บ้านน่าอยู่

บ้านที่มีสุขลักษณะที่ดีควรจะมีลักษณะเช่นไรนั้น หลายท่านอาจจะตอบว่า ก็เป็นหลังใหญ่ ๆ มีห้องหลาย ๆ ห้อง มีสนามหญ้า มีส่วนที่จัดตกแต่งสวยงาม หรืออาจจะบอกว่า ก็บ้านเศรษฐี ผู้มีอันจะกินทั้งหลาย ซึ่งมีคนดูแลทำความสะอาดทุกตารางนิ้ว นั่นแหละ คือ บ้านที่มีสุขลักษณะที่ดี มิใช่เช่นนั้น บ้านที่มีสุขลักษณะที่ตี คือ บ้านที่มีการจัดที่พักอาศัยให้น่าอยู่ ถูกหลัก และเอื้อต่อการมีสุขอนามัยที่ดี ไม่ว่า จะเป็นบ้านเล็กหรือบ้านใหญ่ ก็สามารถทำให้น่าอยู่ได้ โดย

  • บ้านนั้นต้องตอบสนองความต้องการทางภายภาพของผู้อยู่อาศัย คือ ตัวบ้านมั่นคงแข็งแรง แบ่งแยกการใช้สอยเป็นสัดส่วน มีประตู หน้าต่าง ช่องลม มีการระบายอากาศเพียงพอ มีแสงสว่างจากธรรมชาติ ไม่มีเสียงรบกวนหรือเหตุรำคาญ
  • บ้านนั้นต้องสนองความต้องการทางใจของผู้อยู่ พูดง่าย ๆ ก็คือ อยู่แล้ว สบายใจ มีความสุข
  • บ้านที่มีสุขลักษณะที่ดีต้องปลอดภัยจากอุบัติเหตุ นั่นก็คือ จะต้องจัดข้าวของเครื่องใช้ให้เป็นระเบียบ ของมีคมต้องเก็บให้พ้นมือเด็ก ยาสารเคมีต้องจัดเก็บในที่เฉพาะและไม่ให้เด็กสามารถหยิบเองได้ อีกทั้งต้องหมั่นดูแล ตรวจตราอุปกรณ์ เครื่องใช้ไฟฟ้า สายไฟให้อยู่ในสภาพดีอยู่เสมอ เพื่อป้องกันอุบัติเหตุจากไฟฟ้าลัดวงจร
  • ประการสุดท้ายก็คือ บ้านนั้นจะต้องป้องกันโรคติดต่อได้ โดยการจัดสิ่งแวดล้อมภายในบ้านให้เหมาะสม เช่น มีน้ำสะอาดดื่ม – ใช้เพียงพอ มีส้วมถูกสุขลักษณะ มีการกำจัดสิ่งปฏิกูล น้ำเสีย ขยะมูลฝอยถูกวิธี อีกทั้งมีการป้องกันกำจัดแมลงและสัตว์พาหนะนำโรค เช่น หนู แมลงวัน แมลงสาบ เป็นต้น

คงถึงเวลาแล้วที่เราไม่ควรจะมองข้ามสถานที่ ซึ่งเราต้องอยู่ทุกเมื่อเชื่อวันมาทำบ้านหน่วยเล็ก ๆ ในชุมชนของเราให้น่าอยู่กันเถอะ

ในบ้านเรานั้น แต่ละห้องมีความสำคัญต่างกัน เพราะประโยชน์ใช้สอยต่างกัน การดูแลในแต่ละห้องก็มีความแตกต่างกันไปบ้าง แต่สิ่งที่สำคัญที่สุดของทุกห้องก็คือ “ความสะอาด” ความเป็นระเบียบในการจัดข้าวของเครื่องใช้ อย่างที่เคยได้ยินกันมาตั้งแต่โบราณ จัดสิ่งของให้เป็นที่ หายก็รู้ ดูก็งามตา อย่างเช่น ห้องนอน เป็นห้องที่เราจะใช้ในการพักผ่อนหลับนอนก็ควรจะเป็นห้องที่สะอาด เพื่อเราจะพักให้เต็มอิ่ม นอนหลับสนิทเพื่อมีพลังในการทำงานวันรุ่งขึ้น ดังนั้น ต้องหมั่นทำความสะอาด ปัดกวาด เช็ดถูตู้ โต๊ะ กำจัดฝุ่นในห้องนอน นำที่นอน หมอน มุ้ง ผ้าห่ม ออกมาผึ่งแดด เปิดม่าน หน้าต่างให้แสงแดดส่องหรือลมใต้ระบาย อีกทั้งซักทำความสะอาดผ้าปูที่นอน ปลอกหมอน ทุกสัปดาห์ เพื่อลดการสะสมของเชื้อโรค ไรฝุ่น ซึ่งจะมีผลต่อระบบทางเดินหายใจ ภูมิแพ้ หรือโรคผิวหนังได้

ห้องครัว ก็เป็นอีกห้องที่ทำให้เราอิ่มท้อง ร่ายกายเจริญเติบโต แต่ห้องนี้ก็เป็นแหล่งของอาหาร และขยะ ดังนั้น จะต้องมีการจัดเก็บพืช ผัก ผลไม้ อาหารสด อาหารแห้ง ในที่ ๆ เหมาะสม เช่น ในตู้เย็น ตู้กับข้าว ขยะก็เช่นกัน ต้องนำไปทิ้งหรือกำจัดทุกวัน โดยเฉพาะอย่างยิ่งขยะเปียกประเภทเศษอาหารต่าง ๆ ถ้าไม่กำจัดจะเน่าเหม็น และเป็นแหล่งอาหารของหนูได้ อีกทั้งอุปกรณ์ จาน ชาม มืด ของมีคม ต้องเก็บในตู้เป็นสัดส่วน และพ้นมือเด็กเพื่อป้องกันอุบัติเหตุที่อาจเกิดขึ้นได้ มีตู้เก็บอาหาร หรือฝาชีครอบอาหารที่ปรุงสุกแล้วให้ปราศจากแมลงวันตอม ทำความสะอาดเตาและอุปกรณ์ที่ใช้ปรุงอาหารทุกครั้ง พื้นครัวต้องหมั่นเช็ดถูกทำความสะอาดไม่ให้มีคราบไขมัน เพราะจะทำให้ลื่นหรือเมื่อเดินย่ำไปจะทำให้ห้องอื่น ๆ สกปรกไปด้วย

และที่สำคัญอีกห้องที่มองข้ามไปไม่ได้ คือ ห้องน้ำ ซึ่งห้องน้ำเป็นอีกห้องหนึ่งที่มักจะมีอุบัติเหตุเกิดบ่อย ๆ เพราะลื่นล้ม ดังนั้น ต้องหมั่นทำความสะอาดห้องน้ำเสมอไม่ให้มีคราบของตะไคร่ หรือคราบแป้งที่ใช้ทาตัว เพราะจะทำให้ลื่นล้มเกิดอุบัติเหตุได้อีกทั้งการเลือกใช้กระเบื้องปูพื้นชนิดหยาบแผ่นเล็ก ๆ จะดีกว่าใช้กระเบื้องแผ่นใหญ่ ซึ่งจะลื่นมากกว่าและควรใช้พื้นห้องน้ำแห้งอยู่เสมอ เพื่อลดอุบัติเหตุและเชื้อรา

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *