รู้สึกตัวเองไม่มั่นใจและขี้อายมากกว่าคนอื่น จะปรับปรุงตัวเองอย่างไร

รู้สึกตัวเองไม่มั่นใจและขี้อายมากกว่าคนอื่น จะปรับปรุงตัวเองอย่างไร

ทั้งนี้ ก่อนอื่นคงต้องดูว่า เรามีจุดเด่น จุดด้อยอะไร จากนั้น ชื่นชมยอมรับข้อดีที่มี และหาทางแก้ไขข้อเสีย เช่น เมื่อรู้สึกอาย ไม่กล้าพูดต่อหน้าคนเยอะ ๆ ก็เตรียมเรื่องพูด ฝึกซ้อมพูดหน้ากระจก เตรียมตอบคำถามเรื่องที่คาดว่า จะมีคนซักถาม เป็นต้น ถ้าเตรียมตัวมาดี ความมั่นใจก็จะเริ่มเกิดขึ้น เมื่อมั่นใจแล้ว ความกลัว ความอายก็จะลดลง อย่าลืมบอกตัวเองบ่อย ๆ ว่า “ไม่เป็นไร” “ช่างมัน” “อะไรจะเกิดก็ช่าง”

เพื่อน ๆ มีแฟนกันหมด เหงาจัง อยากมีแฟนบ้าง ทำไงดี :

น้อง ๆ ต้องเป็นตัวของตัวเองต่อไป ถึงจะไม่มีแฟน แต่ก็สนุกกับเพื่อน ๆ และกิจกรรมต่าง ๆ อีกมากมายที่ชอบและอยากทำในแต่ละวัน ความเป็นตัวของตัวเอง การกล้าแสดงออก ความเป็นมิตร และบุคลิกที่น่ารักในตัวเรา อาจเป็นจุดสนใจให้มีหนุ่ม ๆ มาจีบเป็นแฟนก็ได้ และเมื่อถึงตอนนั้น อย่าให้เสียการเรียนนะ

ฏิเสธเพื่อน แล้วถูกเยาะเย้ยว่า ไม่เก่ง ไม่แน่จริง ทำไงดี :

จงมั่นใจที่จะปฏิเสธ หากเพื่อนชวนทำอะไรที่ไม่ดี ไม่ว่าจะเป็นเที่ยวกลางคืน ใช้ยาเสพติด เที่ยวผู้หญิง ซึ่งเมื่อปฏิเสธเพื่อนก็มักจะพูดยุแหย่หรือพยายามคะยั้นคะยอ นั่นเพราะเพื่อนผิดหวังที่ถูกปฏิเสธจึงพยายามหาวิธีต่าง ๆ นานาเพื่อยั่วให้โกรธ และต้องการให้ทำอย่างที่เขาต้องการ เมื่อเข้าใจท่าทีของเพื่อน สิ่งที่ควรทำ คือ ไม่โกรธตอบ ไม่ถือสา และถ้าเพื่อนยอมรับฟัง จงพูดให้เพื่อนนึกถึงผลเสีย บอกให้เพื่อนรู้ว่า คุณรักและหวังดีต่อเพื่อน สุดท้ายเมื่อกล้าปฏิเสธและรับมือกับคำพูดยั่วยุของคนอื่น แสดงถึงความเป็นคนดีมีสติ รู้คิด มีวุฒิภาวะ และมีความเป็นผู้ใหญ่ จงภูมิใจและมั่นใจกับการตัดสินใจเลือกทางที่เหมาะสมต่อไป

บอกเลิกอย่างไร ไม่ให้ (อีกฝ่าย) เสียใจ :

เฮ้อ ตอนจีบก็ยาก พอจะเลิกก็ยากอีก ความรักช่างวุ่นวายเหลือเกินก็แล้วแต่เทคนิคของแต่ละคน บางคนก็ค่อย ๆ ทำตัวเหินห่าง บางคนก็ใช้วิธีหายหัว เอ้ย หายหน้า แต่การบอกเลิกเป็นวิธีที่ชัดเจนที่สุด ควรบอกด้วยท่าทีสุภาพ ไม่อ้อมค้อม แต่ต้องคิดถึงใจเขาใจเราให้มากที่สุด อาจเริ่มต้นด้วยคำพูดที่บอกความรู้สึกดี ๆ อาจบอกว่า ขอบคุณมาก ๆ สำหรับสิ่งดี ๆ ที่ผ่านมา จากนั้น อาจใช้ประโยคฮิต “ถึงไม่ได้เป็นแฟน แต่เราก็ยังเป็นเพื่อนกันได้” อ้อ ข้อควรระวัง หลังบอกเลิก อีกฝ่ายอาจมีท่าทีตอบกลับมา เช่น โกรธเป็นฟืนเป็นไฟ ทำท่าจะเป็นจะตาย ลูกผู้หญิง (ชาย) อย่างเรา ก็ต้องใจเย็น ๆ พร้อมรับสถานการณ์ได้

ทำไมอกหัก แล้วต้องร้องไห้ฟูมฟายกัน :

อกหัก เมื่อถูกคนรักทิ้งไปหรือบอกเลิก เป็นความรู้สึกของการสูญเสีย ซึ่งเมื่อใครพบกับความสูญเสียก็ย่อมเสียใจ ยิ่งทุ่มเทและคาดหวังมาก ก็ยิ่งเสียใจมาก ต้องใช้เวลาสักระยะเพื่อปรับใจ ปรับตัวให้เข้มแข็ง ใครที่อกหักหรือมีเพื่อนอกหัก ใช้เวลาทบทวนสักนิด พยายามเข้มแข็ง คิดถึงคุณค่าตัวเราที่ยังมีอนาคต มีพ่อแม่พี่น้องเพื่อนฝูงที่รักและเข้าอกเข้าใจ และบทเรียนนี้จะเป็นประสบการณ์ให้เราเข้มแข็งและพร้อมที่จะสู้ต่อไป

ผู้ชายแบบไหนไม่น่าเลือก :

ผู้ชายที่เจ้าชู้ ติดบุหรี่ ติดเพื่อน และอื่น ๆ อีกมามาย ที่เป็นข้อเสีย ซึ่งต้องพิจารณาและไตร่ตรอง ที่สำคัญอย่าคิดว่า เราจะเปลี่ยนแปลงเค้าได้

รู้ได้อย่างไรว่า ผู้ชายคนนี้รักเราจริง :

ดูจากการกระทำ การแสดงความรัก ความห่วงใย ความเอาใจใส่เสมอต้นเสมอปลาย ยินดีที่จะเปิดเผยความสัมพันธ์ให้เพื่อนสนิท พ่อแม่ญาติผู้ใหญ่รับรู้ ไม่ล่วงเกิน ไม่พยายามที่จะมีเพศสัมพันธ์เพื่อแสดงความเป็นเจ้าของพร้อมที่จะช่วยเหลือเมื่อเดือดร้อนและมีปัญหา พยายามที่จะเปลี่ยนแปลง เราให้เป็นอย่างที่เราชอบ

ในเมื่อร่างกายเป็นของฉัน ฉันก็มีสิทธิที่จะชอบ จะรักหรือแม้แต่จะมีเพศสัมพันธ์กับคนที่ฉันรักได้ :

ทุกคนมีสิทธิทางเพศที่จะเรียนรู้เป็นเพศ การปฏิบัติตัวและบทบาททางเพศ รวมถึงการแสดงออกทางเพศที่เหมาะสม แต่การตัดสินใจที่จะทำอะไรรวมถึงการมีเพศสัมพันธ์กับคนที่คิดว่ารัก ต้องคำนึงถึงผลเสียที่จะตามมา และเมื่อเลือกหรือตัดสินใจแล้วต้องพร้อมรับผิดชอบกับสิ่งที่เกิดขึ้นด้วย

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *