เมื่อฉันมีเลือดออกตลอดทุกวัน อย่าเข้าใจผิด คิดว่า เป็นอาการของคนวัยทอง (ตอนที่ 1)

สวัสดีค่ะ วันนี้ ก็จะมาเล่าเรื่องอาการป่วยให้ฟังกัน เพื่อที่คุณผู้หญิงหลาย ๆ ท่าน จะได้ศึกษาไว้เปรียบเทียบกับอาการของตนเองนะคะ ดิฉันอายุ 52 ปีค่ะ อาการป่วยของฉันเริ่มจากมีเลือดหรือประจำเดือนออกมาตลอดเวลา จากเริ่มใส่ผ้าอนามัย จนใส่ไม่ได้ คือ เลือดออกมามากจนผิดปกติ ต้องใส่เป็นแพมเพิสผู้ใหญ่ค่ะ หลายคนคงสงสัยว่า ทำไมไม่ไปหาหมอ ด้วยความที่สอบถามเพื่อน ๆ หลาย ๆ คน ก็บอกว่า เป็นอาการวัยทอง เพื่อนหลาย ๆ คน ก็บอกว่า ออกสักเดือนเดี๋ยวก็หยุด เราก็รอสิคะว่าเมื่อไหร่มันจะหยุด จนเข้าเดือนที่สอง เราเริ่มว่า มันผิดปกติแล้วนะ และก็เริ่มสังเกตอาการตัวเอง เวลาเรานอนราบ จะสัมผัสก้อนแข็ง ๆ ได้ที่ท้องน้อย ก็เริ่มเอะ เอะ มันคืออะไร

แต่ก็ยังเก็บความสงสัยไว้นะ คิดว่า คงเป็นกระเพาะปัสสาวะ เพราะเรามีอาการกระเพาะปัสสาวะอักเสบ ปวดปัสสาวะตลอด เหมือนขัด ๆ ปัสสาวะไม่สุด ตลอดเวลานะ

พอเข้าเดือนที่สอง ก็คิดว่า ต้องไปพบหมอแล้ว ตัวเราเอง เริ่มมีอาการอ่อนเพลีย ไม่ค่อยมีแรง ตัวซีดมาก และเริ่มปวดหัวมาก เหมือนคนปวดไมเกรน

จากอาการปวดมาก ลูกสาวก็ได้มาฝังเข็มให้ทุกวัน (ลูกสาวเราเป็นหมอจีนนะ) แต่ก็ไม่ดีขึ้นเลย ลูกสาวก็บอกแม่ไปหาหมอเถอะ มันไม่น่าจะใช่วัยทองแล้วนะ ย้ำทุกวัน ให้แม่ไปหาหมอ

ในที่สุดวันที่เราไปหาหมอก็มา แต่ไม่ใช่ไปเรื่องเลือดออกมากนะ แต่กลับไปเรื่องอาการลมออกหู มีลมออกหูตลอดเวลา ฟังอะไรไม่รู้เรื่อง คุยไม่รู้เรื่องเลย ทนไม่ไหว นอนไม่ได้

ขอบอกก่อนว่า เราไปหาหมอประกันสังคม ที่โรงพยาบาลเกษมราษฎร์ ประชาชื่น รอนานมาก แต่ในทุกเรื่องมีทั้งเรื่องดีและไม่ดีในเวลาเดียวกัน เราพบคุณหมอที่ดีมากทุกท่านตลอดจนการผ่าตัดเรียบร้อย จะค่อย ๆ เล่าให้ฟังไปเรื่อย ๆ นะ

วันที่เราไปพบหมอ รอนานมาก เพราะมีหลายขั้นตอน เราก็พยายามเรียนรู้ไปกับขั้นตอนของโรงพยาบาล เพราะเป็นครั้งแรกที่เราใช้ประกันสังคม ในใจเราคือ ลองมาใช้ดูก่อน ว่าเป็นยังไง ถ้าไม่โอเค ก็ต้องไปหาหมอแบบคลินิกนอกเวลาราชการ (อันนี้ที่คิดไว้ในใจจริง ๆ)

เมื่อได้พบคุณหมอท่านแรก เป็นผู้หญิงค่ะ คุณหมอก็พูดคุยถามอาการ และตรวจหูดูคร่าว ๆ และบอกว่า จะนัดให้ไปพบคุณหมอเฉพาะทางนะ แต่ระหว่างที่คุยนั้น เราก็ถามคุณหมอเรื่องอาการวัยทอง แบบขออนุญาตสอบถาม หรือปรึกษาคุณหมอได้ไหมคะ (คือ เราต้องเอยคำนี้ก่อนเลยนะ เพราะกลัวว่า คุณหมอจะไม่พอใจ) คุณหมอก็ถามว่า มีอาการอะไร เป็นยังไง ก็เริ่มคุยได้ รู้สึกไม่อึดอัดที่จะถาม ก็เล่าอาการให้หมอฟัง หมอตกใจ “อันนี้ อาการน่าเป็นห่วงกว่า ลมออกหูอีกนะ” อ้าว หมอว่ามาซะ เราน้ำตาไหลเลย หมอก็ปรอบใจนะ เช็คดูก่อนนะ เดี๋ยวจะนัดให้ไปพบกับหมอเฉพาะทางนะ และหมอก็บอกว่า ถึงว่า ตัวซีด ๆ คิดว่า เราเป็นคนสีผิวนี้ หมอเลยบอกว่า มาตรวจเลือดด้วยนะ

สรุปวันแรกที่ไปพบหมอ ได้ใบนัดมา 3 ใบ คือ พบหมอตรวจหู พบหมอตรวจสูตินารี และนัดตรวจเลือด โดยต้องงดน้ำงดอาหาร และพบหมอในวันนั้นด้วย โดยนัดพบหมอสูตินารี กับตรวจเลือด เป็นวันเดียวกัน และในวันนี้ เราได้ยาหยุดเลือด และยาบำรุงเลือดมาด้วย หลังจากทานยาหยุดเลือดไป สักวันที่ 2 เลือดก็เริ่มหยุดไหล แต่ในช่วงนี้ ลูกสาวก็ยังมาฝังเข็มให้อยู่ตลอด พอเข้าวันที่สามของการทานยาหยุดเลือด ฝังเข็มเจ็บมาก ฝังไม่ได้เลย ลูกสาวบอกเลือดหนืดมาก เลยหยุดฝังเข็มไป และอาการลมออกหู กับอาการปวดหัว ก็ค่อย ๆ ดีขึ้นเอง โดยไม่ได้ทำอะไรเลย (แค่ยาหยุดเลือด กับบำรุงเลือดจริง ๆ)

เราก็มาตามกำหนดนัดเริ่มจาก อดน้ำอดอาหาร และมาเจาะเลือด (เจ็บมาก พยาบาลเจาะกันเข้า (เจ็บมาก) แต่เลือดไม่ออก เลยบอกว่า ทานยาหยุดเลือดค่ะ พยาบาลต้องมานั่งตบตีนวดเรา เพื่อให้เลือดไหลนะ) โดนดูดเลือดไป 5 หลอดเล็กนะ และก็ตรวจเอ็กซเรย์ปอดด้วย เมื่อตรวจเสร็จ ก็ไปแจ้งแผนกสูติ ว่า ชื่อนี้ เพิ่งเจาะเลือดเสร็จ ขออนุญาตไปทานข้าวก่อน ทานเสร็จแล้วจะมารายงานตัวใหม่คะ

เมื่อทานข้าวเสร็จก็มาพบคุณหมอสูติคะ คนเยอะมาก อ่านดูในพันทิพบอกว่าคุณหมอท่านนี้เก่งมาก เห็นคนตามหากันว่าอยู่ที่ไหน (คุณหมอเป็นผู้ชาย อายุยังไม่มาก น่าจะสี่สิบต้น ๆ ) คุณหมอพูดจาดีมาก อัธยาศัยดีมาก และก็แนะนำหลายอย่างมาก ในวันนี้ คุณหมอขอตรวจภายใน และตัดชิ้นเนื้อไปตรวจ ซึ่งในการตรวจคือ ตรวจสด ๆ ตัดสด ๆ เลย คุณหมอบอกว่า พบติ่งเนื้อ ขอตัดเลยนะครับ และก็ตรวจมดลูกจากภายนอกและภายใน คุณหมอบอกว่า คนไข้มดลูกโตมาก เดี๋ยวหมอจะส่งอัลตราซาวน์ก่อน เราก็รอใบนัดตรวจอัลตราซาวน์และก็ใบนัดพบหมอในครั้งต่อไป เพื่อฟังผลตรวจชิ้นเนื้อ

เมื่อพบหมอสูติเสร็จ เราก็ไปตามผลตรวจเลือด (จริง ๆ ตอนนี้ รู้สึกแย่แล้ว เพราะจากที่คุยกับหมอสูติมา ใจเราเสียไปแล้ว คือ กลัวเป็นมะเร็ง วันนี้ทั้งวัน นั่งน้ำตาซึมอยู่โรงพยาบาลตลอด) เมื่อได้ผลเลือดแล้วก็ไปพบหมอผู้หญิงท่านเดิม หมอก็บอกว่า ผลเลือด น้ำตาลดี ไขมันดีน้อยไปหน่อย แต่ผ่านเกณฑ์ ไขมันเลว หรือไม่ดี ผ่านเกณฑ์ แต่อีดนิดก็จะถึงเกณฑ์แล้ว ส่วนอื่น ๆ ดี แต่เม็ดเลือดไม่ค่อยดี ซีดไป เลยขอตรวจเลือดอีกรอบ เราก็ค่ะ ตามนั้น ก็ไปนั่งรอตรวจเลือดอีกรอบ แต่รอบนี้กลับได้เลย มาฟังผลอีกครั้ง ตามหมอนัด ในวันนี้ ก็ได้ยามาเยอะมาก หมอสั่งยาเกี่ยวกับเลือดให้เหมือนสั่งมาให้ทานกันยาวไปเลย (ประมาณสามเดือน) และยาบำรุงเลือดมาเพิ่ม

ยาที่ได้รับ ครั้งละ 84 เม็ด สองครั้ง ยังไม่รวมยาบำรุงเลือด

เราก็มาทำตามนัด นัดครั้งนี้คือ ตรวจอัลตราซาวน์ ทางเจ้าหน้าที่ก็แนะนำให้ทานอาหารได้ แต่ต้องอั้นปัสสาวะ ห้ามปัสสาวะเลย อย่างน้อยสองถึงสามชั่วโมงก่อนตรวจ เราก็ไปซื้อน้ำมาดื่มขวดใหญ่เลย (ตอนที่ถึงโรงพยาบาล ระหว่างรอคิวจะได้ปวดปัสสาวะ เวลาตรวจพอดี) ระหว่างรอคิว ก็เห็นคนอื่น ๆ ตรวจไม่ได้นะ ต้องไปดื่มน้ำกันเพิ่มและอั้นปัสสาวะกัน แต่พอถึงคิวเราตรวจ คุณหมอผู้ตรวจ ตรวจได้ มองเห็น ก็ตรวจไปบ่นไป ทำไมมดลูกโตอย่างนี้ และก็บ่นเป็นภาษาหมอ ซึ่งเราฟังไม่รู้เรื่อง เค้าคุยกับพยายาล ก็ทำกันไปสักเกือบครึ่งชั่วโมง เราก็ถามว่า ต่อไปจะให้เราไปไหนต่อค่ะ คุณพยาบาลก็บอกว่า วันนี้ กลับบ้านได้เลยคะ มาพบหมอตามกำหนดนัดนะคะ เราก็ไปปัสสาวะ และก็กลับบ้านทันที

ในวันที่นัดฟังผลตรวจชิ้นเนื้อ คุณหมอบังคับให้พาญาติมาด้วย ซึ่งเราก็มีแต่ลูกสาวที่เป็นหมอจีน ก็พามาด้วย วันนี้ ก็ต้องไปพบคุณหมอผู้หญิงด้วยที่วันก่อนตรวจเลือดไป แต่คุณหมอลากะทันหัน ก็ได้ใบนัดให้ไปใหม่อีกครั้ง และก็ไปพบหมอสูติ เพื่อฟังผลตรวจชิ้นเนื้อ เมื่อถึงคิว หมอก็บอกเกี่ยวกับผลตรวจอัลตราซาวน์ และให้กระดาษผลตรวจมาด้วย คือ พบก้อนเนื้อขนาดใหญ่ 3 ก้อนในมดลูก ประมาณก้อนละ 5 ซม. และพบในรังไข่ 1 ก้อน แต่คุณหมอไม่กล้ายืนยัน ว่า ก้อนเนื้อ เป็นก้อนเนื้อร้าย หรือก้อนเนื้อดี เพราะผลตรวจชิ้นเนื้อยังไม่ออก คุณหมอก็คุยเรื่องการผ่าตัด หรือจะดูกันไปก่อน แต่คุณหมอแนะนำให้ผ่าตัด เพราะก้อนใหญ่ แต่ก็ยังย้ำว่า ถ้าผลตรวจออกมาเป็นมะเร็ง หรือเนื้อร้าย ก็ต้องมานั่งคุยกันใหม่นะ อ้าว เราก็ยิ่งใจไม่ดี ในใจคือ หนึ่งเตรียมตัวผ่าตัด และเตรียมใจผลตรวจชิ้นเนื้อ ซึ่งเราใจไม่ดีมาตลอดระหว่างรอผลตรวจชิ้นเนื้อ วันนี้คุณหมอให้กลับบ้าน และอีกสองสัปดาห์ มาฟังผลตรวจชิ้นเนื้อ และสั่งให้ปรับการทานอาหารควบคุมน้ำหนัก น้ำตาล เพราะทุกอย่างมีผลต่อการผ่าตัด และที่สำคัญ อายุด้วย (แต่ลูกสาว เห็นหน้าจอคุณหมอ บอกว่า แม่ไม่ต้องห่วง เป็นเนื้อดี เพราะผลตรวจอัลซาวน์ บอกก้อนเนื้อผิวเรียบ จากการที่เรียนมา ถ้าก้อนเนื้อแบบนี้ คือ เป็นก้อนเนื้อดี อ้าว ลูกสาว แอบไปอ่านผลตรวจหน้าจอหมออีก หรือต้องการให้แม่สบายใจ)

เมื่อกลับมาบ้าน ก็เริ่มควบคุมอาหารกัน งดโซเดียม แต่ในที่สุดก็ไปซื้อซอสต่างๆ  แบบลดโซเดียมมา เพราะเรายังติดกลิ่นนะ แต่รสชาติทุกอย่างปรับให้อ่อนลงหมด เริ่มลดแป้งกับน้ำตาล เริ่มทานแป้งแต่มื้อเช้ามื้อเดียว และลดปริมาณลง เน้นทานโปรตีน ผัก ผลไม้

เมื่อถึงกำหนดนัด ก็ไปพบคุณหมอกัน พอพยาบาลเรียกชื่อเท่านั้น น้ำตาเราแทบจะไหลออกก่อนเลย เพราะกลัวผลตรวจ หมอบอกว่า ผลตรวจดีนะ ไม่ต้องห่วง ชิ้นเนื้อดี วันนี้ ก็นัดตรวจเลือดนะ แล้วเตรียมตัวผ่าตัดกัน ถ้าผลตรวจเลือดออกมาดี ร่างกายพร้อม ก็นัดผ่าเลย

นัดมานอนโรงพยาบาล เพื่อเข้าผ่าตัด

วันนัดตรวจเลือด ร่างกาย สำหรับการผ่าตัดก็มาถึง วันนี้ งดน้ำงดอาหารค่อนข้างนานมาก กว่าจะถึงคิวเจาะเลือด เรียกว่า แทบเป็นลม ลูกสาวต้องเตรียมน้ำแดงมาไว้ให้เลย วันนี้ ก็เจาะเลือดไปหลายหลอดอยู่ และก็มีการตรวจคลื่นหัวใจไฟฟ้า เอ็กซเรย์ปอด เมื่อตรวจเลือดเรียบร้อย ก็ไปทานข้าว และกลับมารอฟังผลเลือด ผลตรวจต่าง ๆ (ประมาณสองชั่วโมง) เมื่อฟังผลคุณหมอก็นัดผ่าตัด อีกหนึ่งสัปดาห์ (โดยขอให้ไม่ให้ติดโควิดนะ เพราะหลายท่านที่นัดผ่าตัดแล้วติดโควิด ก็ต้องเลื่อนกันไป และเริ่มตรวจกันใหม่) ก็มีการนัดตรวจโควิดก่อนการผ่าตัดหนึ่งวัน เราก็พยายามไม่ออกไปไหน ใครจะมาก็ต้องตรวจโควิด และวันตรวจโควิด เราก็ผ่านไม่ติดนะ และวันรุ่งขึ้นก็มาโรงพยาบาลสำหรับการเตรียมตัวผ่าตัด

มีต่อในตอนต่อไปนะคะ ในช่วงของการเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลคะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *