Thailand-3749_-_Four_Faces_Buddha_(Brahma)_(6042345760) (1)

บูชาขอ “พระพรหม” สำเร็จในทุกเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น เรื่องการงาน การเรียน สิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิต การสอบ ขอเกี่ยวกับการเลื่อนตำแหน่งงาน และความก้าวหน้าในชีวิต ขอเกี่ยวกับเรื่องพ่อ หรือเรื่องอสังหาริมทรัพย์ สังหาริมทรัพย์ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ ที่ดิน บ้าน คอนโด รถยนต์ อยากมี หรืออยากได้ รวมทั้ง “หนี้สิน” ที่มีคนยืมไปแล้วไม่คืน หรือจะขอเรื่องสุขภาพ คู่ชีวิต ครอบครัว ญาติพี่น้อง เรื่องเกี่ยวกับแม่คู่สัญญา หุ้นส่วน ความมั่นคงของชีวิต จะขอเรื่องโชคลาภ สิ่งที่ได้มาโดยบังเอิญ การขอกู้ยืมเงิน ขอเรื่องค้าขาย เรื่องของบุตร ใครยังไม่มีบุตรให้มาขอได้ “พรหมจะประทานพร ให้ประสบแต่ความเจริญก้าวหน้า”

“พระพรหม” เป็นหนึ่งใน “ตรีมูรติ” เป็นการรวมร่างอวตารของพระเป็นเจ้าในศาสนาพราหมณ์ – ฮินดู ได้แก่

  • พรหมเทพ คือ เทพผู้สร้าง
  • วิษณุเทพ คือ เทพผู้รักษา และ
  • ศิวะเทพ คือ เทพผู้ทำลาย

ตั้งแต่อดีตจวบจนปัจจุบัน พรหมยังเป็นมหาเทพผู้ยิ่งใหญ่ของชาวอินเดีย และชาวไทยให้ความเคารพนับถือ ต่อมามีการสร้างเทวาลัยขึ้น เพื่อประดิษฐานเทวรูปของพรหม ผู้ที่มากราบไหว้บูชาเชื่อว่า พรหมเป็นผู้ลิขิตชะตาชีวิต มีความเมตตาต่อผู้ศรัทธา ประทานพรให้แก่ผู้ทำความดีให้ได้รับความสุขความเจริญรุ่งเรืองในชีวิต

พรหมเกิดขึ้นมาโดยไม่มีสิ่งใด พระองค์ไม่มีจุดกำเนิด มีอยู่ตั้งแต่เริ่มต้นของจักรวาล เรียกว่า “อาปวะ” เมื่อพรหมประสงค์จะสร้างสิ่งใด จึงแบ่งตัวเองออกเป็นสองภาค คือ ภาคหนึ่ง เป็นชาย ภาคหนึ่ง เป็นหญิง ร่วมมือสร้างเทพองค์อื่นขึ้นมา ชาวฮินดูเชื่ออีกว่า พรหมมีองค์เดียว ไม่มีวันเกิด ไม่มีวันตาย หาที่กำเนิดและที่สิ้นสุดไม่ได้ มีอำนาจยิ่งใหญ่ อยู่เหนือสรรพสิ่ง ซึ่งชาวฮินดูนิยมกราบไหว้ขอพร เชื่อว่า “พรหมจะประทานพร ให้ประสบแต่ความเจริญก้าวหน้า”

พุทธศาสนาเถรวาท เชื่อว่า พรหมเป็นเทพในพรหมโลก เป็นโลกที่ปราศจากกามในพุทธศาสนาเถรวาท แบ่งออกเป็น ๒ ประเภท คือ

  • พรหมที่มีรูป เรียกว่า “รูปพรหม” มีทั้งหมด ๑๖ ชั้น และ
  • พรหมที่ไม่มีรูป เรียกว่า “อรูปพรหม” มีทั้งหมด ๔ ชั้น

พรหมมีอายุทิพย์ มีรัศมีที่แผ่ออกจากสรีระ เหตุที่มาบังเกิดเป็นพรหม พุทธศาสนาเถรวาทกล่าวว่า มนุษย์ผู้มีคุณธรรมสูง ดำรงตนในพรหมวิหาร คือ เมตตา กรุณา มุทิตา และอุเบกขา ประพฤติตามคุณธรรมที่ประเสริฐ ครั้นละอัตภาพจากมนุษย์ ย่อมเข้าถึงฐานะแห่งพรหม

พรหมเกิดจามนุษย์ผู้ทำบุญด้วยสมาธิ ทำฌานให้เกิดขึ้น มีปฐมฌาน ทุติฌาน ตติยฌาน จตุตถฌาน ละอัตภาพมนุษย์ย่อมเกิดในพรหมโลก

ศาสตราวุธของพระพรหม

  • ลูกประคํา คือ การสวดมนต์ภาวนาต่อพระพรหม เพื่อแผ่เมตตาไปยังสรรพชีวิต
  • ดอกบัว คือ ความสวยงามของธรรมะ ความดีงามพระองค์ทรงสอนให้มนุษย์กระทำในสิ่งที่ดี งาม และมีเมตตาต่อผู้อื่นเสมอ
  • คัมภีร์ คือ การตั้งตน ประพฤติตนอยู่ในความดี และความชอบ การศึกษา บทสวด และโยคะ เพื่อมุ่งตรงสู่พระผู้เป็นเจ้า
  • หม้อน้ำ คือ กมัณฑลุ หรือหม้อกลัศที่นักพรตตวงน้ำจากแม่น้ำคงคาไปใช้ในพิธีกรรมบูชา เทพต่าง ๆ (น้ำมนต์บริสุทธิ์)

อย่างไรก็ตาม ศาสตราวุธทั้ง ๔ นี้ เป็นศาสตราวุธหลัก แต่พระพรหมก็ยังมีศาสตราวุธอื่น ๆ อีกมากมาย ซึ่งก็แล้วแต่ช่างจะจินตนาการปั้น หรือวาด เพื่อเป็นการเสริมความหมายขึ้นมา เช่น กระจกสังข์ จักร ธนู ดาบ หอก มีด กริซ คฑา ช้อน ตักน้ำมันไฟ ตลอดจนเครื่องดนตรีต่าง ๆ ด้วยเช่นกัน

นอกจาก ชาวฮินดูโบราณที่มีการประกอบพิธีบวงสรวงบูชาพระพรหมในบ้านเมืองของตนแล้วนั้น ได้ปรากฏว่า ชาวเอเชีย เช่น จีน ไทย และญี่ปุ่น กลับมีการบวงสรวงบูชาพระพรหมมากกว่าชาวฮินดู โบราณ การบวงสรวงบูชาพระพรหมของชาวจีน และชาวไทยนั้น มิได้เฉลิมฉลองกันเป็นเทศกาลเป็นประจำทุกปีแต่อย่างใด

เครื่องบวงสรวงบูชาพระพรหม โดยมากจะเป็นสัตว์เลี้ยงต่าง ๆ เช่น ช้าง ม้า เป็นต้น โดยมากจะทำการบวงสรวงบูชาพระพรหมกันตลอดปี โดยการถวายรูปปั้นช้าง หรือม้าจำลองขนาดเล็กบ้าง ถวายพวงมาลัย ๗ สีบ้าง ถวายอาหารคาวหวานต่าง ๆ ที่นิยมกัน คือ การบนด้วยการรําของตัวละครรํา หรือตัวผู้บนบานเอง ผู้ที่บูชาพระพรหมด้วยการกระทำความดี ตั้งอยู่ในพรหมวิหาร 4 จะเป็นผู้ที่ขอพรได้สัมฤทธิ์ผลเร็วขึ้น พระพรหมจะประทานพรให้อย่างดียิ่ง ทั้งกิจการงาน และครอบครัวจะรุ่งเรืองมั่งมีศรีสุขสืบไป

องค์พระพรหมท่านมี ๔ พักตร์ ๔ ทิศ เพราะฉะนั้น การบูชาก็ควรบูชาให้ครบทั้ง ๔ พักตร์ ๔ ทิศ ซึ่งวิธีการบูชาพระพรหม เรามักจะไหว้ธูป ๙ ดอก เทียน ๒ เล่ม และบูชาเฉพาะหน้าเดียว สิ่งที่ควรคำนึงถึง คือ การขอพรจากพระพรหม ควรขอพรเพียงเรื่องเดียวจากท่าน

สิ่งแรกต้องเตรียมของในการสักการะพระพรหมให้ครบ ๔ ธาตุ ก่อน คือ ดิน น้ำ ลม ไฟ

  • ธาตุดิน คือ ดอกบัว
  • ธาตุน้ำ คือ น้ำสะอาด
  • ธาตุลม คือ ธูป
  • ธาตุไฟ คือ เทียนการสักการะองค์พระพรหม

โดยเริ่มจาก พักตร์แรก (ตรงหน้า) และ เวียนขวามือของเรา ซ้ายมือของท่านจนไปถึงหน้าสุดท้าย

การขอพรพระพรหมทุกพักตร์จะมีความหมายต่างกัน

  • พระพักตร์แรก ใช้ธูป 16 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวดหรือ 1 แก้ว ในพักตร์แรกนี้ ขอเกี่ยวกับเรื่อง “เรื่องการเรียน การงาน การสอบ สิ่งที่ต้องรับผิดชอบในชีวิต การเลื่อนตำแหน่งงาน ขอความก้าวหน้าในชีวิต และขอเกี่ยวกับเรื่องพ่อ”
  • พักตร์ที่สอง ใช้ธูป 36 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวดหรือ 1 แก้ว ในพักตร์ที่สองนี้ ขอเกี่ยวกับเรื่อง “เรื่องสังหาริมทรัพย์ อสังหาริมทรัพย์ เรื่องเงิน ๆ ทอง ๆ บ้าน ที่ดิน คอนโด รถยนต์ อยากได้ หรืออยากมีอะไรก็ให้ขอหน้านี้ รวมทั้งเรื่องการทวงถาม ติดตาม “หนี้สิน” ที่มีคนยืมไปแล้วไม่ได้คืน”
  • พักตร์ที่สาม ใช้ธูป 39 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวดหรือ 1 แก้ว ในพักตร์ที่สามนี้ ขอเกี่ยวกับเรื่อง “คู่ชีวิต คนรัก ครอบครัว สุขภาพ ญาติพี่น้อง เรื่องเกี่ยวกับแม่ หรือแม้แต่ คู่สัญญา หุ้นส่วน ในการทำงาน และขอความมั่นคงของชีวิต”
  • พักตร์ที่สี่ ใช้ธูป 19 ดอก เทียน 9 เล่ม ดอกบัว 9 ดอก น้ำ 1 ขวด หรือ 1 แก้ว พักตร์ที่สี่นี้ ขอเกี่ยวกับเรื่อ “เสี่ยงโชค โชคลาภ สิ่งที่ได้มาโดยบังเอิญ ขอกู้ยืมเงินขอให้ผ่าน ขอเรื่องค้าขาย เรื่องของบุตรหลาน และใครที่ยังไม่มีบุตร และต้องการบุตรให้มาขอที่พักตร์นี้ได้”

อย่างไรก็ดี ผู้บูชาพระพรหม ควรทำความดี ประพฤติชอบ รักษาศีล จะได้รับการบันดาลพรให้สมหวังในสิ่งที่ปรารถนา แอดมินเชื่อว่า กราบไหว้ขอพร “พระพรหม” แล้ว “พรหมจะประทานพร ให้ประสบแต่ความเจริญก้าวหน้า”

ขอบคุณภาพจาก https://commons.wikimedia.org/wiki/File:Thailand-3749_-Four_Faces_Buddha%28Brahma%29_%286042345760%29.jpg

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *