วิชาที่ว่าด้วยการทำนายทายทัก (Divination) (โหราศาสตร์) สามารถแบ่งประเภทตามลักษณะการทำนายได้เป็น 4 ประเภทหลัก ดังนี้[1]
- การทำนายด้วยลางบอกเหตุ (Omen) ที่เกิดขึ้นตามธรรมชาติ เช่น การปรากฏขึ้นที่ผิดปกติของสัตว์ การเคลื่อนที่ของนกและแมลง ปรากฏการณ์เหล่านี้ส่อให้เห็นถึงเหตุการณ์ที่จะเกิดขึ้นตามมา
- การทำนายโดยอาศัยอำนาจจิตหรืออ้างอำนาจเทพเจ้า เป็นเรื่องที่เกี่ยวกับอนาคตังสญาณ การใช้อำนาจจิต หรือการเข้าเจ้าทรงผีเพื่อการทำนายทายทัก
- การทำนายด้วยสัญลักษณ์ที่เกี่ยวเนื่องกับบุคคล คือ การตีความจากสัญลักษณ์ที่เกิดขึ้นสัมพันธ์กับบุคคลนั้น ได้แก่ ดวงชะตากำเนิด (ตำแหน่งดวงดาวต่าง ๆ ในขณะบุคคลถือกำเนิดจากครรภ์มารดา) ลักษณะหน้าตา ร่างกาย ลายมือ ลายเท้า ความฝัน ลักษณะการจัดที่อยู่อาศัย รวมไปถึงลายเซ็น เพราะสิ่งเหล่านี้สามารถสะท้อนลักษณะบางประการของบุคคลออกมา
- ทำนายด้วยการเสี่ยงทาย เป็นการทำนายที่ได้รับความนิยมอย่างมาก เช่นกัน การเสี่ยงทายมีปรากฏมาตั้งแต่โบราณการเสี่ยงทายที่นิยมกันในปัจจุบัน คือ ไพ่ยิปซี หรือไพ่ทาโรท์ (Tarot)
โดยจากประเภทตามลักษณะการทำนายนั้น ในปัจจุบันพบว่า มีคนได้ศึกษาศาสตร์แห่งโหราศาสตร์อย่างจริงจัง จนเป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญทางด้านโหราศาสตร์ และนำเอาวิชาความรู้ที่ได้ศึกษามาใช้ในการทำนายแก่ผู้อื่น หรือที่เรียกว่า “โหราศาสตร์” หรือภาษาชาวบ้านเรียกว่า “หมอดู” นั่นเอง จนปัจจุบันมีธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับการดูดวงเกิดขึ้นอย่างมากมาย โดยมีศาสตร์แห่งการดูดวงที่เป็นที่นิยมทั้ง 9 ศาสตร์ดังนี้
- อักขระ 8 ตัว เป็นการทำนาย โดยอาศัยการตีความจาก วัน เดือน ปีเกิด และเวลาตกฟาก มีการจับคู่ระหว่างทิศและเวลา เพื่อดูดวงชะตาทั้งชีวิต อาจใช้วิธีอื่นเข้าช่วย เช่น ดูจากลำดับพี่น้อง เป็นต้น
- ดาราพยากรณ์ นี้เป็นการทำนายโดยอาศัยซึ่งความหมายเฉพาะตัวของดวงดาว 12 ดวง จากนั้นจึงจะเริ่มกระจายตำแหน่งของดาวทั้งหมดนำลงเรือนชะตาที่ได้จากอักขระ 8 ตัวและเพื่อทำนายชะตาตลอดอายุขัย
- การดูลายมือ รูปหน้า และกระดูกสัมผัส เป็นการสัมผัสกัน ระหว่างแพทย์แผนจีนเรียกรวม ๆ กัน ว่า การดูลักษณะทางกายภาพ ทำนายเรื่องสุขภาพ ความฉลาด และนิสัยของเจ้าชะตา
- ศาสตร์แห่งการเสี่ยงทาย หากจะใช้เหรียญทองแดง หรือจะเป็นกระดองเต่า เรียกว่า “เหรียญทองแดงเสี่ยงทาย” และ/หรือ “กระดองเต่าเสี่ยงทาย” แล้วหากใช้นกกระจอกชวาสีขาว ก็จะเรียกว่า “นกเสี่ยงทาย”
- ศาสตร์แห่งชื่อสกุล ศาสตร์นี้มีมากมายหลายแขนง ซึ่งให้ความสำคัญในรายละเอียดที่แตกต่างกันออกไป ไม่ว่าจะตั้งชื่อด้วยวิธีใดก็ตาม ชื่อที่ได้ ต้องฟังรื่นหู และเจ้าตัวต้องชื่นชอบ ชื่อนั้น ๆ ด้วย
- ศาสตร์ว่าด้วยบ้านเรือน เป็นการผสมกันระหว่างศาสตร์ที่ศึกษาเกี่ยวกับสภาพแวดล้อม ภายนอกกับศาสตร์ที่ศึกษาตำแหน่งภายในอาคารบ้านเรือน เพื่อปรับสมดุลให้ผู้อาศัยมีความเป็นอยู่ที่ราบรื่น
- ศาสตร์ว่าด้วยฤกษ์ยาม แต่เดิมศาสตร์นี้มีไว้เพื่อทำกลยุทธ์ทางพิชัยสงคราม ไว้ดูฤกษ์ยาม และทิศทางในการสู้รบ ในปัจจุบันนำมาใช้ในการดูฤกษ์ในการทำงาน การสอบ การเจรจาธุรกิจ และทำนายสำหรับเหตุการณ์ในอนาคต
- ศาสตร์แห่งดวงดาว นอกจากราศีเกิดแล้ว ยังอิงดาว 10 ดวงในระบบสุริยจักรวาล คือ ดวงอาทิตย์ ดวงจันทร์ ดาวพุธ ดาวศุกร์ ดาวอังคาร ดาวพฤหัสบดี ดาวเสาร์ ดาวยูเรนัส ดาวเนปจูน และดาวพลูโต เพื่อทำนายพื้นฐานดวงชะตาตั้งแต่เกิด
- ศาสตร์แห่งไพ่ทาโรต์ “ไพ่ทาโรต์” คือ ไพ่กระดาษที่ไว้ใช้สำหรับทำนาย โชคชะตา โดยเจ้าชะตา จะต้องเป็นผู้เลือกไพ่ทาโรต์ด้วยตัวเอง เมื่ออยากรู้เรื่องใด ก็ต้องตั้งจิตเลือกไพ่ เพื่อให้ได้คำตอบในเรื่องนั้น ๆ
สุดถนอม เอี่ยมละออ (2558)[2] กล่าวว่า จากศาสตร์แห่งการดูดวงทั้ง 9 ศาสตร์นั้น ศาสตร์แห่งไพ่ทาโรต์ ซึ่งเป็นศาสตร์แห่งการดูดวง ที่ได้รับความนิยมสูงสุดแบบหนึ่งในปัจจุบัน แม้แต่ในประเทศไทยเราเอง ก็ได้รับความนิยมอย่างสูง
[1] ณฤดี วิรัชภูรี. (2554).พฤติกรรมความเชื่อของชาวพุทธที่สนใจโหราศาสตร์ที่มีต่อหลักโหราศาสตร์ และหลักศรัทธา 4. วิทยานิพนธ์พุทธศาสนามหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยมหาจุฬาลงกรณราชวิทยาลัย.
[2] สุดถนอม เอี่ยมละออ. (2558). การศึกษาวิธีการดำเนินธุรกิจและปัจจัยความเชื่อทางด้านโหราศาสตร์ ประเภทไพ่ยิปซีในประเทศไทย. วิทยานิพนธ์บริหารธุรกิจมหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยบูรพา.