พระคาถาศักดิ์สิทธิ์ บทสวด “อุณหิสสวิชัย”

(ผู้สวดตั้งนโม 3 จบก่อนจากนั้นเริ่มสวดไปตามลำดับ)

อัตถิ อุณหิสสะ วิชะโย ธัมโม โลเก อะนุตตะโร

สัพพะสัตตะหิตัตถายะ ตัง ตวัง คัณหาหิ เทวะเต

ปะริวัชเช ราชะทัณเฑ อะมะนุสเสหิ ปาวะเก

พะยัคเฆ นาเค วิเส ภูเต อะกาลมะระเณนะ วา

สัพพัสมา มะระณา มุตโต ฐะเปตวา กาละมาริตัง

ตัสเสวะ อานุภาเวน โหตุ เทโว สุขี สะทา

สุทธะสีลัง สะมาทายะ ธัมมัง สุจะริตัง จะเร

ตัสเสวะ อานุภาเวนะ โหตุ เทโว สุขี สะทา

ลิกขิตัง จินติตัง ปูชัง ธาระณัง วาจะนัง คะรุง

ปะเรสัง เทสะนัง สุตวา ตัสสะ อายุ ปะวัฑฒะตีติ

คำแปล : ขอพระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ เอาบุญของข้าพเจ้าทุกชาติให้กับบิดามารดา ครูอาจารย์ เทพเทวดา เชื้อโรคในตัวข้าพเจ้าเจ้ากรรมนายเวรเจ้าบุญนายคุณของข้าเพจ้า ขอให้เจ้ากรรมนายเวร เจ้าบุญนายของคุณข้าพเจ้า ได้โปรดอนุโมทนาบุญ และอโหสิกรรมแก่ข้าพเจ้าตั้งแต่บัดนี้เถิด

แม้แต่กรรมใดที่ใครทำไว้แก่ข้าพเจ้าก็ตาม ข้าพเจ้าขออโหสิกรรมทั้งสิ้น ยกถวายแด่พระพุทธเจ้าเป็นอภัยทาน เพื่อจะได้ไม่มีเวรกรรมใด ๆ ต่อไป ด้วยอานิสงส์แห่งอภัยทานนี้ คุ้มครองข้าพเจ้า บิดามารดา ครูบาอาจารย์ คู่ครอง ญาติมิตร บุตรบริวาร ตลอดจนผู้อุปถัมภ์ข้าพเจ้า มีความสุขความเจริญ สุขภาพแข็งแรง มีดวงตาที่เห็นธรรมพบเจอแต่กัลยาณมิตร เทอญ

อานิสงส์ของคาถาอุณหัสสวิชัย

คำบอกเล่าของหลวงปู่มั่น ภูริทัตโต

ผู้ใดที่มาถึงพระพุทธเจ้า พระธรรม พระสงฆ์ เป็นสรณะที่พึ่งแล้ว ผู้นั้นจะย่อมชนะได้ซึ่งความร้อน อุณหัสส คือ ความร้อนอันจะเกิดแก่ตน มีทั้งภายในและภายนอก ภายนอกจะมีเนื้อสางคางแดง ภูตผีปีศาจ เป็นต้น ภายใน คือ กิเลส วิชัย คือ ความชนะ ผู้ที่จะมาน้อมเอาสรณะทั้งสามนี้เป็นที่พึ่งแล้ว ย่อมจะชนะความร้อนเหล่านั้นไปจะได้หมดทุกอย่างที่จะเรียกว่า อุณหัสสวิชัย อุณหสฺสวิชย ธมฺโม โลเก อนุตฺตโร พระธรรมที่เป็นของยิ่งในโลกทั้งสาม สามารถจะชนะซึ่งความร้อนอก และร้อนใจอันที่เกิดแต่ภัยต่าง ๆ ปริวชฺเช ราชทนฺเฑ พยคฺเมฆ นาเค วีเส ภูเต อกาลมรเณน จ สพฺพสฺม มรณา มุตฺโต จะเว้นห่างจากอันตรายทั้งหลาย คือ อาชญาของพระราชา เสือสาง นาค ยาพิษ ภูตผี ปีศาจ หากว่า ยังไม่ถึงคราวถึงกาลที่จักตายแล้ว ก็จักพ้นไปได้จากความตายด้วยอำนาจ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ ที่ตนน้อมเอาเป็นสรณะที่พึ่งที่นับถือนั้น ความข้อนี้มีพระบาลีสาธกดังจะยกมาอ้างอิงในสมัยพระสมเด็จพระผู้มีพระภาคเจ้าพร้อมด้วยพระอรหันต์หนุ่ม 500 รูป ประทับอยู่ในราวป่ามหาวันใกล้กรุงกบิลพัสดุ์ เทวดาทั้งหลายพากันมาดูแล้วกล่าวคาถาขึ้นว่า

เยเกจิ พุทฺธํ สรณํ คตา

เส น เต คมิสฺ สนฺติ

อปายภูมิ ปหาย มานุสํ

เทหํ เทวกายํ ปริปูเรสฺสนฺติ

แปลความว่า บุคคลบางพวกหรือบุคคลไร ๆ มาถึงพระพุทธเจ้าเป็นสรณะที่พึ่งแล้ว บุคคลเหล่านั้นย่อมไม่ไปสู่อบายภูมิทั้ง 4 มีนรกเป็นต้น เมื่อละร่างกายอันเป็นของมนุษย์นี้แล้ว จักไปเป็นหมู่แห่งเทพยดาทั้งหลาย ดังนี้ สรณะทั้ง 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ มิได้เสื่อมสูญอันตรธานไปไหน ยังปรากฏอยู่แก่ผู้ปฏิบัติเข้าถึงอยู่เสมอ ผู้ใดมายึดถือเป็นที่พึ่งของตนแล้ว ผู้นั้นจะอยู่กลางป่าหรือเรือนว่างก็ตาม สรณะทั้งสามก็ปรากฏแก่เราอยู่ทุกเมื่อ จึงว่า เป็นที่พึ่งแก่บุคคลจริง เมื่อปฏิบัติตามสรณะทั้งสามจริง ๆ แล้ว จะคลาดแคล้วจากภัยทั้งหลาย อันก่อให้เกิดความร้อนอกร้อนใจได้แน่นอน

อานุภาพของคาถาอุณหิสสวิชัยจากคำบอกเล่า

พระคาถาอุณหิสวิชัย เป็นตำราที่ได้จากสมุดสมเด็จของสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี ท่านว่า อุปเท่ห์ว่า ผู้ใดจำเริญพระคาถาอุณหิสวิชัยคาถานี้ หากไม่ถึงกาลมรณะ (สิ้นอายุขัย) ย่อมปราศจากโรคภัยไข้เจ็บแข็งแรง แม้ในทางโหราศาสตร์ว่า ชะตาขาด แต่หากมีใจยึดเกาะเอาคุณแห่งพระพุทธเจ้า พระธรรม พระอริยสังฆเจ้า และภาวนามนต์นี้ก็จักอาจต่อชะตาไปได้โดยไม่ต้องทำพิธีให้ยุ่งยาก เพียงแต่เคารพเลื่อมใสในพระพุทธ พระธรรม พระอริยสังฆเจ้าภาวนาก่อนนอนทุกวันกันชะตาขาดได้ พระคาถานี้อย่างเต็ม พระมหาจ่าง วัดสุทัศน์ท่านว่า จัดเป็นสิ่งสำคัญจะต้องจารในชนวนพระกริ่งของสมเด็จสังฆราชแพ ทำให้พระกริ่งยุคก่อนค่อนข้างเข้มขลังกว่าสมัยนี้ที่หล่อสำเร็จแล้วเสกที่หลัง หลวงตาแยบ วัดโรงช้าง จังหวัดพิจิตร ได้ตำราสมุดสมเด็จมา ท่านได้เมตตาสั่งสอนหลวงพ่อโบ้บิดาของข้าพเจ้า เมื่อบิดาของข้าพเจ้าบวช ก็ได้กำชับว่าให้ภาวนาคาถานี้อย่าขาด ไหนผู้ใดจะใช้คาถานี้ให้รำลึกถึงเจ้าประคุณสมเด็จพระพุฒาจารย์โตพรหมรังสี หลวงตาทวด แย่บ อัตถพาโร วัดโรงช้าง พิจิตรก่อนก็ดี ท่านทั้งสองจะได้มาอนุโมทนาสาธุการจำเริญพรให้พระคาถานี้คงศักดิ์สิทธิ์ขึ้นกว่าเดิมแล

เครื่องบูชาคาถาอุณหิสสวิชัย

  1. ดอกไม้สีขาว จำนวน 5 คู่
  2. เทียน 5 เล่ม
  3. ธูป 16 ดอก
  4. เงินเหรียญบาท 16 เหรียญ

ขั้นตอนศาสนพิธี

บ้านไหนมีคนป่วยไข้ไม่ค่อยสบายป่วยบ่อย หรือบ้านที่เพิ่งมีคนตายไม่นาน มักจะนิมนต์พระผู้ชำนาญในการสวดคาถาอุณหิสสวิชัยมาสวดที่บ้าน โดยจัดเตรียมเครื่องบูชาตามที่กล่าวมา จากนั้นจะไปนิมนต์พระสงฆ์ให้มาสวด เมื่อได้เวลาประมาณ 19.00 น. เมื่อพระมาถึงจะนิมนต์นั่งบนอาสนะที่เตรียมไว้ จากนั้นมรรคทายกจะนำบูชาพระรัตนตรัย อาราธนาศีล 5 รับศีลเสร็จ มรรคทายกจะนำกล่าวอาราธนาธรรม จบแล้ว พระสงฆ์รูปที่ชำนาญในการสวด จะไม่นิยมสวดหลายรูปเหมือนพิธีอื่น ๆ พอสวดเสร็จเจ้าภาพ (เจ้าของบ้าน) ถวายจตุปัจจัย กรวดน้ำ รับพร เป็นเสร็จพิธี

ทำไมต้องสวดอุณหิสสวิชัย

มีความเชื่อมาแต่โบราณว่า หากมีคนป่วยไม่สบาย หรือทำมาค้าขายไม่ขึ้น หรือขึ้นบ้านใหม่ ฯลฯ มักจะนิยมพระสงฆ์มาสวดอุณหิสสวิชัย เพื่อความเป็นสิริมงคล ขับไล่สิ่งชั่วร้ายทั้งหลาย ดังตำนานที่กล่าวไว้ตอนต้นแล้ว เพราะมีความเชื่อว่า ผู้ใดได้ฟังหรือได้สวดอุณหิสสวิชัยแล้วไซร์ ผู้นั้นทั้งหมดจะไม่มีอุปสรรคปัญหา สุขภาพแข็งแรง อายุยืน ทำมาค้าขายอันใดก็จะเจริญรุ่งเรือง

พระคาถาอุณหิสสวิชัยเป็นคาถาที่ดัดแปลงมาจากพุทธศาสนาฝ่ายมหายาน ซึ่งเน้นเรื่องความขลังความศักดิ์สิทธิ์ เป็นมนตราที่ชาวพุทธมหายาน เชื่อว่า เป็นยอดแห่งพระธรรมทั้งหลายเป็นประโยชน์สัตว์ทั้งมวล เมื่อให้สวดบ่นสาธยายทุกเช้าค่ำย่อมห้ามเสียซึ่งภัยทั้งปวง อันจะเกิดขึ้นจากผีปิศาจหมู่พยัคฆ์งูใหญ่น้อย หรือผู้ใดได้เขียนไว้ก็ได้ ได้ฟังก็ดี ได้สวดมนต์ภาวนาอยู่ทุกวันก็ดี จะมีอายุยืน อนึ่งบุคคลผู้ใดบูชาแก้วทั้ง 3 คือ พระพุทธ พระธรรม พระสงฆ์ นี้เป็นยาอันอุดม ย่อมคุ้มครองผู้นั้นให้พ้นจากทุกข์ภัยพยาธิทั้งปวง ด้วยอำนาจพระอุณหิสสวิชัยนี้ จะรักษาคุ้มครองให้ชีวิตของท่านเจริญสืบต่อไป รักษาไว้ให้มั่นอย่าให้ขาด เหมือนที่พระพุทธองค์ทรงแสดงให้สุปติฏฐิตาเทพบุตรฟัง แล้วได้น้อมจิตไปตามกระแสธรรมที่พระองค์ทรงแสดง ทำให้มีกายที่ผ่องใส มีอายุยืนจนถึงพระพุทธเจ้าพระนามว่า ศรีอริยเมตไตรย จึงจะจุติจากเทวโลกลงมาสู่โลกมนุษย์ เป็นพระอรหันตขีณาสวะองค์หนึ่ง จะเห็นได้ว่า อุณหีสสะวิชะยะคาถา เป็นพระคาถาที่นิยมสวดเพื่อสืบชะตาต่ออายุในคนที่กำลังจะหมดอายุขัย ชะตาขาด มีเคราะห์ และยังเป็นพระคาถาศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยป้องกันจากภูต ผี ปีศาจและสิ่งไม่ดีทั้งปวงได้อีกด้วย  

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *