อารมณ์เหงาเมื่อวัยรุ่นมีความรัก
ความเหงาเป็นอารมณ์ปกติของมนุษย์ หากวันนึงเราเกิดรู้สึกเหงาขึ้นมาบ้างก็ไม่ใช่เรื่องแปลก เพราะใคร ๆ ก็เหงากันทั้งนั้น แต่ถ้ารู้เท่าทันความเหงาก็คงดี ความเหงาเกิดจากปัจจัยภายนอก เช่น เมื่อต้องอยู่ตามลำพัง อยู่ห่างไกลครอบครัว คนรู้จัก เพื่อนฝูง คนรักหรืออยู่สถานที่ใหม่ที่ไม่คุ้นเคย ความเหงายังเกิดจากความรู้สึกในจิตใจ เช่น ไม่มีใครเข้าใจเรา ไม่ยอมรับในสิ่งที่เราเป็น หรือบางทีก็รู้สึกเหงาขึ้นมาโดยไม่มีสาเหตุ ทำให้เราตัดสินใจผิดพลาด หรือด่วนตัดสินใจโดยไม่คิดให้รอบคอบ เช่น ยอมคบกับคนที่รู้ว่า เขาไม่ได้จริงใจ เพื่อแก้เหงา หรือบางครั้งหันไปพึ่งสิ่งยึดเหนี่ยวอย่างอื่น เช่น ยาเสพติด หรือการหมกมุ่นอยู่กับการมีเซ็กส์
อารมณ์รัก หรืออารมณ์ทางเพศในวัยรุ่น
ความรัก เป็นอารมณ์ความรู้สึกอย่างแรงกล้าที่เกิดขึ้น ทั้งเรื่องทั่วไป จนกระทั่ง เรื่องใหญ่ ๆ อย่างการรักใครสักคน ในขณะเดียวกัน อารมณ์ “รัก” ก็มักจะนำมาซึ่งอารมณ์อื่น ๆ เช่น หึง หวง ดึงดัน ไม่ยอม ฯลฯ อย่างไรก็ตาม เราอาจเผชิญกับความรักในความหลากหลายรูปแบบประสบการณ์ การตีความและการเลือกที่จะมองความรักในมุมที่แตกต่างกัน เช่น มองจากมุมของเรา (ความรัก คือ การครอบครอง) ของคนอื่น (ความรัก คือ การให้) มุมมองทางชีววิทยา (ความรัก คือ แรงขับของสัตว์เลี้ยงลูกด้วยน้ำนม) เป็นต้น จะพบว่า ประสบการณ์ที่ผ่านมา คือ ส่วนหนึ่งที่ทำให้เราเข้าใจชีวิต และเข้าใจกับความต้องการของตัวเองมากขึ้น ลองตั้งประเด็นคำถามดูว่า “อะไร คือ สิ่งที่เราต้องการจากความรัก” และ “ความรักแบบไหนที่เราต้องการ”
เมื่อวัยรุ่นมีอารมณ์ทางเพศ ตั้งสติ จัดการได้
หลีกเลี่ยงอารมณ์ทางเพศ
- หลีกเลี่ยงการไปไหนมาไหนแบบสองต่อสอง
- หลีกเลี่ยงสถานที่บางแห่ง เช่น ที่เปลี่ยว ที่ลับตามคน ที่เที่ยวกลางคืน ที่พักส่วนตัว
- หลีกเลี่ยงกิจกรรมบางประเภท เช่น ดูหนังโป๊ ดื่มเครื่องดื่มจากคนแปลงหน้า
หรือลองเบี่ยงเบนความสนใจไปที่อื่น เช่น ออกกำลังกาย กิจกรรมชมรม งานอดิเรก พูดคุยสนทนากับคนอื่น โดยเฉพาะพ่อแม่ และครูอาจารย์ เพื่อให้ความสนใจมุ่งไปที่อื่น
ปลดปล่อยอารมณ์ทางเพศ
- ฝันเปียก มีเฉพาะในเพศชาย ไม่สามารถบังคับให้ฝัน หรือไม่ให้ฝันได้ แต่จะเกิดขึ้นเองเมื่อเราสนใจ หรือมีความรู้สึกทางเพศมากขึ้น จนเกิดการสะสมของน้ำอสุจิจนล้นถุงเก็บน้ำอสุจิธรรมชาติก็จะระบายน้ำอสุจิออกมาโดยประกอบกับภาพฝันเรื่องเพศจนถึงจุดสุดยอด
- ช่วยตัวเอง (Masturbation) เป็นวิธีการปลดปล่อยอารมณ์เพศ โดยไม่ต้องมีเพศสัมพันธ์ วัยรุ่นทั้งผู้หญิง และผู้ชายสามารถช่วยตัวเองได้ การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเองเป็นเรื่องธรรมชาติ ไม่ทำให้ตนเอง และผู้อื่นเดือดร้อน แต่ควรพิจารณาให้อยู่ในความเหมาะสม ไม่ให้กระทบต่อสุขภาพ การเรียน เงินทอง รวมทั้งกิจกรรมในชีวิตประจำวัน จากการช่วยเหลือตนเองมากเกินไป
การสำเร็จความใคร่ด้วยตนเอง นับว่า ดีกว่าการมีเพศสัมพันธ์ ในขณะที่ยังไม่พร้อม เพราะการมีเพศสัมพันธ์ขณะที่ยังไม่พร้อม โดยเฉพาะในวัยเรียนอาจนำไปสู่ปัญหาร้ายแรงอื่น เช่น การตั้งครรภ์ เสียการเรียน โรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ หรือแม้กระทั่งการข่มขู่เอาทรัพย์เพื่อปิดปาก
การก้าวไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ของวัยรุ่น
- คิดว่า จุดใดแสดงถึงความสนิทสนมอย่างถึงที่สุดที่สื่อสารผ่านทางร่างกาย เหตุใดจึงคิดเช่นนั้น
- ความสัมพันธ์ทางเพศก่อตัวขึ้นบ่อยครั้งที่มีการจับมือ ถือแขน และจะนำไปสู่การหอมแก้ม ซึ่งอาจจะนำไปสู่การจูบ แบบซาบซึ้ง และดูดดื่ม แล้วถ้าทั้งคู่ไม่ได้ตั้งขอบเขตในความสัมพันธ์ของตนจะเกิดอะไรขึ้น
- แต่ละคนมีความสามารถในการควบคุมตนเอง ถ้าทั้งคู่เลือกที่จะรอคอยจนกระทั่งแต่งงานเป็นการฉลาดหรือไม่ หากเปรียบเทียบกับการปล่อยให้การสัมผัสร่างกายยังคงดำเนินไปเรื่อย ๆ ซึ่งยากที่จะหยุดและอาจนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ได้
- วัยรุ่นจำนวนมากเชื่อว่า ตนสามารถ “ทำอะไรก็ได้ตราบใดที่ไม่ได้ทำให้ใครเดือดร้อน” เพราะเหตุใด การทำเช่นนี้จึงสุ่มเสี่ยง เหตุการณ์เหล่านี้ส่งผลอย่างไรในด้าน ศีลธรรม ร่างกาย สังคม อารมณ์ และสติปัญญา เริ่มจากการอยู่ด้วยกัน จับมือถือแขน หอมแก้ม กอดจูบลูกคลำ ไปจนถึงการลูกคลำอวัยวะเพศของอีกฝ่ายหนึ่ง และจบท้ายที่การมีเพศสัมพันธ์
ถ้าปล่อยสถานการณ์พัฒนาไปจนถึงการกอดจูบลูบคลำได้ ก็เสี่ยงต่อการที่จะนำไปสู่การมีเพศสัมพันธ์ การที่จะหยุด หรือระงับสถานการณ์ คือ ไม่ปล่อยให้มีโอกาสอยู่ด้วยกันลำพัง ไม่ปล่อยให้มีการถูกเนื้อต้องตัวกัน และสถานการณ์การมีเพศสัมพันธ์ของแต่ละคน อาจจะมีรายละเอียดแตกต่างกัน ซึ่งความรู้สึกเมื่อต้องการมีเพศสัมพันธ์ ฝ่ายหญิงจะคิดถึงความรัก ความเป็นเจ้าของ ส่วนฝ่ายชาย จะเน้นความใคร่ ไม่เน้นความผูกพัน
ประโยชน์ของการตั้งสติและควบคุมตนเองของวัยรุ่น
- ไม่ต้องทุกข์ใจจากปัญหาที่เกิดขึ้นหลังจากการมีเพศสัมพันธ์
- ไม่ต้องตั้งครรภ์ในขณะที่ยังไม่พร้อม
- ไม่ต้องเสี่ยงกับติดโรคทางเพศสัมพันธ์ ซึ่งมีสิทธิเกิดได้ทั้งในฝ่ายชายและฝ่ายหญิง
- ไม่อันตรายต่อระบบสืบพันธุ์ของตนเอง
- ไม่ต้องเสี่ยงกับการใช้ยาคุมกำเนิด หรือวิธีการคุมกำเนิดที่เกิดจากความเชื่อผิด ๆ
- ไม่มีอุปสรรคมาขวางทางไปสู่ความสำเร็จ หรือเป้าหมายในชีวิตที่ตั้งไว้
- เกิดผลดีต่อการสร้างความวางใจในชีวิตสมรสที่จะเกิดขึ้นในอนาคต
- ใช้ชีวิตวัยรุ่นได้อย่างมีความสุข และสนุกอย่างเต็มที่
- ไม่ต้องแต่งงานเร็ว หรือรับผิดชอบมากกว่าเพื่อนในวัยเดียวกัน
- ไม่ต้องถูกคนอื่นนินทา หรือตกเป็นจำเลยของสังคม
5 ข้อสำคัญเมื่อต้องไปไหนกับแฟน
- รู้จักปฏิเสธ เมื่อเราถูกแฟนคุกคามทางเพศ ต้องพูดดัง ๆ ว่า “อย่า” อารมณ์ตะคอก พร้อมแสดงท่าทีไม่พอใจ หากเราพูดเบา ๆ แฟนของเราอาจะเข้าใจว่า เราไม่ปฏิเสธ
- ลุกหนีทันที ขณะที่เราพูดปฏิเสธ ห้ามพูดเฉย ๆ ควรลุกหนีจากตรงนั้นทันที
- ต้องมีสติ หากไปเที่ยวกับแฟน ไม่ควรดื่มเหล้า หรือใช้ยาเสพติดเพราะจะทำให้เราขาดสติ และไม่สามารถควบคุมตนเองได้
- ไปในที่ปลอดภัย ไม่ว่าจะไปเที่ยวที่ไหนควรอยู่ในที่ที่เรายังมองเห็นเพ่อนคนอื่น ๆ ด้วย และวางแผนการกลับบ้านเอง
- วางแผนและตัดสินใจ ควรคิดตัดสินใจไว้ก่อนว่า เราพร้อมจะใกล้ชิดกับแฟนแค่ไหน ในเมื่อเราไม่พร้อมจะมีเพศสัมพันธ์ เช่น ถ้าแฟนขอจับมือเราจะยอมหรือไม่
คำพูดปฏิเสธเมื่อถูกล่วงเกิน
- เรายังไม่พร้อม หรือเรารอก่อนได้
- ชีวิตของเราไม่ต้องรีบร้อนขนาดนั้น
- เราน่าจะรู้จักกันดีกว่านี้
- คนรักกันจริงเขาไม่ทำอย่างนี้หรอก
- เราไม่ต้องการมีเพศสัมพันธ์อย่างฉาบฉวย
- ถ้ารักกันต้องไม่ทำแบบนี้
- เราไม่อยากทำร้ายตัวเอง
- ที่มีปัญหาส่วนใหญ่ก็เพราะครั้งเดียวนี่แหละ
- เสียโอกาสดี ๆ ที่จะได้รับในอนาคต
- เราไม่อยากติดโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ เรายังไม่อยากท้อง
- เรากลัวจะรับปัญหาที่ตามมาไม่ไหว
- ถ้าพ่อแม่รู้อาจเสียใจนะ
5 ข้อที่ควรยังยั้งชั่งใจของวัยรุ่น
- ระวังว่า จะมีบาดแผลทางใจ หากวันหน้าได้เจอคนที่เรารักจริง และเขาก็รักเราจริง
- ยาคุมกำเนิดไม่สามารถป้องกันโรคติดต่อทางเพศสัมพันธ์ได้
- การมีเพศสัมพันธ์ไม่ได้ทำให้ใครเก่งกาจ หรือแตกต่างไปจากคนอื่น
- ความสุขเกิดขึ้นเมื่อเรารอจนกว่าได้พบคนที่เรารัก และเต็มใจที่จะมีเพศสัมพันธ์กัน
- การรอจนกว่าถึงเวลาที่เราพร้อมเป็นวิธีพิสูจน์ความรักอย่างหนึ่ง