การพยากรณ์แบบนรลักษณ์ศาสตร์ หรือ “โหงวเฮ้ง” เป็นลักษณะการพยากรณ์ที่ใช้หลักการพิจารณาจากลักษณะของบุคคล โดยเฉพาะบริเวณใบหน้า วิชานี้เป็นวิชาที่สืบทอดมาจากจีน เป็นโหราศาสตร์แขนงหน่งของจีนที่ว่าด้วยบุคลิกภาพของมนุษย์ ซึ่งสามารถผลักดันให้เกิดพฤติกรรมดี ชั่ว และแสดงออกถึงชะตากรรมของชีวิต ศาสตร์นี้เกิดขึ้นเมื่อประมาณ 3000 ปีมาแล้ว เชื่อกันว่า “ตำราโหงวเฮ้ง” เป็นตำราเก่าแก่ควบคู่กันมากับ “ตำราอี้จิง” ซึ่งเป็นตำราเกี่ยวกับการพยากรณ์ที่ว่าด้วยความเปลี่ยนแปลงของสรรพสิ่ง การเปลี่ยนแปลงของหยินหยาง เป็นตำราว่าด้วย การเปลี่ยนแปลงของพลังทางธรรมชาติซึ่งมีทั้งการทำลายล้าง เกื้อกูล และสัมพันธ์กัน ซึ่งวิชาโหงวเฮ้งก็มีรากฐานเดียวกัน คือ เปรียบอวัยวะต่าง ๆ บนใบหน้าเข้ากับธรรมชาติ อันได้แก่
- หน้าผาก เปรียบเสมือนท้องฟ้าที่สูงและกว้าง
- คิ้ว 2 ข้าง เปรียบเสมือนเมฆฝนที่ให้ความชุ่มฉ่ำ
- ตา 2 ข้าง เปรียบเป็นพระอาทิตย์และพระจันทร์ที่ให้แสงสว่าง และพลังงาน
- จมูก เหมือนภูเขาที่สูงใหญ่และเป็นต้นกำเนิดของแหล่งน้ำ
- ปาก เสมือนแหล่งน้ำ เป็นทะเลยหรือมหาสมุทร
- เส้นผมและหนวดเครา เปรียบเสมือนต้นไม้และกอหญ้าทั้งหลายที่เชื่อมต่อกัน
คำว่า “โหงว” แปลว่า “ห้า” ส่วนคำว่า “เฮ้ง” แปลว่า “ลักษณะ” รวมความว่า “โหงวเฮ้ง” หมายถึง ลักษณะแห่งส่วนประกอบทั้ง 5 ซึ่งก็คือ อวัยวะสำคัญทั้ง 5 บนใบหน้าของเรา เป็นการอ่านลักษณะหรือพยากรณ์ลักษณะของบุคคลจากอวัยวะทั้ง 5 ซึ่งได้แก่ หู ตา จมูก ปากและคิ้ว โดยที่อวัยวะทั้ง 5 นี้เทียบได้กับธาตุทั้ง 5 ซึ่งเป็นองค์ประกอบพื้นฐานของสรรพสิ่ง คือ
- หู เทียบได้กับ ธาตุทอง
- ตา เทียบได้กับ ธาตุไฟ
- จมูก เทียบได้กับ ธาตุดิน
- คิ้ว เทียบได้กับ ธาตุไม้
ในการพิจารณาตามหลักโหงวเฮ้งนั้น ไม่ได้พิจารณาแต่เฉพาะอวัยวะทั้ง 5 นี้เท่านั้น หากแต่ยังรวมไปถึงการเดินเหิน การอุปโภคบริโภค การนอนและการพูดด้วย อีกทั้งยังต้องพิจารณาถึงความสัมพันธ์ของอวัยวะต่าง ๆ ประกอบกันไปด้วย แต่โดยหลักแล้วการพิจารณาเพียงอวัยวะทั้ง 5 และความสัมพันธ์ของอวัยวะทั้ง 5 กับใบหน้าก็เพียงพอแล้ว
การดูโหงวเฮ้งของจีนใช้ใบหน้าเป็นหลักในการทำนาย ซึ่งพื้นที่ใบหน้านี้เป็นที่ตั้งของอวัยวะทั้ง 5 จึงมีความสัมพันธ์และส่งผลต่ออวัยวะทัง 5 ด้วย ดังนั้น ในการทำนายจึงต้องพิจารณาใบหน้าเป็นส่วนประกอบที่สำคัญด้วยทุกครั้ง พื้นที่บนใบหน้านี้แบ่งออกได้เป็น 3 ช่วง คือ
- พื้นที่บนใบหน้าช่วงบน หรือตำแหน่งฟ้า เริ่มตั้งแต่ตีนผมซึ่งเป็นส่วนบนสุดของหน้าผากลงมาถึงคิ้ว ช่วงนี้เป็นช่วงที่บ่งบอกถึงความสามารถทางสติปัญญา ความเฉียบแหลม การศึกษาและพื้นฐานทางครอบครัว ถ้าช่วงนี้ “หน้าผากขยายกว้างได้สัดส่วน” จะเป็นคนที่มีความสามารถทางสติปัญญาดี เจ้าความคิดและถ้าองค์ประกอบอื่น ๆ บนใบหน้าดีแล้ว จะเป็นคนที่ประสบความสำเร็จในชีวิตสูง แต่ถ้าหากว่า “หน้าผากแคบไม่ได้สัดส่วนกับใบหน้า” แสดงว่า บุคคลนั้น จะมีความทุกข์ ความยุ่งยากเสมอ และอาจกำพร้าพ่อหรือแม่ตั้งแต่ยังเล็ก
- พื้นที่ใบหน้าช่วงกลาง เป็นตำแหน่งมนุษย์ เริ่มจากคิ้วลงมาถึงปลายจมูก ช่วงนี้จะบ่งบอกถึงทรัพย์สิน อำนาจ ความสำเร็จ เกียรติยศชื่อเสียง รวมถึงการครองเรือน ถ้าช่วงนี้ “กว้างได้สัดส่วน” แสดงว่า ชีวิตจะมีแต่การเสี่ยงภัย จิตใจกล้าหาญ หยิ่งทระนงในตัวเอง แต่ถ้าช่วงนี้ “แคบหรือสั้นกว่าช่วงบนและช่วงล่าง” แสดงถึง ชีวิตไร้ญาติขาดมิตร หรืออายุสั้น ช่วงกลางนี้จะ “เด่นที่จมูก” ถ้า “สันจมูกใหญ่อวบอูม ปลายจมูกอิ่มเต็ม” จะเป็นผู้ที่มีความสามารถในการทำงานเป็นพิเศษ
- พื้นที่บนใบหน้าช่วงล่างหรือตำแหน่งดิน ช่วงนี้บ่งบอกถึงบริวาร บุตรหลาน เริ่มจากปลายจมูกจรดปลายคาง ถ้าช่วงนี้ “กว้าง ปากและคางได้สัดส่วนกัน” คนลักษณะนี้ มักเจ้าชู้ มีเสน่ห์ แต่ถ้าช่วงนี้ “แคบหรือสั้นเกินไปจะโดดเดี่ยว” อยู่คนเดียว คิดมาก แต่ถ้า “กว้างหรือยาวเกินไป” มักเป็นคนขี้โมโห กิเลสหนา เป็นต้น
ในการวัดด้านกว้าง ด้านสูงนั้น ด้านกว้างจะวัดในแนวนอน จากซ้ายไปขวา ส่วนด้านสูงหรือความยาวนั้น จะวัดจากบนลงล่าง โดยทั่ว ๆ ไปด้านกว้างจะมากกว่าด้านสูง 2 เท่า ในแต่ละช่วง อย่างไรก็ดี ลักษณะที่ดีของใบหน้านั้นทั้ง 3 ส่วน จะต้องประกอบกันอย่างสมส่วน ซึ่งเท่ากับว่า อวัยวะทั้ง 5 ได้ตั้งอยู่บนพื้นที่ที่ดี และส่งผลต่อชีวิตด้วย ซึ่งตามตำราโหงวเฮ้งจะแบ่งลักษณะใบหน้าของคนออกเป็น 5 ประเภทใหญ่ ตามรูปทรงของดวงหน้า ซึ่งใช้เกณฑ์ในการอ่านคุณลักษณะของแต่ละบุคคลตลอดจนอุปนิสัยและความประพฤติได้ ได้แก่
- ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยม หรือสี่เหลี่ยมผืนผ้า ใบหน้าแบบนี้ความกว้างของหน้าผากและเส้นรอบแนวกรามจะเท่ากัน เป็นลักษณะของใบหน้าชนชั้นผู้ดีหรือมีบุญวาสนา คนที่มีใบหน้าแบบนี้มักจะเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ คำนวณเก่ง สุขุมเยือกเย็น มักจะเป็นผู้ประสบความสำเร็จในชีวิต และมักจะได้ทำงานในตำแหน่งผู้บริหาร
- ใบหน้ารูปสามเหลี่ยม ใบหน้าแบบนี้ หน้าผากจะกว้าง กระดูกแก้มเป็นโหนกหรือหน้าติดกระดูก คางแหลม คนที่มีใบหน้าแบบนี้มักมีอุดมคติสูง เก็บความรู้สึก ชอบนึกฝัน ไม่สนใจงานสังคม ชอบความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ บางคนอาจมีนิสัยหยิ่งทะนง เข้ากับใครไม่ค่อยได้ และมักจะถือความคิดของตนเป็นใหญ่
- ใบหน้ารูปกึ่งสามเหลี่ยม ใบหน้าแบบนี้มักจะเป็นรูปตัดที่คางแทนที่จะเรียวแหลมแต่หน้าผากกว้าง มักจะเป็นฉลาดมีไหวพริบ รักสวยรักงาม เด่นดังในทางศิลปะ แต่จะขาดความอดทน แต่ถ้าผู้หญิงที่มีใบหน้าแบบนี้มักจะเป็นคนมีเสน่ห์ อ่อนหวานน่ารัก และมักจะประสบความสำเร็จในชีวิตการแต่งงาน
- ใบหน้ารูปสี่เหลี่ยมจัตุรัส เป็นลักษณะใบหน้าแบบกระดูกและกล้ามเนื้อโหนกแก้สูงเห็นกระดูกชัดเจน คนที่มีใบหน้าแบบนี้มักเป็นหัวหน้าหรือผู้นำ เป็นคนใจคอหนักแน่น ถือความคิดของตนเป็นใหญ่ หัวรั้น ถ้าเป็นนักมวย มักจะมีชื่อเสียง ผู้หญิงที่มีใบหน้าแบบนี้ มักจะเป็นผู้ที่มีความมานะบากบั่น และอดทนในการทำงาน ถ้าแต่งงานจะมีอำนาจเหนือสามี
- ใบหน้ารูปวงกลม หรือใบหน้ารูปพระจันทร์ ใบหน้าแบบนี้ต้องดูสัมพันธ์กับอวัยวะทั้ง 5 บนใบหน้าด้วย ถ้าใบหน้ากลมและจมูกเล็ก จะเป็นคนที่มีความเป็นอยู่อย่างง่าย ๆ รักความสะดวกสบายในชีวิต แต่ถ้าแก้มตอบและตาคมวาว สันจมูกโด่งยาว จะเป็นคนฉลาด มีไหวพริบ กำลังใจมั่นคง มีประสิทธิภาพในการทำงาน ถ้ามีอาชีพตำรวจหรือทหารจะมีชื่อเสียง
ในการดูโหงวเฮ้งยังมีในรายละเอียดของอวัยวะทั้ง 5 บนใบหน้า ที่ประกอบด้วย ตา หู จมูก ปากและคิ้ว อ่านเพิ่มเติมได้ที่เรื่อง การพยากรณ์แบบนรลักษณ์ศาสตร์ “โหงวเฮ้ง” การทำนายลักษณะของบุคคลจากการดูหน้าตา ปาก จมูก คิ้ว ตา และหู (ตอนที่ 2) จะเป็นการอธิบายถึงการดูโหงวเฮ้งตามอวัยวะบนใบหน้าทั้ง 5 ส่วน