. เวทมนตร์คาถาฝ่ายร้าย (ไสยดำ เดรัจฉานวิชา) ว่าด้วย “วิชาวูดู” คือ วิชาลึกลับที่ใช้อำนาจจิตประกอบเวทมนตร์ บังคับวิญญาณของมนุษย์ และสัตว์ที่ดุร้ายให้ไปทำร้ายผู้อื่น เช่นเดียวกับวิชานัพนาพี แต่วิชาเหล่านี้ตกทอดไปอยู่หมู่พ่อมดหมอผีในทวีปแอฟริกา และหมู่เทะเลใต้เป็นส่วนใหญ่ และแบ่งออกเป็นสาขาย่อย ๆ อีก 1,580 สาขา เช่นเดียวกัน และบางสาขาก็แผ่คลุมไปถึงประเทศธิเบต โดยเฉพาะในหมู่เกาะแจมเมก้าได้ใช้วิชาวูดูที่เรียกวิญญาณผู้ตายให้กลับเข้าร่างศพ โดยใช้น้ำยาซึ่งสกัดจากสมุนไพรฉีดเข้าไปในร่างศพมิให้เน่าเปื่อย เมื่อพ่อมดเรียกวิญญาณเข้าไปในร่างศพแล้ว จะใช้มนตร์บังคับให้ศพนั้นเคลื่อนไหวได้ และใช้ศพของผู้ตายทำงานในไร่แทนกรรมกรโดยทั่วไป ร่างศพเหล่านี้เรียกว่า “ซอมบี้”

ทั้งนี้ เกี่ยวกับความเชื่อเรื่องเวทมนตร์คาถาฝ่ายซ้ายนั้น ยังแบ่งเป็น 3 ประการด้วย คือ การทำเสน่ห์ยาแฝด การทำคุณไสย และการสาปแช่ง

การทำเสน่ห์ยาแฝด

การทำเสน่ห์ยาแฝด “เป็นการทำตัวเองให้คนรัก ส่วนยาแฝดนั้น เขาทำเราด้วยยาแฝด” และการทำเสน่ห์ยาแฝดนั้น “ผู้หญิงมักจะเป็นฝ่ายทำเพื่อให้สามีรัก” สำหรับวิธีทำเสน่ห์ยาแฝนั้น มีหลายวิธี แต่อาจสรุปได้ดังนี้

  1. การทำเสน่ห์ยาแฝดด้วย “คาถาอาคม” ดังปรากฏในวรรณคดีเรื่องขุนช้างขุนแผน เช่น คาถามหาละลวย และคาถาอิทธิเจ
  2. การทำเสน่ห์ยาแฝดด้วย “หงส์ร่อนมังกรรำ” ซึ่งเป็นวิธีการที่ภรรยาทำให้สามีหลง โดยหญิงนั้นเปิดฝาหม้อข้าวที่หุงสุกใหม่ ๆ ออกแล้วยืนถ่างขาคร่อมเหนือควันที่พลุ่งอยู่นั้น ตำรับเดิมต้องนุ่งโจงกระเบน เมื่อยืนถ่างขาคร่อมเหนือหม้อข้าวแล้วปลดกระเบนผ้านุ่งเอามือซ้ายจับปลายกระเบนให้เชิดขึ้นสูง เอามือขวาจับปลายผ้านุ่งให้กางออก ท่านี้เองคงจะเป็นที่มาของคำว่า “หงส์ร่อนมังกรรำ” เมื่อไอของข้าวมาถูกตัวกระทบความเย็นเข้าก็กลายเป็นหยดน้ำผสมหยดเหงื่อลงไปในหม้อข้าว นำข้าวจากหม้อนี้ไปให้สามีกิน
  3. การทำเสน่ห์ยาแฝดด้วย “ช้างประสมโขลง” เป็นเสน่ห์ที่ภรรยาทำให้สามีกิน ด้วยวิธีที่ให้หญิงนั้นลงอาบน้ำในอ่าง ถูขี้ไคลแรง ๆ โดยเฉพาะขี้ไคล 3 แห่ง คือ ใต้อก ง่ามขา และรักแร้ เมื่ออาบน้ำเสร็จแล้วก็ตั้งทิ้งไว้ให้ตกตะกอน แล้วเทออกเอาตะกอนนั้นไปตากแดดจนน้ำแห้ง เก็บตะกอนนั้นเอาไว้ ให้ทำเช่นนี้ 7 ครั้ง เมื่อได้ตะกอนขี้ไคลมาพอสมควรแล้ว หาลูกสวาดมาลูกหนึ่ง ลูกสวาดนี้เป็นเมล็ดแข็ง ๆ ประมาณเท่าหัวแม่มือหรือจะย่อมกว่าเล็กน้อย เปลือกแข็งเป็นสีเทา ๆ แล้วเอาเหล็กแหลม ๆ เจาะเอาตรงขั้น ค่อย ๆ แกะเอาเนื้อในออก แล้วเอาขี้ไคลที่เก็บไว้นั้นบรรจุเข้าไปข้างใน เอาขี้ผึ้งยารูให้แน่นมิดชิด ตรงนี้บางตำรับไม่ใช้เฉพาะไคลจากตัวเราเท่านั้น ให้เอาไคลเสมา ไคลเสาตลุงช้าง ประสมกันยัดลงในรูเม็ดสวาดด้วยเสร็จแล้วให้กลืนเม็ดสวาดเข้าไป เม็ดสวาดจะไม่ย่อย เมื่อถ่ายออกมา ให้เขี่ยเอาเม็ดสวาดไปชำระล้างให้สะอาด แล้วเอาเม็ดสวาดนี้เผาไฟ เม็ดสวาดจะดำเป็นถ่านให้นำไปบดละเอียด บางตำราต้องเสกคาถาว่า “…โอมจิตคิดถึงลำโพง กูจะเสกให้ช้างกิน ช้างก็ลีมโขลง กูจะเสกให้โขลงกินโขลงก็ลืมไพร… (ชื่อสามี) อยู่มิได้ร้องไห้มาหากู โอมสวาหะ…” หลังจากนั้น นำผงนี้ไปโรยในกับข้าวหรือตุ่มน้ำให้สามีกิน สามีก็จะหลงภรรยาผู้นั้น การแก้ไขเสน่ห์ประเภทนี้ ต้องให้ผู้ที่ถูกทำ กินน้ำท้องเรือจ้าง 7 ท่า หรือคราบตะไคร่ใบเสมาโบสถ์ 7 โบสถ์
  4. การทำเสน่ห์ยาแฝดด้วย “น้ำมันพราย” ส่วนมากวิธีนี้ผู้ชายมักเป็นผู้ทำให้หญิงรัก มีขั้นตอน ดังนี้ หมอทำน้ำมันพรายจะไปสืบว่า มีใครตายโหงบ้าง เช่น ถูกยิงตาย ตกต้นไม้ตาย หรือตายทั้งกลม ซึ่งตายแบบนี้คนไทยนิยมฝัง ไม่เผา ดังนั้น หมอที่จะทำน้ำมันพรายจะเข้าไปทำพิธีในตอนดึกสงัด นั่งบริกรรมปากหลุมว่า “…ภะคะวาทัสสะมานัง อุเทยยะ นิพพานังสัพกะตัง สังสารัง ประมังสุขัง นะลัพภะติ…” ขณะขุดผีก็ต้องว่าคาถาว่า “…อัสสาโสนิพพานังสญณณณํงฯ อัสสาโสหัทยังสะวิงฯ เอกะขานังปะรังยัคตวาฯ นิพพานัง พุทธฐานะกังฯ…” ที่หยดลงมาน้ำมันนี่แหละ เรียกว่า “น้ำมันพราย” ใช้ดีดใส่ใครก็จะทำให้คนนั้นรัก แต่เขาว่ากันว่า ผีที่ตายแบบนี้ดุนัก ตอนผีนั่งและหมอกำลังลนใต้คาง บางทีผีจะยกมือโอบคอหมอ ถ้าหมอไม่เก่งพอก็จะขวัญหนีดีฝ่อ
  5. การทำเสน่ห์ยาแฝดด้วย “การฝังรูปฝังรอย” มีวิธีการทำดังนี้ ใช้ขี้ผึ้งปากผี (คือ ขี้ผึ้งที่ใช้ปิดหน้าศพ ตามประเพณีไทย จะเอาขี้ผึ้งหนาประมาณครึ่งนิ้วกลางยาวขนาดหน้าศพ แผ่ปิดหน้าเหมือนหน้ากาก บางทีก็ใช้ปิดเฉพาะที่ตาและปาก ถ้าคนมีฐานะดีก็ใช้ทองคำเปลวปิดขี้ผึ้งอีกที) กับเถ้าพราย (คือขี้เถ้าที่เผาศพ) มาประสมกันลงอาคม แล้วปั้นเป็นรูปสองรูปชายหญิง ถ้าต้องการให้เกลียดก็เอารูปหันหลังติดกัน เอาหนามปักแทงตลอดตัว ผูกตราสังฆ์ลงยันต์พันด้วยใบเต่าร้าง แล้วเอาไปฝังในป่าช้า ถ้าต้องการให้รักกันก็ปั้นเป็นรูปชายหญิงสองรูป เอาใบรักลงยันต์ใส่เข้าไปด้วย เป่าคาถาพร้อมกับเอารูปทั้งสองกอดกัน เอาสายสิญจน์พันเอาไปฝังไว้ใต้ที่นอนของฝ่ายถูกทำ เช่น ถ้าฝ่ายชายเป็นฝ่ายทำก็ฝังไว้ใต้ที่นอนของฝ่ายหญิง

เรื่อง ความเชื่อเรื่องเวทมนตร์คาถาฝ่ายร้าย ไสยศาสตร์ ไสยดำ เดรัจฉานวิชา เวทมนตร์ เลขยันต์ การทำเสน่ห์ยาแฝด การทำคุณไสย และการสาปแช่ง (ตอนที่ 2) ในบทความตอนที่ 2 นี้ กล่าวถึงเรื่องของการทำไสยดำ และการสาปแช่ง

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *