ศาสตร์การดูดวง ตรวจดวงชะตา โหราศาสตร์ที่มีอิทธิพลในไทย

ความเรื่องดวงชะตาอยู่คู่กับคนไทยมานานและมีอิทธิพลกับคนทุกชนชั้น ตั้งแต่การสร้างเมือง ฤกษ์มงคลในการประกอบพิธีต่าง ๆ การปลูกเรือนของชาวบ้านจนมาถึงฤกษ์ยามในการตัดเล็บ ตัดผมของคนทั่วไป วิถีชีวิตแทบทุกด้านของคนไทยในอดีตล้วนเกี่ยวพันกับโหราศาสตร์ ฤกษ์ยาม และดวงชะตาทั้งสิ้น

ไทยได้รับความรู้เรื่องโหราศาสตร์มาจากอินเดียตอนใต้เมื่อประมาณปีพุทธศักราช 200 “โหราศาตร์เป็นวิชาที่ว่าด้วยจักรวาล กาลเวลา และดวงดาวต่าง ๆ” ซึ่งมีหลักฐานชัดเจนปรากฏอยู่ในคัมภีร์พระเวท หรือคัมภีร์ไตรเพทของอินเดียในคัมภีร์จะแบ่งดวงดาวบนท้องฟ้าเป็นกลุ่ม ๆ แบ่งภพราศีและเรือนชะตาซึ่งเป็นพื้นฐานของโหราศาสตร์ไทยปัจจุบัน

คัมภีร์ที่เป็นพื้นฐานของโหราศาสตร์ไทยจนถึงปัจจุบัน คือ ตำรา “จักรทีปนี” ที่ถือเป็นต้นตำรับหลักวิชาพยากรณ์ซึ่งตามตำนานว่ากันว่า พระอุตมรามมหาเถระซึ่งเป็นหนึ่งในพระอรหันต์สาวกของพระพุทธเจ้าเป็นผู้รจนาโดยอาศัยหลักจาก “คัมภีร์พฤหัสชาดก” ในคัมภีร์ไตรเพท เมื่อคัมภีร์ฉบับนี้ได้รับเผยแพร่เข้ามาสู่ประเทศไทยก็ได้มีการตัดบางกฎเกณฑ์ที่ไม่เหมาะกับวิถีชีวิตคนไทยออกและสร้างกฎเกณฑ์ใหม่ ๆ เพิ่มเข้าไปด้วย

โหราศาสตร์

โหราศาสตร์เป็นศาสตร์ที่เกี่ยวข้องกับการทำนายอนาคตหรือโชคชะตาของมนุษย์ ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของบ้านเมือง และของโลก โดยอาศัย เวลา และตำแหน่งของดวงดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้าเป็นสำคัญ แล้วบันทึกไว้เป็นสถิติ โหราศาสตร์เป็นวิชาที่ต่างกับวิทยาศาสตร์ ด้วยแม้จะสามารถพิสูจน์ทราบได้โดยใช้กฎเกณฑ์ และเหตุผลในทางโหราศาสตร์ นำมาทดลอง พิสูจน์ให้เห็นประจักษ์ สามารถสรุปออกมาเป็นทฤษฎีได้ ไม่ว่าจะทดลองกี่ครั้ง ที่ใด ๆ ในโลกเช่นเดียวกับวิทยาศาสตร์ โหราศาสตร์ก็ยังคงเป็นวิชาที่ค่อนข้างลึกลับ ด้วยเหตุนี้นักวิทยาศาสตร์จึงไม่รับรองโหราศาสตร์ว่า เป็นศาสตร์อย่างหนึ่ง

โหราศาสตร์ไทย

โหราศาสตร์ไทยเป็นศาสตร์เกี่ยวกับการทำนายอนาคต ทำนายโชคชะตาของบุคคล ปรากฏการณ์ต่าง ๆ ของบ้านเมืองและของโลก วิชาโหราศาสตร์ไทยเป็นระบบนึงของโหราศาสตร์ การทำนายจะใช้เวลาและตำแหน่งของดวงดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้า ผูกดวงตั้งต้นการทำนาย เช่นเดียวกับโหราศาสตร์สากล ยูเรเนียน โหราศาสตร์ภารตะ โหราศาสตร์ไทยแบ่งหลายแบบหลายแขนงแตกต่างกัน อาจแบ่งตามรูปแบบปฏิทินที่ใช้กฎเกณฑ์เงื่อนไขกรรมวิธีการทำนายแต่ละสำนัก ครูบาอาจารย์ และมีหลายสายวิชาเฉพาะแยกย่อยออกไป

โหราศาสตร์สากล

โหราศาสตร์สากลเป็นระบบนึงของโหราศาสตร์ การทำนายจะใช้เวลาและตำแหน่งของดวงดาวต่าง ๆ บนท้องฟ้า ผูกดวงตั้งต้นการทำนาย

โหราศาสตร์และดาราศาสตร์เกิดในยุคบาบิโลน กรีก อียิปต์โบราณ ซึ่งมีการพัฒนาเผยแพร่ผ่านยุค และผ่านการปกครอง ได้ผ่านการเคลื่อนย้ายถิ่นฐานไปในหลายภูมิภาคและมีการสืบทอดเรื่อยมา แบ่งตามระบบจักรราศีได้เป็น 2 ระบบ คือ สายนะ หรือระบบจักรราศีเคลื่อนที่ (Tropical Zodiac) เช่น โหราศาสตร์สากล โหราศาสตร์ดั้งเดิม โหราศาสตร์คลาสสิก (Classical Astrology) และนิรายนะ หรือระบบจักรราศีคงที่ (Fixed/Sidereal Zodiac) เช่น โหราศาสตร์ไทย โหราศาสตร์ตะวันออก โหราศาสตร์อินเดีย ลาว พม่า กัมพูชา ระบบจักรราศีทั้ง 2 มีจุดกำเนิดเดียวกัน สันนิษฐานว่า ระบบสายนะและองค์ความรู้โลกตะวันตก เริ่มมาเผยแพร่ทางตะวันออกในสมัยกรีก ช่วงพระเจ้าอเล็กซานเดอร์มหาราช เข้าตีบริเวณลุ่มแม่น้ำสินธุ แคว้นปัญจาบ ทางตะวันออกของอินเดีย (ประมาณ พ.ศ. 217) ตอนนั้นจุดเริ่มราศีเมษตำแหน่งเดียวกัน ใช้ดาวจิตตรา (Spica/ รวงข้าว) หรือจุด Autumnal Equinox กำหนดเล็งจุดเมษ ต่อมา เวลาผ่านไปแกนโลกที่หมุนเอียงและเหวี่ยงทำให้มุมมองตำแหน่งดาวจริงที่เห็นเปลี่ยนไป แนวคิดระบบนิรายนะใช้ตำแหน่งดาวเดิมอ้างอิงแบบเดิม สายนะใช้ตามท้องฟ้าที่เปลี่ยนไป ปัจจุบันแม้ดาวดวงเดียวกันเห็นตำแหน่งเดียวกัน องศา ราศี ที่อ่านทั้ง 2 ระบบจะต่างกัน (อายนางศ์) ในส่วนการทำนายปรัชญา แนวคิด กฎเกณฑ์พื้นฐานทั้ง 2 ระบบจะคล้าย ๆ กัน มีการพัฒนาเครื่องมือแยกย่อยไป

โหราศาสตร์ 2 ระบบนี้มีจุดที่แตกต่างสังเกตได้ง่าย คือ จุดที่เริ่มราศีจะไม่ตรงกันกับโหราศาสตร์สากลใช้จักรราศีที่อ้างอิงฤดูกาล คือ อาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ในช่วงประมาณวันที่ 20 – 22 มีนาคม (เส้นสุริยวิถี ตัดเส้นศูนย์สูตรฟ้าในทางดาราศาสตร์) สำหรับโหราศาสตร์ไทยหรือแบบนิรายะ อาทิตย์ยกเข้าสู่ราศีเมษ ในช่วงประมาณวันที่ 16 – 17 เมษายน ซึ่งตำแหน่งดาวบนฟ้าดวงเดียวกัน แต่จุดนับราศีก็จะต่างกันไป ดังนั้น การอ่านตำแหน่งราศีก็จะต่างกัน การทำนายโหราศาสตร์สากลนี้จะให้ความสำคัญเรื่องมุมดาวเป็นหลัก จุดต่างอีกอย่างจุด คือ เรือนชะตาที่ไม่เท่ากัน โหราศาสตร์ไทย เรือนชะตาจะเท่ากับราศี คือที่ 30 องศา เส้นแบ่งราศีจะเป็นเส้นแบ่งเรือนชะตาด้วย (Whole Sign) นับเรือนที่ 1 ที่ราศีที่ลัคนาอยู่ ส่วนโหราศาสตร์สากลระบบสายนะ ราศีจะเท่ากับ 30 องศา เหมือนกัน แต่เรือนชะตาอาจมีค่ามากกว่าหรือน้อยกว่า 30 องศา ขึ้นอยู่กับสถานที่เกิดว่าอยู่ไกลใกล้เส้นศูนย์สูตร ช่องเรือนชะตาอาจไม่ตรงกับช่องราศีขึ้นอยู่กับเรือนชะตา บางเรือนชะตาอาจมีคร่อมราศี นับเรือนชะตาจากตำแหน่งลัคนา (AC) หรือตามจุดอ้างอิงอื่น ๆ ตามแต่ละระบบ

ที่มาบทความ สิตานัน แผ้วสมบุญและคณะ. (2560). การศึกษาสร้างสรรค์ภาพยนตร์สันแนวตลกที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับความเชื่อเรื่องการดูดวงของสังคมไทย เรื่อง It’s Not About Luck. ภาคนิพนธ์นวัตกรรมสื่อสารสังคม มหาวิทยาลัยศรีนครินทรวิโรฒ.

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *