เกย์…การสมรสเพศเดียวกันและคริสตจักร

เรื่อง “เกย์” ไม่ใช่เรื่องใหม่ ๆ แต่กำลังเป็นเรื่องสำคัญปัจจุบันที่คริสตจักรต้องเผชิญอยู่ และคงจะต้องเผชิญมากยิ่งขึ้นต่อไปในอนาคต แต่เมื่อใดที่คิดถึงเรื่องนี้ สตีฟ เทย์เลอร์[1]มักจะระลึกถึงคำเตือนสติของจอห์น สตอทท์เสมอ ท่านเขียนไว้ในหนังสือ “Same – Sex Partnerships?” ว่า “คริสตจักรต้องยอมรับ และกลับใจว่า ตนเองล้มเหลวในการแสดงความรักต่อคนรักร่วมเพศ” (the Church must recognize and repent of her failure to love homosexuals)

ความสับสนในเรื่องเพศ

สังคมเรามีความสับสนในเรื่องเพศอย่างมาก ไม่ว่าจะมาโดยละครทีวี การสื่อสารต่าง ๆ หรือการแต่งตัวทั่วไป รูปแบบ และความเข้าใจของการเป็นผู้ชายแท้ หรือการเป็นผู้หญิงแท้ กลายเป็นสิ่งที่ไม่ค่อยชัดเจน ผู้ชายมีการแสดงท่าทางแบบกระตุ้งกระติ้งและอ้อนแอ้น ผู้หญิงทำกิริยาเหมือนผู้ชาย ทุกวันนี้ เราไม่ค่อยรู้สึกเป็นเรื่องแปลกเลย ถ้าเห็นคนแต่งตัวเป็นเพศตรงข้าม การผ่าตัดเพื่อแปลงเพศกำลังมีมากขึ้น แม้แต่คนต่างชาติก็กำลังนิยมมาที่ประเทศไทย เพื่อรับการผ่าตัดแปลงเพศโดยแพทย์ที่เชี่ยวชาญ ในเวลาเดียวกัน มีคนยอมรับว่า มีความนิยมในเพศเดียวกันมากยิ่งขึ้น จนกระทั่ง ประเทศไทยมี พ.ร.บ.ฉบับร่างแล้ว ซึ่งอาจเป็นไปได้ที่กฎหมายไทยในอนาคต จะอนุญาตให้คู่รักที่มีเพศต้นกำเนิดเดียวกันจดทะเบียนคู่ชีวิตกันได้ คริสตจักรควรตอบสนองสิ่งเหล่านี้อย่างไร…?

คริสตจักรเป็นที่ที่คนจะได้รับพระคุณ

พระเจ้าได้สำแดงทางพระคัมภีร์อย่างชัดเจนว่า การมีเพศสัมพันธ์กับเพศเดียวกันเป็นบาป (เช่น โรม 1: 18 – 32) การใช้เครื่องแต่งกายของเพศตรงข้าม เป็น “ที่พึงรังเกียจแด่พระเจ้า” (เฉลยธรรมบัญญัติ 22: 5) และการสมรสที่ถูกต้องตามพระประสงค์ของพระเจ้า ควรเป็นระหว่างชายคนหนึ่งและหญิงคนหนึ่ง “ผู้ชายจะละจากบิดามารดาของเขาไปผูกพันอยู่กับภรรยา…” (ปฐมกาล 2: 24) เป็นข้อความที่ถูกอ้างอิงหลายครั้งในพระคัมภีร์ตอนอื่น ๆ และถูกอ้างอิงโดยพระเยซูด้วย คริสตจักรที่เชื่อว่า พระคัมภีร์เป็นพระวจนะของพระเจ้า ได้รับการดลใจจากพระเจ้า และถูกต้องทุกข้อ จะไม่จัดพิธีสมรสสำหรับคู่รักเพศเดียวกันอย่างแน่นอน ถ้าเราศึกษาพระประสงค์ของพระเจ้าในเรื่องความสัมพันธ์ทางเพศ เราสามารถยกข้อพระคัมภีร์ที่สนับสนุนทัศนะเหล่านี้ให้ชัดเจนขึ้นอีกมากมาย

แต่สิ่งที่อยากจะเน้นที่นี่คือ ให้เราทุกคนตระหนักว่า เราเป็นคนบาปด้วยกัน ถึงแม้ว่า อาจไม่มีการกระทำในเชิงรักร่วมเพศ เราทุกคนก็ตกจากมาตรฐานของพระเจ้าเหมือนกัน และคนที่นิยมชอบเพศตรงข้ามก็ตกจากมาตรฐานของพระเจ้าในเรื่องทางเพศด้วย เป้าหมายของพระธรรมโรมบทที่ 1 จนถึงบทที่ 3 ไม่ใช่เพื่อจะโจมตีพวกรักร่วมเพศกลุ่มเดียว แต่เพื่อเราทุกคนจะได้รู้ว่า เป็นคนบาปเหมือนกัน และต้องการพระคุณของพระเจ้าผ่านพระเยซูคริสต์

พระเยซูสอนเรื่องการตัดสินคนอื่น โดยเปรียบเทียบกับการมองเห็นผงในตาของคนอื่น แต่ไม่เห็นไม้ทั้งท่อนที่อยู่ในตาของตัวเอง (มัทธิว 7: 3) และได้สอนว่า เป็นคนเก็บภาษีที่ต๊อกชกตัวกล่าวว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด” ที่ถูกนับว่า เป็นคนชอบธรรม ไม่ใช่ฟาริสีที่ถือว่า ตัวเองดีแล้วมองตัดสินและดูถูกคนอื่น (ลูกา 18: 11 – 15) แท้ที่จริงแล้ว เราทุกคนได้รับการยอมรับจากพระเจ้า ไม่ใช่เพราะเราดีหรือบริสุทธิ์ แต่เพราะพระคุณมหาศาลของพระองค์ ในแง่หนึ่งเราสามารถเปรียบเทียบคริสตจักรเสมือนว่า เป็นโรงพยาบาลรักษาคนบาป เราทุกคนติดเชื้อบาป และกำลังได้รับการรักษา พี่น้องในคริสตจักรจึงควรต้อนรับทุกคน ไม่ใช่มีเงื่อนไขว่า ต้องปรับปรุงตัวเองก่อน แต่ต้อนรับตามสภาพที่เป็นอยู่ ด้วยความรัก และพระคุณของพระเจ้า

คริสตจักรเป็นที่ที่คนจะได้รับการเปลี่ยนแปลงคนใหม่

พระคุณของพระเจ้ามาก่อน แต่ที่ควบคู่กับพระคุณของพระเจ้าเสมอ คือ การพิพากษาของพระองค์ พระคุณมาโดยการสิ้นพระชนม์ของพระเยซูที่ไม้กางแขน และที่ไม้กางแขนพระองค์ได้กระทำอะไรบ้าง? พระองค์ได้ตรึงตัวเก่าของเราไว้ที่ (โรม 6:6)เราจึงมาถึงพระองค์ตามสภาพที่เป็นอยู่ และรับพระคุณของพระองค์ แต่ในพระคุณนั้นการพิพากษาต่อตัวเก่า และเนื้อหนังของเราก็มาด้วย เราจึงตอบสนองด้วยการกลับใจ และพึ่งพระองค์ในการสวมสภาพชีวิตใหม่ที่มาผ่านชีวิตของพระเยซูคริสต์ในเรา และไม่ใช่โดยการพยายามปรับปรุงตัวเอง นี่คือ การบังเกิดใหม่ แต่การเข้าใจความจริง และการสำนึกบาป เป็นงานของพระวิญญาณบริสุทธิ์ (ยน.16: 8) คริสตจักรต้องระมัดระวังที่จะก้าวให้ทันกับการทรงนำของพระวิญญาณเสมอในการช่วยเหลือคนที่เข้ามาอยู่ในคริสตจักร คนที่เข้ามามีความเข้าใจในความจริงอย่างหลากหลาย มีการสำนึกในความบาปไม่เท่ากัน หน้าที่แรกของคริสตจักรและของพี่เลี้ยง ไม่ใช่ที่จะชี้ความบาปที่ตนเองสังเกตในเขา แต่หน้าที่แรก คือ สอนการประเสริฐไม้กางแขนของพระเยซูคริสต์ และอธิษฐานขอให้พระวิญญาณจะทรงเปิดตาฝ่ายวิญญาณของเขา เพื่อเขาจะได้เข้าใจและสำนึกความจริงได้ (อฟ. 1: 18) เรารู้อยู่แล้วจากชีวิตของเราเองว่า พระเจ้าอดทนกับเรามาก ไม่ได้สำแดงบาปทุกอย่างของเราทันที การรับการเปลี่ยนแปลงเป็นขบวนการที่ใช้ทั้งชีวิตของเรา เราจึงต้องมีความอดทนกับคนอื่นเช่นกัน และจุดเริ่มต้นของเราแต่ละคนก็ไม่เท่ากัน

ที่ได้กล่าวมาเช่นนี้ ไม่ได้หมายความว่า คริสตจักรควรจะละเลยต่อบาป แต่เมื่อเราชี้ถึงบาปบางอย่างที่เรามองเห็นได้ เราควรไม่ลืมว่า ยังมีบาปอีกมากมายที่เรามองไม่เห็นแต่พระเจ้าก็ทรงเห็น ซึ่งอยู่ในเราด้วย และถ้าเรารณรงค์ขจัดบาปทุกอย่างออกไปเพื่อให้คริสตจักรบริสุทธิ์ เราก็ต้องขจัดสมาชิกทุกคนออกจากคริสตจักรด้วย เพราะว่าทุกคนยังมีความบาป

ในเวลาเดียวกัน คนที่เริ่มเข้าใจพระคุณของพระเจ้า และอยู่ในบรรยากาศความรัก และการยอมรับของพี่น้อง มีโอกาสรับฟังพระวจนะของพระเจ้า คนนี้เมื่อพระวิญญาณทรงทำงานในชีวิต ก็จะไม่มีเงื่อนไขต่าง ๆ เช่นว่า “การกระทำของฉันเป็นสิทธิเลือกของฉัน” “ห้ามใครแตะต้องฉัน” แต่คนนี้จะอยากได้รับการเปลี่ยนแปลงจากพระเจ้า

แนวโน้มและการปฏิบัติ

เมื่อเราพิจารณาเรื่องรักร่วมเพศ เราต้องแยกชัดเจนระหว่างแนวโน้มและการปฏิบัติ คริสตเตียนควรเกลียดความบาป แต่ควรรักคนบาป ไม่ใช่เกลียด หรือรังเกียจคนบาปไปด้วย และเมื่อพูดถึง “เกลียดคนบาป” ในเรื่องรักร่วมเพศ เราต้องแยกแยะให้ถูกว่า อะไรเป็นความบาปจริง ๆ

การรับการทดลองเท่านั้น ยังไม่ถือว่า เป็นการทำบาป พระเยซูยัง “ถูกทดลองใจเหมือนเราทุกอย่าง ถึงกระนั้น พระองค์ก็ยังปราศจากบาป” (ฮีบรู 4: 15) การรับการทดลองจึงไม่ใช่บาป แต่เป็นการกระทำตามการทดลองนั้นที่นับว่า เป็นความบาป เหตุฉะนั้น การที่บางคนมีแนวโน้มที่จะชอบเพศเดียวกัน และรับการทดลองในทางนั้น ถ้าเขาไม่ปฏิบัติตามการทดลอง เราจึงอาจไม่ถือว่า เป็นการกระทำบาป

แต่การมีแนวโน้มที่ชอบเพศเดียวกัน เราก็ยังสรุปได้ว่า เป็นแนวโน้มที่ผิดปกติ เช่นเดียวกับสิ่งอื่น ๆ หลายอย่างที่ผิดปกติไปจากแบบที่พระเจ้าทรงสร้างมนุษย์ตั้งแต่แรก เช่น เป็นคนเตี้ยผิดปกติ หรือหูหนวก ฯลฯ เราอาจไม่รู้สาเหตุที่แต่ละคนมีแนวโน้มอย่างนี้ อาจได้เกิดมาอย่างนั้นก็ได้ แต่ในที่สุดเป็นเพราะความผิดบาปสืบทอดมาจากอาดัมที่ทำให้เราเพี้ยนไปจากพระประสงค์ของพระเจ้า ซึ่งทำให้เราทุกคนเกิดมาเป็นคนบาป การมีแนวโน้มชอบเพศเดียวกัน อาจทำให้คนหนึ่งมีการทดลองทำบาปในเชิงเพศสัมพันธ์กับคนเพศเดียวกัน ในเวลาเดียวกัน  คนที่มีแนวโน้มชอบเพศเดียวกันก็ได้รับการทดลองให้ทำบาปในเชิงเพศสัมพันธ์กับคนเพศตรงข้าม ทั้งสองจะต้องหลีกเลี่ยงการทำบาปเหมือนกัน โดยไม่ได้ทำตามการทดลองที่จะมาถึงตน

ที่สหรัฐอเมริกามีองค์การคริสตเตียนที่มีชื่อเสียงองค์การหนึ่งที่ตั้งขึ้นมาเพื่อช่วยคนที่มีปัญหาเรื่องรักร่วมเพศ ชื่อ Exodus International ตลอดเวลาหลายปีเขาพยายามช่วยคนโดยเน้นวิธีต่าง ๆ เพื่อคนที่มีปัญหาจะเปลี่ยนแนวโน้มของเขาได้ ให้เป็นคนที่ชอบเพศตรงข้ามแทนที่จะชอบเพศเดียวกัน แต่สุดท้ายเขายอมรับว่า มีความสำเร็จน้อยมาก และได้สร้างความกดดันสูงกับผู้ที่เขาพยายามจะช่วย เขาจึงเปลี่ยนจุดเน้นขององค์การ โดยเริ่มเน้นการช่วยผู้ที่มีปัญหาสามารถปฏิเสธการทดลองแทน คือ ช่วยให้เขาได้รับกำลังที่มาจากพระเจ้าเพื่อแนวโน้มของเขาจะไม่นำไปสู่การทำบาป

เรารู้ว่า พระเจ้ายิ่งใหญ่ สามารถเปลี่ยนทั้งชีวิตให้เป็นคนใหม่ได้ แต่จากประสบการณ์ของตัวเราเอง เราทุกคนก็ทราบดีว่า การเปลี่ยนแปลงนั้นยังไม่สำเร็จ เราทุกคนสามารถทำสิ่งที่น่าเกลียดน่าชังได้ และความพยายามที่จะไม่เป็นคนเช่นนั้นก็ไม่เพียงพอ เรายังเป็นอย่างนั้นอยู่ เราจึงร้องขอว่า “ข้าแต่พระเจ้า ขอทรงเมตตาแก่ข้าพระองค์ผู้เป็นคนบาปเถิด” คนรักร่วมเพศบางคนได้ฆ่าตัวตาย เนื่องจาก ถูกดดันให้เปลี่ยนแนวโน้มของตน และเคยได้ยินคนหนึ่งพูดว่า “เป็นแนวโน้มธรรมชาติ การเสนอให้พยายามเปลี่ยน ก็เหมือนบอกคนที่สูงแค่ 5 ฟุตว่า “ถ้าเธอพยายามมากพอ เธอจะสามารถสูงถึง 6 ฟุตได้”

เรายังควรขอที่พระเจ้าจะเปลี่ยนทั้งชีวิตของคนที่มีปัญหา ทั้งแนวโน้มของเขาด้วย แต่ขอเสนอว่า คริสตจักรควรเน้นการสร้างบรรยากาศที่ต้อนรับ และสนับสนุนคนทุกประเภท ไม่ว่ามีความสับสนทางเพศอย่างไร แม้แต่ในอนาคตอาจมีคู่รักเพศเดียวกันที่เป็นคู่ชีวิตแล้วเข้ามาในคริสตจักร หรือคนที่แปลงเพศไปแล้ว และอยากเป็นสาวกของพระเยซู ให้เราช่วยทุกคนให้มีใจปรารถนาที่จะดำเนินชีวิตที่บริสุทธิ์ ไม่เข้าไปในการทดลอง ไม่ได้ปล่อยตัวตามธรรมชาติของตัวเองเหมือนเราทุกคนต้องไม่ปล่อยตัวตามธรรมชาติของตัวเอง มีการให้อภัยถ้าผิดพลาด และมีการช่วยในการเริ่มต้นใหม่โดยการพึ่งพาพระเจ้า ควรให้กำลังใจเมื่อเขารู้สึกอยากได้รับความรักและความใกล้ชิดสนิทสนมกับพระเจ้า เรียนรู้ที่จะให้พระวิญญาณครอบครองเหนืออารมณ์ความรู้สึก ละเว้นจากการกระทำที่อยู่นอกน้ำพระทัยของพระเจ้า อันนี่ถือว่า สุดยอดแล้ว[2]


[1] สตีฟ เทย์เลอร์. เกย์…การสมรสเพศเดียวกัน และคริสตจักร จาก https://www.bbsthai.org/stevebbs/gay.pdf

[2] ขอขอบคุณที่มาบทความ สตีฟ เทย์เลอร์. เกย์…การสมรสเพศเดียวกัน และคริสตจักร จาก https://www.bbsthai.org/stevebbs/gay.pdf

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *