แพทย์หญิงชัญวลี ศรีสุโข กล่าวว่า “การไม่มีอารมณ์ทางเพศ จึงนับว่า เป็นปัญหาอันดับหนึ่งของผู้หญิงวัยทอง” “วัยทอง” จะมีความสนใจทางเพศสัมพันธ์ (เซ็กส์) ลดลง จากผลของการที่ฮอร์โมนเพศลดลงส่งผลให้ผนังช่องคลอดบางลง ต่อมน้ำหล่อลื่นไม่ทำงาน ทำให้คัน เจ็บ แสบช่องคลอด และมีโอกาสติดเชื้อโรคได้ง่ายขึ้น ช่องคลอดแห้ง และบางลง ส่งผลให้สตรีวัยทองมีอาการปวดขณะร่วมเพศ ซึ่งเป็นความทุกข์ทรมานอย่างมาก ส่งผลกระทบต่อบทบาทในครอบครัว เพราะทำให้เกิดความไม่มั่นใจในการทำตามบทบาทหน้าที่ของภรรยา เช่น กลัวว่า ตนให้ความสุขแก่สามีไม่ได้เหมือนเดิม สามีอาจนอกใจ เป็นต้น ประกอบกับสตรีวัยนี้ อยู่ในสภาพอารมณ์ที่ไม่มั่นคง อ่อนไหวง่าย บางครั้งมีการใช้ความรู้สึกไม่สบายมาเป็นเหตุผลในการปฏิเสธการมีเพศสัมพันธ์ ซึ่งบุคคลใกล้ชิด เช่น สามีซึ่งอยู่ในช่วงวัยที่ไล่เลี่ยกัน และตกอยู่ในสภาพปัญหาต่าง ๆ ที่รุมเล้าอยู่เช่นกัน เมื่อสตรีต้องเผชิญกับสถานการณ์ต่าง ๆ เหล่านี้ อาจทำให้เกิดความเครียดและความวิตกกังวล
สำหรับผู้หญิงในวัยทอง คือ วัยที่เสื่อมทั้งความแข็งแรงทางกาย มีปัญหาความเครียดจากปัญหาครอบครัว การงาน และอื่น ๆ อีก เมื่อฮอร์โมนเพศลดลงหรือหมดไป ความต้องการทางเพศก็ย่อมลดลงเป็นธรรมดา ยิ่งหากมีเพศสัมพันธ์ที่เจ็บปวด รอบตัวมีสิ่งยั่วยุฝ่ายชายมาก ประกอบกับวัฒนธรรมไทยไม่สนับสนุนผู้สูงอายุให้พูดคุยเรื่องเพศ ฝ่ายหญิงจึงยิ่งเครียดทั้งทางร่างกายและจิตใจมากขึ้น ส่งผลให้ความต้องการทางเพศยิ่งลดลงอีก
อาการวัยทองเป็นผลมาจากการหมดประจำเดือน เป็นกระบวนการเปลี่ยนแปลงตามธรรมชาติที่เกิดขึ้นภายในร่างกายของสตรีที่อยู่ในช่วงรอยต่อระหว่างวัยเจริญพันธุ์กับวัยหลังการเจริญพันธุ์ โดยเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จากการที่รังไข่ทำหน้าที่ในการผลิตฮอร์โมนเอสโตรเจนลดลง ส่งผลให้เกิดการเปลี่ยนแปลงของระบบต่าง ๆ ในร่างกาย และสภาพจิตใจ รวมไปถึงคุณภาพชีวิตที่ลดลงในระยะเริ่มต้น และนำไปสู่การมีภาวะสุขภาพที่ไม่ดีต่อไปในระยะยาว โดยจะมีความรุนแรงแตกต่างกันไปในแต่ละคน บางคนเกิดผลกระทบมากจนทำให้คุณภาพชีวิตลดลงและต้องได้รับการรักษาด้วยยาหรือฮอร์โมน ในขณะที่บางคนอาจไม่เกิดผลกระทบเลยหรือไม่จำเป็นต้องได้รับฮอร์โมนหรือยาใด ๆ ทั้งนี้ ขึ้นอยู่กับพฤติกรรมการดูแลสุขภาพและการเตรียมความพร้อมเข้าสู่การเปลี่ยนแปลงที่จะเกิดขึ้น
สตรีวัยทองเป็นช่วงที่อยู่ระหว่างวัยเจริญพันธุ์กับวัยหลังเจริญพันธุ์ คือ ช่วงอายระหว่าง 40 – 50 ปี จะมีการเปลี่ยนแปลงของภาวะร่างกายมากมาย โดยเฉพาะการเปลี่ยนแปลงที่เกิดจากการลดลงของฮอร์โมน การทำงานของรังไข่ที่ลดลง ส่งผลให้ประจำเดือนมาไม่สม่ำเสมอทิ้งระยะห่างมากขึ้นและมีปริมาณลดลงเรื่อย ๆ โดยเกิดขึ้นอย่างค่อยเป็นค่อยไป จนรังไงหยุดการทำงานและประจำเดือนขาดหายไปอย่างถาวร คือ ไม่มีประจำเดือนติดต่อกันอย่างน้อย 12 เดือน หรือ 1 ปี ช่วงอายุการหมดประจำเดือนตามธรรมชาติอยู่ระหว่าง 45 – 55 ปี
ในขณะเดียวกัน “วัยทอง” เป็นช่วงของการเปลี่ยนแปลงของร่างกาย จิตใจและอารมณ์ที่มีผลจากความเสื่อมของร่างกาย บทบาท ภาระหน้าที่ และการลดลงของฮอร์โมนเพศ ซึ่งการลดลงของฮอร์โมนเพศในสตรีวัยทองเป็นผลมาจากการที่รังไข่หยุดการทำงาน ไม่มีการตกไข่ เกิดการเปลี่ยนแปลงของฮอร์โมน โดยเฉพาะฮอร์โมนเอสโตรเจนจะลดระดับลง
คุณผู้หญิงวัยทอง จึงต้องพร้อมกับการเปลี่ยนแปลงที่กำลังจะเกิดขึ้น หรือในบางท่านอาจเกิดขึ้นแล้ว สิ่งที่ควรทำนับแต่นี้ไป คือ
- ฟิตซ้อมความสมบูรณ์ของร่างกาย คุณผู้หญิงวัยทองที่ร่างกายแข็งแรงคล่องแคล่ว ไม่มีโรคภัยไข้เจ็บ ดูแลตนเองและรูปร่างเป็นอย่างดี พักผ่อนให้เพียงพอ เลือกรับประทานอาหารให้ครบ 5 หมู่ ไม่ละเลยผักผลไม้ อาหารทะเล เต้าหู้ ถั่วเหลือง ฯลฯ หาเวลาไปท่องเที่ยวสูดอากาศบริสุทธิ์ ออกกำลังกายเป็นประจำ ถ้าทำได้อย่างนี้ความต้องการทางเพศมักจะไม่ลดลง
- ดูแลจิตใจและอารมณ์ หาทางลดความเครียดด้วยตนเอง เช่น จัดวิถีชีวิตใหม่ ลดงานที่เครียดลง หางานอดิเรกที่ชอบทำ นั่งสมาธิ นวด เข้าสปา มีเพื่อนพูดคุยปรึกษา มองโลกในแง่ดี หาเรื่องให้ได้หัวเราะทุกวัน
- ออกกำลังกล้ามเนื้อเฉพาะที่ เพื่อให้เลือดไหลเวียนบริเวณช่องเชิงกรานได้ดี นั่นคือ ควรขมิบช่องคลอดอย่างน้อยวันละ 100 ครั้ง ซึ่งนอกจากทำให้กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงทำให้ถึงจุดสุดยอดได้ง่ายแล้ว ยังสามารถป้องกันปัญหาปัสสาวะเล็ด ซึ่งมักเกิดขึ้นในคุณผู้หญิงวัยทองได้อีกด้วย
- อาบน้ำอุ่นหรือแช่น้ำร้อนบ้าง ทำให้เลือดไหลเวียนมาที่บริเวณอวัยวะเพศได้ดี กล้ามเนื้ออุ้งเชิงกรานแข็งแรงถึงจุดสุดยอดได้ง่ายขึ้น
- ไม่ปล่อยให้เหล็กขึ้นสนิม เพราะการมีเพศสัมพันธ์เดือนละครั้งนั้นน้อยเกินไป เปรียบเหมืนอของไม่ใช้ เครื่องก็ย่อมขึ้นสนิมหรือสตาร์ตไม่ติด อย่างน้อย ๆ หากไม่มีเพศสัมพันธ์ก็ควรมีการอุ่นเครื่องกันบ้าง เช่น ช่วยตนเองอย่างสม่ำเสมอ เมื่อถึงเวลาจะได้ไม่ติดขัด ไปถึงที่หมายอย่างมีความสุขกว่าเดิม
- สร้างสิ่งแวดล้อมที่เหมาะสม ความต้องการทางเพศนั้น อาศัยสิ่งเร้าจากหู ตา จมูก การสัมผัส ดังนั้น ควรจัดห้องให้น่าอยู่ จัดแสง สี เสียง กลิ่น ให้โรแมนติก มีภาพหรือเสียงสร้างบรรยากาศก่อนมีเพศสัมพันธ์
- ใช้เวลาให้นานมากขึ้น ให้ฝ่ายชายโลมเล้ามากขึ้น นานขึ้นตามแบบที่ตนชอบ
- ใช้อุปกรณ์ช่วย ไม่ว่าจะช่วยตนเองหรือมีเพศสัมพันธ์กับสามี เช่น เครื่องสั่นสะเทือน อวัยวะเพศชายเทียม ฯลฯ เพื่อให้การเล้าโลมดีขึ้นและถึงจุดสุดยอดง่ายขึ้น
- ใช้เจลหล่อลื่นเทียม ในกรณีที่น้ำหล่อลื่นไม่เพียงพอ ซึ่งทำให้เจ็บปวดเมื่อมีเพศสัมพันธ์
- ไปพบแพทย์ หาทำทุกอย่างที่แนะนำแล้วยังไม่ดีขึ้น ควรไปพบสูตินรีแพทย์เพื่อตรวจร่างกายว่า มีโรคอะไรซ่อนเร้นอยู่อันเป็นอุปสรรคของการมีเพศสัมพันธ์หรือไม่ ด้วยโรคทางนรีเวช อาจทำให้หมดอารมณ์ทางเพศ และ/หรือเจ็บปวดเมื่อมีเพศสัมพันธ์ เช่น โรคเนื้องอกมดลูก โรคเยื่อบุโพรงมดลูกเจริญผิดที่ โรคกามโรค โรคมะเร็งของอวัยวะสืบพันธ์ ฯลฯ
ทั้งนี้ ปัญหาเพศสัมพันธ์ในวัยทอง สามารถแก้ได้ด้วยฮอร์โมน ฮอร์โมนที่ว่า มีทั้งฮอร์โมนเพศหญิงและฮอร์โมนเพศชาย เนื่องจาก การรักษาด้วยฮอร์โมนส่วนใหญ่ได้ผลดี สามารถเรียกความต้องการทางเพศ และน้ำหล่อลื่นกลับคืนมาได้ค่ะ แต่อย่างไรก็ดี การจะรับประทานฮอร์โมนชนิดไหน อย่างไร ก็ควรที่จะต้องอยู่ในความดูแลของแพทย์ ดังนั้น คุณผู้หญิงวัยทองที่มีปัญหาเพศสัมพันธ์ (เซ็กส์) ถ้าพยายามแก้ไขตามวิธีที่แนะนำแล้ว ยังไม่เห็นผลเป็นที่พอใจ ควรเข้าพบแพทย์เพื่อปรึกษาและรักษาให้ตรงกับความต้องการของเรานะคะ ขอให้มีความสุขกันทุก ๆ ท่านนะคะ
ขอบคุณภาพจาก https://www.freepik.com/author/pressfoto