สุดยอดวิธีแก้กรรม

เมื่อศึกษาลงในรายละเอียดของการปฏิบัติเพื่อแก้กรรม เราจะพบว่า แต่ละสำนักมีวิธีการที่ไม่แตกต่างกันเท่าใดนัก วิธีปฏิบัติเพื่อแก้กรรมเหล่านั้น บางอย่างก็เป็นพิธีกรรม หรือวิธีปฏิบัติของพุทธศาสนาอย่างแท้จริง บางอย่างก็เป็นการผสมผสานระหว่างพุทธศาสนากับไสยศาสตร์ แต่บางอย่างก็เป็นไสยศาสตร์ล้วน ๆ เราสามารถรวบรวมได้ทั้งหมด 13 วิธี ดังนี้ (วิธีที่ 1 ถึงวิธีที่ 7 เป็นพิธีกรรมหรือวิธีปฏิบัติทั่วไปที่ถูกต้องตามหลักพุทธศาสนา ส่วนวิธีที่ 8 ถึงวิธีที่ 13 เป็นวิธีแก้กรรมที่มีลักษณะเฉพาะตัวของสำนักแก้กรรมต่าง ๆ ซึ่งมีส่วนผสมของพุทธศาสนาและไสยศาสตร์ปะปนกัน หรือไม่ก็เป็นไสยศาสตร์ล้วน ๆ)

  1. ทำบุญด้วยการให้ทาน (อามิสทาน) เป็นวิธีแก้กรรมด้วยการให้ทานที่เป็นวัตถุในรูปแบบต่าง ๆ เช่น ทำบุญตักบาตร ถวายสังฆทาน ถวายดอกไม้ธูปเทียน ปล่อยนก ปล่อยปลา ไถ่ชีวิตโคกระบือ ทำบุญโลงศพ ปิดทองพระปฏิมา สงเคราะห์ผู้ยากไร้ ช่วยเหลือผู้ตกทุกข์ได้ยาก บริจาคทรัพย์เพื่อการกุศลต่าง ๆ พิมพ์หนังสือธรรมะแจก ฯลฯ
  2. ทำบุญด้วยการออกแรงช่วยเหลือผู้อื่นในเรื่องต่าง ๆ เช่น เป็นเจ้าภาพร่วมงานบวช งานศพ งานบุญ งานกุศลอื่น ๆ หรือช่วยกันสร้างพระประธาน สร้างโบสถ์ สร้างสะพาน
  3. สมาทานศีล รักษาศีลให้เป็นปกติทั้งศีล 5 และศีล 8
  4. กินเจ ถือมังสวิรัติ
  5. เข้าวัดปฏิบัติธรรม นุ่งขาวห่มขาว บวชชีพราหมณ์ บวชพระ
  6. สวดมนต์ แผ่เมตตาให้สรรพสัตว์ ไหว้พระ 9 วัด
  7. ปฏิบัติกรรมฐาน นั่งสมาธิภาวนา เพื่อให้จิตใจผ่องใส
  8. ทำในสิ่งที่ตรงกันข้ามกับกรรมเก่า วิธีนี้มีอยู่ว่า เมื่อผู้ศรัทธาได้รับการพยากรณ์กรรมเก่า ซึ่งเป็นกรรมชั่วที่เขาเคยทำไว้ในอดีตชาติ เจ้าสำนักจะชี้เฉพาะเจาะจงว่า ปัญหาชีวิตของผู้ศรัทธาเกิดจากวิบากกรรมชั่ว (ผลของกรรมชั่ว) ที่ตามมาให้ผลในชาติปัจจุบัน หรืออีกกรณีหนึ่งก็คือ ผู้ศรัทธารู้ตัวเองดีว่า เคยทำกรรมชั่วอะไรไว้บ้างในชาติปัจจุบัน เช่น ทำแท้ง ทรมานสัตว์ และเมื่อทราบเหตุแห่งกรรมเก่าแล้ว เจ้าสำนักก็จะแนะนำให้ผู้ศรัทธาทำอะไรก็ได้ที่มีลักษณะตรงกันข้ามกับกรรมเก่านั้น ตัวอย่างเช่น
ผลกรรมที่ได้รับเหตุ/คำพยากรณ์กรรมเก่า (ในอดีตชาติ)วิธีแก้กรรม
ไม่มีลูก มีลูกยากเคยทำแท้งทำบุญกับเด็กกำพร้า
เจ็บป่วยบ่อย เป็นโรคร้ายเคยทรมานสัตว์ทำบุญกับสัตว์อนาถา ปล่อยนกปล่อยปลา
ปวดหัวเรื้อรัง เป็นโรคไมเกรนเคยทุบหัวปลาปล่อยปลาช่อน
ตาบอด ตาไม่ดี เป็นโรคตาถวานเทียน ถวายไฟฉาย ถวายน้ำมันเติมตะเกียงให้วัด
เป็นโสด อยากมีคู่ แต่หาคู่ไม่ได้เป็นเจ้าภาพงานแต่งงาน ปลูกต้นรักถวายวัด หรือถวายสิ่งของเป็นคู่ ๆ เช่น ธงคู่ เทียนคู่ หมอนคู่ แจกันคู่
มีกลิ่นตัว มีกลิ่นปากชอบดูหมิ่นดูแคลนเวลาผู้อื่นทำบุญบอกบุญผู้อื่น ออกปากชวนผู้อื่นทำบุญ
ไม่โด่งดัง ไม่มีชื่อเสียงบริจาคเงินสร้างหอระฆัง
  1. สวดมนต์ด้วยคาถาพิเศษต่าง ๆ ทั้งคาถาภาษาบาลีและภาษาอื่น ๆ ซึ่งสำนักแก้กรรมมักจะอ้างว่า เป็นคาถาที่ศักดิ์สิทธิ์มาก ผู้สวดจะต้องตั้งใจหรือตั้งสมาธิในการสวดอย่างจริงจัง และต้องสวดเท่านั้นเท่านี้รอบ คาถาจึงจะสัมฤทธิ์ผล วิธีแก้กรรมโดยใช้การสวดมนต์คาถาพิเศษนี้ แบ่งออกเป็น 3 ประเภทใหญ่ ๆ คือ
    • คาถาที่เฉพาะเจาะจงลงไปเป็นเรื่อง ๆ เช่น คาถาเงินล้าน คาถาเมตตามหานิยม คาถาแก้กรรมต่าง ๆ ไม่ว่าจะเป็นกรรมจากการทำแท้ง อาภัพคู่ครอง หรือมีคดีความต้องขึ้นโรงขึ้นศาล
    • คาถาบูชาเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ เช่น คาถาบูชาพระราหู คาถาบูชาพระศิวะ คาถาบูชาพระอุมาเทวี
    • คาถาขอขมาแก้กรรมกับเจ้ากรรมนายเวรโดยตรง
  2.  นั่งสมาธิแล้วส่งจิตติดต่อกับเจ้ากรรมนายเวร เมื่อผู้ศรัทธาประสบเคราะห์กรรมหรือปัญหาชีวิตอย่างใดอย่างหนึ่ง เช่น เป็นอัมพฤกษ์อัมพาต เจ้าสำนักก็มักจะพยากรณ์ว่า เพราะชาติก่อน (หรือชาตินี้) เคยฆ่าหรือทำร้ายคน วิญญาณของคนที่ถูกฆ่าหรือทำร้ายจึงกลับมาจองเวรให้ผู้ศรัทธาได้รับความทุกข์ทรมาน หรืออีกตัวอย่างหนึ่ง ชาติก่อน (หรือชาตินี้) เคยทำแท้ง วิญญาณของเด็กที่ถูกทำแท้งจึงตามมาจองเวรให้ได้รับความทุกข์หรือมีอุปสรรคในชีวิตเสมอ เมื่อผู้ศรัทธาทราบจากเจ้าสำนักแล้วว่า เจ้ากรรมนายเวรของตนเป็นใคร จึงเริ่มขั้นตอนแก้กรรมด้วยการนั่งสมาธิ โดยให้ตั้งจิตระลึกถึงเจ้ากรรมนายเวร แล้วขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวร ขอให้เจ้ากรรมนายเวรอย่าได้จองเวรต่อกันและกันอีกต่อไป
  3. สัมผัสองค์พระ (มีเป็นบางสำนัก) สำนักแก้กรรมที่เจ้าสำนักอ้างว่า เป็นร่างประทับของเทพเจ้าองค์ต่าง ๆ อาจจะใช้วิธีให้ผู้ศรัทธาสัมผัสกับรูปเคารพของเทพเจ้าองค์นั้น ๆ แล้วส่งผ่านจิตไปบอกเจ้ากรรมนายเวรให้เลิกจองเวรต่อกัน
  4. เขียนใบแก้กรรม ใบขมากรรม หรือใบจดกรรม โดยเขียนบอกเล่าถึงกรรมชั่วที่ตนเองเคยทำไว้ในชาติปัจจุบัน บางกรณีเจ้าสำนักอาจจะพยากรณ์กรรมเก่าในอดีตชาติ แล้วให้ผู้ศรัทธาเขียนยอมรับกรรมชั่วนั้น ๆ ลงในใบแก้กรรม เขียนโทษของกรรมชั่วนั้น ๆ เขียนขอขมาต่อเจ้ากรรมนายเวร หรือเขียนว่า จะไม่ทำกรรมชั่วนั้น ๆ อีก จากนั้น จึงเอาใบแก้กรรมไปมอบให้เจ้าสำนักเพื่อนำไปประกอบพิธีต่อไป บางสำนักก็ให้ผู้ศรัทธาเผาใบแก้กรรมนั้น ๆ ด้วยตนเอง
  5. ขอแบบด้าน ๆ โดยมากแล้ว สำนักแก้กรรมต่าง ๆ จะแก้กรรมแบบเฉพาะเจาะจง หรือจำแนกวิธีแก้กรรมเป็นเรื่อง ๆ ไป แต่บางกรณีที่ผู้ศรัทธามีปัญหาชีวิตหลายอย่างพร้อมกัน เจ้าสำนักก็มักจะใช้วิธีเหมาเข่งหรือเหมารวมวิธีแก้กรรมทั้งหมดเข้าด้วยกัน โดยให้ทำบุญในรูปแบบต่าง ๆ เสร็จแล้วก็จะให้ผู้ศรัทธาพนมมือ (จะสวดคาถาแก้กรรมด้วยหรือไม่ก็ได้) แล้วขอ (แบบดื้อ ๆ ด้าน ๆ) ให้เจ้ากรรมนายเวรอย่าได้จองเวรต่อกันอีกต่อไป

ที่มาบทความ แก้กรรมให้ถูกจุด ตามพระพุทธวจนะ และเทศนาแก้กรรมจากพระอริยะที่ชาวพุทธต้องอ่าน โดยวีระวัฒน์ ชลสวัสดิ์

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *