ราศีที่ 8 กลุ่มดาวแมงป่อง Scorpio เรียกเป็น “ราศีพิจิก” เกิดในช่วงวันที่ 24 ตุลาคม – 22 พฤศจิกายน
กลุ่มดาวแมงป่อง คือ “ชาวราศีพิจิก” เป็นกลุ่มดาวที่มีดาวฤกษ์เรียงตัวเห็นปรากฏเป็นรูปแมงป่องชัดเจนมาก ปรากฏอยู่ทางตะวันตกของกลุ่มดาวยิงธนู มีชื่อเป็นภาษาละตินว่า “Scorpius” ซึ่งตรงกับภาษาอังกฤษว่า “Scorpion” แปลว่า “แมงป่อง” เป็นกลุ่มดาวซึ่งขึ้นปรากฏอยู่ทางซีกฟ้าด้านใต้ คือ ขึ้นทางทิศตะวันออกเฉียงใต้โดยเอาหัวขึ้นก่อน เมื่อขึ้นสูงสุดจะอยู่ทางทิศใต้ คือ กลางตัวแมงป่องอยู่สูงเป็นมุมเงย 45 องศา และจะตกทางทิศตะวันตกเฉียงใต้ เอาหัวและข้างลงก่อน ดวงอาทิตย์จะผ่านกลุ่มดาวแมงป่องระหว่างวันที่ 23 – 30 พฤศจิกายน กลุ่มดาวแมงป่องจะประกอบด้วย ดาวฤกษ์ที่เรียงตัวกันอย่างน้อย 15 ดวง 3 ดวงแรกเป็นส่วนหัว ถัดไปอีก 4 ดวงเป็นลำตัว และที่เหลือเป็นส่วนหาง สำหรับประเทศไทยจะเห็นกลุ่มดาวแมงป่องชัดเจน เพราะปรากฏอยู่เหนือขอบฟ้านานเกือบ 8 ชั่วโมง ดาวแต่ละดวงในกลุ่มจะมีสีและปรากฏความสว่างไม่เท่ากัน สว่างมากกว่าดวงอื่นมีสีแดง มีชื่อว่า ดาวแอนทาเรส (Antares) แปลว่า คู่แข่งดาวอังคาร 8 เส้นผ่าศูนย์กลางประมาณ 700 เท่าของดวงอาทิตย์ คนไทยเรียก “ดาวฤกษ์สีแดงดวงนี้ว่า “ดาวปาริชาต” กลุ่มดาวแมงป่องเป็นกลุ่มดาวใน 12 ราศี กลุ่มเดียวที่มีรูปร่างเหมาะสมเหมือนชื่อที่สุด มีส่วนหัว ส่วนตัว ส่วนหาง และจงอยของหางเหมือนแมงป่องจริง ๆ กลุ่มดาวแมงป่องเป็นกลุ่มดาวที่สวยงามที่สุด ในบรรดากลุ่มดาว 12 ราศี ดาวฤกษ์ Antares ซึ่งเป็นหัวใจของแมงป่องมีเส้นผ่าศูนย์ 400 ล้านไมล์ กลุ่มดาวแมงป่องจะเห็นอยู่ตรงศีรษะเมื่อเวลา 3 ทุ่ม (21.00 น.) ในวันที่ 20 กรกฎาคม ในต้นเดือนพฤศจิกายน พอดวงอาทิตย์ลับขอบฟ้าไปจะเห็นกลุ่มดาวแมงป่องทางขอบฟ้าทิศตะวันตก ใกล้จะตกจากขอบฟ้าไปในตอนต้นเดือนกุมภาพันธ์ จะเห็นอยู่เหนือขอบฟ้าทิศตะวันออกก่อนดวงอาทิตย์ขึ้น
ความเชื่อกลุ่มดาวแมงป่อง “ราศีพิจิก” คือ สัญลักษณ์ คือ “แมงป่อง” โดยมีตำนานเล่าว่า มีนายพรานคนหนึ่งชื่อ “โอริออน” เขาอวดอ้างว่า ตนเป็นผู้เก่งกาจกว่าใคร สร้างความไม่พอใจให้แก่หมู่เทพเป็นอย่างมาก หมู่เทพจึงเรียก “แมงป่อง” ตัวหนึ่งไปจัดโอริออน โอริออนถูกพิษจากหางของแมงป่องถึงแก่ความตาย เพื่อเป็นเกียรติแก่แมงป่องที่ทำภารกิจสำเร็จ แมงป่องจึงถูกยกย่องให้เป็นหมู่ดาว กลุ่มดาวแมงป่อง เป็นกลุ่มดาวที่มนุษย์รู้จักมาแต่ดึกดำบรรพ์ การใช้ชื่อว่า กลุ่มดาว Scorpius เพราะในสมัยโบราณ เมื่อดวงอาทิตย์เคลื่อนที่ ปรากฏมาอยู่ในกลุ่มดาวนี้ ปรากฏว่า ในประเทศอียิปต์ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ เกิดขึ้นเลย
เครื่องหมายของราศีพิจิก : จะเป็นรูปแมงป่องที่ชูหางโค้งงอน
ดาวประจำราศีพิจิก : “ดาวพลูโต”
“ดาวพลูโต” ซึ่งถูกค้นพบเมื่อประมาณ 50 ปีก่อน ดาวนี้ล้อมรอบไปด้วยปริศนาของคนราศีแมงป่อง
ลักษณะของชาวราศีพิจิก : ส่วนมากจะมีอารมณ์รุนแรงโดยธรรมชาติ จริงจังต่อชีวิตมาก มีจินตนาการสูงและมีความเฉลียวฉลาดในการสังเกต มีความสามารถในการซ่อนเร้น ความรู้สึกได้โดยธรรมชาติ เป็นพวกชอบเก็บความลับ มีความสามารถในการปรับตัวให้เข้ากับวิถีชีวิตที่เปลี่ยนแปลงไปได้ง่าย
การงานและอาชีพของชาวราศีพิจิก : คุณเป็นคนที่มีความพยายาม และมุ่งมั่น ดังนั้นไม่ว่าจะทำงานแบบไหนก็ย่อมประสบความสำเร็จ แต่ส่วนมากจะเกี่ยวข้องกับชีวิตส่วนตัวและธุรกิจ ซึ่งานเหล่านี้คุณต้องระมัดระวังไม่ให้เกิดการทะเลาะกับผู้อื่นด้วย
ความรักของชาวราศีพิจิก : เป็นหนุ่มขี้โมโห ฉุนเฉียว รุนแรงในเรื่องเซ็กส์และขี้หึงอย่างร้าย ส่วนสาวพิจิกนั้น ตรงไปตรงมา รักแรงเกลียดแรง และเลือกที่จะใฝ่หาความรักด้วยตนเอง เย็นชาเป็นสาวน้ำแข็ง แต่ร้อนแรงแบบสุด ๆ ในเรื่องเซ็กส์
ธาตุ : ธาตุน้ำ
ลักษณะรูปร่าง : มักมีเอวคอด มีโทสจริตไหวง่าย โกธรง่าย
สีมงคล : แดงเข้ม
อัญมณีคู่ราศี : พลอยสีฟ้า บุษราคัม และทับทิม
ราศีคู่ตรงข้าม : ราศีพฤษภ
เลขนำโชคประจำราศีพิจิก : 14, 17, 38
โดยสรุปแล้ว คนราศีพิจิก จะเป็นคนที่ระมัดระวัง สงวนตัว บางทีทำให้คนอื่นเห็นว่า เป็นคนไว้ตัว มีความตั้งใจกล้า เด็ดเดี่ยว แต่อาจจะดูลึกลับบ้าง ใจแข็ง เอาจริงเอาจัง มุมานะ เชื่อมั่นในตนเอง ปักใจอะไรได้แน่ อารมณ์เข้มข้น เช่น รักก็รักมาก เกลียดก็เกลียดมาก
ข้อเสียของคนราศีพิจิก ก็คือ ดึงดัน อิจฉา หึงหวงจัด เมื่อถูกยั่วหรือตกอยู่ในอารมณ์ร้ายจะรุนแรง ทำให้ร้อนรน ชอบเยาะเย้นถากถางเหน็บแนม เป็นคนขวานผ่าซาก ตึงตัง ข้อดีของคนราศีพิจิก คือ ตั้งใจ กล้า เด็ดเดี่ยว มุมานะ ขยัน ไม่กลัวงาน มีความคิดเห็นแน่วแน่ กล้าหาญ มีพลัง มักจะสนใจหรือชอบในเรื่องลึกลับต่าง ๆ ดังนั้น ในดวงชะตาดีๆ ก็จะเป็นแพทย์ เป็นนักค้นคว้า เป็นนักธุรกิจ การเงินที่ดี[1][2][3][4]
[1] ขอขอบคุณที่มาบทความ ไพโรจน์ การดี. การออกแบบสมุดบันทึก 12 ราศี. มหาวิทยาลัยศิลปากร
[2] ขอขอบคุณที่มาบทความ เบญจลักษ์ศิริ วันดี. การศึกษากลุ่มดาวในจักรราศี เพื่อการออกแบบโคมไฟสำหรับตกแต่งภายในที่พักอาศัย. มหาวิทยาลัยอุบลราชธานี.
[3] ขอขอบคุณที่มาบทความ จรัญ พิกุล. อ่านดวงชะตาด้วยตนเอง. สถาบันพยากรณ์.
[4] ขอขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/