อย่าโอนเงิน มิจฉาชีพแอบอ้างขนส่งและพัสดุจากต่างประเทศต้องจ่ายภาษีศุลกากร

ตอนนี้ หรือจริง ๆ มีมานานมากแล้ว ที่มีมิจฉาชีพโทรศัพท์มา และแจ้งเราว่า มีของส่งมาจากต่างประเทศ ต้องจ่ายค่าภาษีศุลกากร จึงจะรับของได้ มีตัวอย่างของการถูกหลอกต่าง ๆ ที่มีการพูดคุยกันใน pantip https://pantip.com/topic/37091569 เช่น โดนหลอกว่า มีพัสดุส่งมาจากประเทศสหรัฐอเมริกา มีมูลค่าประมาณ 50,000 บาท จะต้องโอนเงินก่อน เพื่อจ่ายค่าภาษี 25,000 บาท จึงจะได้รับพัสดุ

เราต้องรู้เกี่ยวกับระบบราชการไทยนะคะ จะไม่มีการโทรแจ้งค่ะ ระบบของไทยเรายังเป็นระบบเอกสาร แต่ก็ยอมรับ ในบางส่วนเริ่มพัฒนาเป็นแอพพลิเคชันอย่างไปรษณีย์ไทย

ลักษณะการหลอกลวงของมิจฉาชีพที่ควรรู้

  1. การแจ้งด้วยการโทรหาผู้รับพัสดุโดยตรงว่า มีพัสดุจัดส่ง โดยให้กดหมายเลขเพื่อให้เราสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม สร้างความน่าเชื่อถือ
  2. “พัสดุจากต่างประเทศติดศุลกากร และไม่สามารถจัดส่งได้” โดยติดต่อเข้ามาและให้เราแอดไลน์ หรือโอนเงินเข้าบัญชีส่วนตัวเพื่อเคลียร์พัสดุออกจากศุลกากรในราคาพิเศษ
  3. การแจ้งว่า “คุณได้รับรางวัล” และของหรือพัสดุนั้น ๆ อยู่ในระหว่างจัดส่ง แต่ต้องแจ้งข้อมูลส่วนบุคคลของผู้ได้รับรางวัล หรือต้องมีการชำระค่าภาษีนำเข้า ซึ่งหากคุณได้พิจารณาให้ดีแล้ว คุณก็ไม่ได้มีประวัติในการเข้าร่วมกิจกรรมดังกล่าว
  4. การแจ้ง “ส่งของผิดกฎหมาย” และหลอกให้เราโอนเงิน เพื่อเป็นเคลียร์คดี หรือการโอนสายให้เคลียร์กับเจ้าหน้าที่ตำรวจทางโทรศัพท์โดยตรง
  5. มีการส่งข้อความ SMS อ้างว่าเป็น DHL หรือบริษัทฯ ขนส่งเอกชน เชิญชวนให้คลิกลิงค์ดาวน์โหลดและติดตั้งแอพบนมือถือ

เรามาดูกันว่า หากมีมิจฉาชีพโทรมาให้เราจ่ายภาษีศุลกากรนั้น เราต้องทำอย่างไรกันบ้าง

  1. หากมีบุคคล หรือมิจฉาชีพ โทรมาแจ้งให้เราจ่ายภาษีทางโทรศัพท์ เราต้องจากบุคคลนั้น คือ 1) ขอชื่อบริษัทขนส่ง และเลขแทรกของพัสดุนั้น ๆ 2) ขอชื่อผู้รับปลายทางที่ถูกต้อง
  2. หลังจากเราได้ข้อมูลแล้ว ก็ติดต่อไปยังบริษัทฯ ที่เราได้รับข้อมูลมา หากมิจฉาชีพนั้น ไม่มีข้อมูลเหล่านี้ให้เรา ก็พึงพิจารณาได้ว่า “เป็นการหลอกลวง” ค่ะ

ความจริงของพัสดุที่ส่งจากต่างประเทศที่ควรรู้

  1. พัสดุที่ส่งจากต่างประเทศไม่ว่าจะมาจากประเทศไหนในโลกนี้ หรือจากบริษัทอะไรก็ตาม เช่น ไปรษณีย์ไทย DHL CJ Logistic FedEx UPS TNT Fast Ship Express Logistic และอื่น ๆ ต้องมีเลขแทรกหรือจะมีใบแจ้งเตือนมาให้เราค่ะ และที่สำคัญบุคคลที่จัดส่งของให้เรา จะมีเลขแทรกที่ได้รับจากต้นทางในการจัดส่ง
  2. การที่จะต้องจ่ายภาษีศุลกากรนำเข้าหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับดุลยพินิจของเจ้าหน้าที่ศุลกากร แต่ทั้งนี้ ก็อยู่ภายใต้กฎหมายและระเบียบข้อบังคับต่าง ๆ ของศุลกากร
  3. หากพัสดุนั้นต้องมีการจ่ายภาษีนำเข้า ทางเจ้าหน้าที่จะออกใบเขียว (ไปรษณีย์) ส่งให้ถึงบ้านผู้รับตามจ่าหน้า แต่ในปัจจุบันนี้ ทางไปรษณีย์ไทยมีระบบ Wallet@Post มีขั้นตอนดังนี้

1) ทำการดาวน์โหลดและติดตั้งแอพพลิเคชัน Wallet@POST และลงทะเบียนเข้าสู่ระบบ

2) เมื่อเข้าสู่ระบบเรียบร้อยแล้ว ให้เติมเงินเพียงพอจ่ายค่าภาษี โดยกดเลือกที่เมนู “จ่ายบิล” และกดเลือก “ศุลกากร” และกรอกข้อมูลเลขที่ใบแจ้งหรือหมายเลขพัสดุ หรือเลขแทรกกิ้ง ตามรายละเอียดในใบแจ้งที่ได้รับ โดยใส่เฉพาะตัวเลขและตัวอักษร และไม่ต้องเว้นวรรค หรือไม่ใส่เครื่องหมาย –

3) ระบบ Wallet@POST จะขึ้นรายการค่าภาษีสินค้านำเข้าที่ต้องชำระของคุณ และกรุณาตรวจสอบความถูกต้อง และกดยืนยัน ทั้งนี้ ผู้ใช้บริการที่จะจ่ายค่าภาษีสินค้านำเข้าผ่านแอพพลิเคชัน Wallet@POST จะต้องอยู่ในพื้นที่ให้บริการระบบไปรษณีย์ไทยและมีมูลค่าสิ่งของรวมกันไม่เกิน 40,000 บาทต่อกล่อง และในการเรียกเก็บค่าภาษีสินค้านำเข้าจะขึ้นอยู่กับกรมศุลกากร โดยสามารถตรวจสอบพื้นที่ให้บริการตามรูปด้านล่าง

ทั้งนี้ ยังมีวิธีการปฏิบัติสำหรับพัสดุระหว่างประเทศที่จัดส่งทางไปรษณีย์โดยไปรษณีย์ไทย

ซึ่งเมื่อมีสิ่งของจัดส่งทางไปรษณีย์ระหว่างประเทศที่ไปรษณีย์ไทย สำหรับการนำจ่ายและเรียกเก็บภาษีแทนกรมศุลกากร มีดังนี้

  1. สิ่งของทุกชนิดที่ส่งผ่านทางไปรษณีย์ไทยโดยรวมมีราคารวมค่าฝากส่งทางไปรษณีย์ที่มีราคาเกิน 1,500 บาท จะต้องชำระค่าภาษีศุลกากรและภาษีมูลค่าเพิ่ม และต้องไม่เป็นสิ่งของที่ต้องมีใบอนุญาต เช่น อาหาร อาหารเสริม เครื่องสำอาง ยา ทั้งนี้ สิ่งของที่จะได้รับการยกเว้นอากร คือ มูลค่ารวมฝากส่งไม่เกิน 1,500 บาท หรือเป็นตัวอย่างสินค้าที่ไม่มีราคาในทางการค้า โดยมีสูตรการคิด ดังนี้ สินค้าราคาเกิน 1,000 บาท + ค่าขนส่ง + อัตราภาษี (ขึ้นอยู่กับหมวดของสินค้านั้นๆ 5% – 56%) + vat 7% + ค่าดำเนินการ
  2. อย่างไรก็ดี หากผู้รับพัสดุ เห็นว่า การประเมินค่าภาษีศุลกากรนี้ไม่ถูกต้อง สามารถโต้แย้งก่อนการชำระได้ หากมีหลักฐาน เช่น ใบเสร็จรับเงิน (เพื่อแสดงหรือยืนยันราคาสินค้า ) โดยผู้มีชื่อรับพัสดุสามารถยื่นคำร้องพร้อมหลักฐาน ณ ที่ทำการไปรษณีย์ที่ระบุไว้ในใบแจ้งชำระค่าภาษี

ทั้งนี้ หากมีข้อสงสัย สามารถดูข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ www.postalcustoms.com หรือโทร. 02-575-1002-3

และสำหรับบริการธุรกรรมทางการเงินผ่านแอพพลิเคชันกระเป๋าเงินไปรษณีย์ หรือ Wallet@POST ที่สามารถทำธุรกรรมได้ง่าย ๆ บนมือถือของคุณ โดยตอนนี้สามารถชำระค่าภาษีศุลกากรสำหรับสินค้านำเข้าได้แล้ว ทำให้ไม่ต้องยุ่งยากวุ่นวายไปจ่ายที่ทำการไปรษณีย์ไทยอีกต่อไป สะดวกสบายสุด ๆ พร้อมมั่นใจได้ถึงมาตรฐานความปลอดภัย

เราก็ทราบถึงวิธีการจ่ายภาษีศุลกากรในเบื้องต้นของไปรษณีย์ไทยแล้วนะคะ ในส่วนของบริษัทฯ ขนส่งเอกชนอื่น ๆ นั้น ก็จะมีใบแจ้งมาให้ และให้เราไปติดต่อจ่ายค่าภาษีศุลกากรพร้อมรับพัสดุเราได้ที่สำนักงานของบริษัทฯ ขนส่งเอกชนนั้น ๆ คะ ต่อไป เราก็ไม่ต้องกังวลว่าจะโดนมิจฉาชีพหลอกให้โอนเงินแล้วนะคะ แต่สิ่งสำคัญเลย คือ “สติ” ค่ะ

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *