“สวรรค์” การเกิดของเทวดา นางฟ้า พรหม หรือพระเจ้านั้น เกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญกุศลและอำนาจญาณ

พระพุทธศาสนา กล่าวถึง เรื่องพระเจ้า สวรรค์ นรก ไว้ละเอียด ทั้งที่อยู่ การเกิด ความเป็นอยู่ และอายุ คือ การเกิดของเทวดา นางฟ้า พรหม หรือพระเจ้านั้น เกิดขึ้นด้วยอำนาจบุญกุศลและอำนาจญาณ ในรูปแบบของชีวิตที่เรียกว่า “โอปาติกะ” ซึ่งการเกิดในรูปนี้ไม่ต้องผสมพันธุ์เหมือนสัตว์และคนทั้งหลาย แต่จะเกิดเป็น “กายทิพย์” เติบโตเป็นหนุ่มสาวเลยทีเดียว ความเป็นอยู่ของเทวดา นางฟ้า และพรหม หรือพระเจ้านั้น มีอาหารทิพย์หรือญาณที่เคยสร้างสมไว้เป็นสิ่งยังชีพ เทวดา นางฟ้า องค์ใดสร้างบารมีบำเพ็ญญาณไว้มากก็จะมีอาหารทิพย์วิมานทิพย์และญาณเป็นสิ่งยังชีพให้มีความสุขยืนนานไปชั่วสิ้นกาลอายุขัย เทวดาและนางฟ้ามี 5 ชั้น แต่ละชั้นมีความสุขอันประณีตและมีอายุยืนนานต่างกัน ดังนี้

  1. ชั้น “จตุมหาราชิกา” เป็นเทวดาขั้นต่ำ บางทีอยู่ในโลกมนุษย์เรานี้เองเทวดา นางฟ้าชั้นนี้มีอายุตามเกณฑ์ 500 ปีทิพย์ ประมาณ 9 ล้านปีโลกมนุษย์
  2. ชั้น “ดาวดึงสา” มีอายุมากกว่า 4 เท่าของชั้นจาตุมหาราชิกา
  3. ชั้น “ยามา” มีอายุมากกว่า 4 เท่าของชั้นดาวดึงสา
  4. ชั้น “ดุสิต” มีอายุมากกว่า 4 เท่าของชั้นยามา
  5. ชั้น “นิมมานรดี” มีอายุมากกว่า 4 เท่าของชั้นดุสิต
  6. ชั้น “ปรนิมมิตวสวัสดี” มีอายุมากกว่า 4 เท่าของชั้นนิมมานรดี

ส่วนอายุของพรหมหรือพระเจ้านั้น ยืนนานสุดที่จะคณานับ พรหมชั้นต่ำสุด เรียกว่า “ปริสัชชาพรหม” และสูงสุด เรียกว่า “เนวสัญญานาสัญญายตนพรหม” พรหมมีทั้ง 20 ชั้น ตั้งแต่ชั้นต่ำสุด “ปริสัชชาพรหม” ถึงชั้น 16 เรียกว่า “อกนิษฐาพรหม” นั้น เป็นพรหมมีรูป เรียกว่า รูปพรหม ส่วนพรหมตั้งแต่ 17 ซึ่งเรียกว่า “อากาสานัญจายตนพรหม” ไปถึงขั้น 20 เรียกว่า “เนวสัญญานาสัญญายนตนพรหม” นั้น เป็นพรหมไม่มีรูป เรียกว่า “อรูปพรหม”

หนังสือ “เล่าเรื่องในไตรภูมิ” ของเสถียรโกเศศ กล่าวถึง “สวรรค์” สรุปได้ว่า คนอินเดียสมัยดึกดำบรรพ์ เชื่อว่า “สวรรค์” หรือ “เทวโลก” ตั้งอยู่เหนือของชมพูทวีป ณ บริเวณเขาพระสุเมรุบรรพต

สวรรค์ชั้นที่ 1 ชื่อ “จาตุมหาราชิกา” ตั้งอยู่ ณ ภูเขารอบบริเวณ ซึ่งเรียกว่า “สุเมรุราช” หรือ “สุเมรุบรรพต” ทั้ง 4 ทิศ สูงจากแผ่นดินที่เราอยู่ขึ้นไปเบื้องบนได้ 336 ล้านวา หรือ 46 พันโยชน์ ตั้งอยู่เหนือจอมเขายุคนธร

สวรรค์ชั้นที่ 2 ชื่อ “ดาวดึงส์” ตั้งอยู่เหนือจาตุมหาราชิกาขึ้นไป ชั้นนี้เป็นแดนของพระอินทร์ หรือท้าวสักกะเทวราช คือ ชั้นบนแห่งสุเมรุบรรพต

สวรรค์ชั้นที่ 3 ชื่อ “ยามะ หรือ ยามา” ตั้งอยู่เหนือดาวดึงส์ขึ้นไป สวรรค์ชั้นนี้ผู้เป็นใหญ่ คือ “สุยามเทวธิราช” สูงจากดาวดึงส์ 672 ล้านวา หรือ 84 พันโยชน์ ใช้แสงสว่างด้วยรัศมีแก้ว เพราะว่า สวรรค์ชั้นนี้สูงกว่าพระอาทิตย์ จึงต้องใช้รัศมีแก้วเป็นแสงสว่าง ส่วนการที่จะรู้วันคืนนั้น สวรรค์ชั้นนี้สังเกตจากดอกไม้ทิพย์ ซึ่งเวลาบานจะเป็นเวลากลางวันเวลาหุบเป็นกลางคืน

สวรรค์ชั้นที่ 4 ชั้น “ดุสิต” ตั้งอยู่เหนือสวรรค์ชั้นยามาขึ้นไป ผู้เป็นใหญ่ คือ “สันดุสิตเทวราช” สวรรค์ชั้นนี้สูงกว่าชั้นยามา 1,344 ล้านวา หรือ 168 พันโยชน์

สวรรค์ชั้นที่ 5 ชื่อ “นิมมานรดี” อยู่เหนือสวรรค์ชั้นดุสิตขึ้นไป ผู้เป็นใหญ่ชื่อ “สุนิรมิต หรือ นิรมารตี” สวรรค์ชั้นนี้สูงกว่าชั้นดุสิต 2,688 ล้านวา หรือ 336 พันโยชน์

สวรรค์ชั้นที่ 6 ชื่อ “ปรนิมมิตวสวดี หรือ ปรนิรมิตวศวรติน” ตั้งอยู่เหนือนิมมานนรดีขึ้นไป ผู้เป็นใหญ่ คือ “ปรนิมมิตวสวัสตีเทวราช” สวรรค์ชั้นนี้สูงกว่านิมมานรดี 4,376 ล้านวาหรือ 672 พันโยชน์

รวมความว่า สวรรค์ทั้ง 6 ชั้นนี้ อยู่เหนือขึ้นไปของประเทศอินเดียนั่นเอง และผู้ที่ไปเกิดเป็นเทวดา ด้วยผลบุญของเทวดานั้นย่อมมีปราสาท แก้ว เงิน ทอง สมบัติเป็นทิพย์อันอเนก ผู้ที่จะไปเกิดในสวรรค์ ครั้งเกิดเป็นตัวก็ใหญ่ขึ้นในที่นั่น และประดับด้วยอาภรณ์รุ่งเรือง มีรูปโฉมโนมพรรณนุ่มนวล งดงามดังสาวสิบหกอยู่ชั่วตน เทวดาทั้งหลายรู้นิมิต  จะใคร่ให้ตัวใหญ่หรือเล็กเท่าใดก็ได้ดั่งใจ ฝูงเทพยดากินอาหารทิพย์ทุกวัน ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บใด ๆ ทั้งสิ้น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *