อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ สิ่งศักดิ์สิทธิ์ เทพเจ้า เทพยดา เทวดา ภูตผีปีศาจ

ในบทความนี้จะต่อเนื่องจากบทความตอนที่ 1 ที่ได้กล่าวถึง อิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ อำนาจพิเศษ “อภิญญาจิต” และได้กล่าวถึง อิทธิฤทธิ์ของเทพยดา เทวดา เทพเจ้า และในบทความนี้ จะกล่าวถึงอิทธิฤทธิ์ของผู้ทรงฌาน อิทธิฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์ และอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณ ซึ่งอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณที่กล่าวถึงในบทความนี้ จะเป็นบางส่วนเท่านั้น จะมีต่อในบทความตอนที่ 3 จะกล่าวถึงเรื่องผี และเรื่องของการแสดงอิทธิฤทธิ์ปรากฏตัวของวิญญาณ และในบทความตอนที่ 4 กล่าวถึงเรื่อง วิญญาณแสดงอิทธิฤทธิ์ปรากฏตัวเพื่อแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ เป็นการนำเรื่องเล่าจากหนังสือมาประกอบคำบรรยายหัวข้อเรื่อง และเพื่อทำร้าย เช่น ผีกระสือ ผีปอบ

อิทธิฤทธิ์ของผู้ทรงฌาน

ผู้ทรงฌานที่มีความเชี่ยวชาญในการวิปัสสนา สามารถที่จะแสดงอิทธิฤทธิ์ต่าง ๆ ตามที่ปรารถนาได้ตามแต่ความแก่กล้าของผู้ทรงฌาน เช่น หลวงพ่อเงินที่เป็นผู้ที่มีความเชี่ยวชาญในการวิปัสสนา สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ ท่านหลวงพ่อเงินสามารถย่นระยะทางจากไกลแสนไกลให้สั้นเข้ามาได้ มีเรื่องเล่าว่า วันหนึ่งหลวงพ่อชวนอาจารย์แก้วไปเอาตำราที่เกาะศรีมาลา เมืองพิจิตรเก่า (อาจารย์แก้วคงเป็นพี่น้องกับหลวงพ่อเงิน เพราะเป็นคนบ้านแสนต่อเช่นเดียวกันกับหลวงพ่อเงิน) การเดินทางของหลวงไปทางวิปัสสนากับอาจารย์แก้ว ปรากฏว่า เดินเพียงสามก้าวก็ถึงจุดหมายปลายทาง พบตำราและมีดหมอ 1 เล่มในโอ่ง หลวงพ่อเอาตำรา อาจารย์แก้วเอามีดหมอแต่หลวงพ่อทักท้วงไว้ว่า ของมีเจ้าของเมื่อเจ้าของยังไม่อนุญาตไม่ควรที่จะเอาไป แต่อาจารย์แก้วไม่เชื่อฟัง ตกกลางคืนเจ้าของมารบกวนจนอาจารย์แก้วรักษามีดหมอเล่นนั้นไว้ไม่ได้ ต้องนำกลับไปคืน นอกจากนั้น หลวงพ่อเงินยังสามารถหยั่งรู้เหตุการณ์ล่วงหน้าได้อย่างแม่นยำ ตัวอย่างที่เห็นชัด คือ วันหนึ่งหลวงพ่อสั่งให้พระลูกวัดทำความสะอาดลานวัด โดยบอกว่า เตรียมไว้ต้อนรับเสือ และพอวันที่เสือจะมา หลวงพ่อก็บอกพระลูกวัดว่า “วันนี้เสือจะมาถึงแล้ว” เตรียมต้อนรับขับสู้ให้ดี อย่าให้อับอายขายหน้าได้ “เสือ” ของหลวงพ่อก็คือ กรมหลวงชุมพรเขตอุดมศักดิ์ พระบิดาแห่งกองทัพเรือไทยนั่นเอง

อิทธิฤทธิ์ของสิ่งศักดิ์สิทธิ์

ส่วนมากจะเป็นอิทธิฤทธิ์ของพระบรมสารีริกธาตุ ซึ่งสิ่งศักดิ์สิทธิ์หรือของศักดิ์สิทธิ์ คือ ของที่มีความขลังซึ่งอาจจะเกิดจากการปลุกเสกให้ขลัง ด้วยพลังจิต ด้วยเวทมนตร์คาถา สิ่งที่ปลุกเสกจนมีความขลัง หรือกลายเป็นวัตถุมงคลนี้ สามารถแสดงอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ จนเป็นที่ยอมรับของคนโดยทั่วไปดังมีผู้รู้หลายท่านกล่าวไว้

  • สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ใช้ป้องกันโรคภัยและคุณไสย เช่น ของขลังที่หลวงพ่อห่วงจันทรสโร สร้างขึ้น ของที่หลวงพ่อห่วง สร้างไว้จนมีชื่อเสียง คือ ด้านสายสิญจน์คล้องคอ ส่วนมากคนที่จะมาขอด้ายสายสิญจน์คล้อง คือ คนที่คลอดลูกไม่ออก หรือพวกที่เด็กตายในท้อง ญาติพี่น้องจะมาขอด้ายสายสิญจน์ของหลวงพ่อห่วง พร้อมด้วยน้ำมนต์ไปให้คนไข้ดื่ม เพียงชั่วครู่ที่คนไข้ดื่มน้ำมนต์เข้าไปพร้อมกับด้ายสายสิญจน์ ด้ายสายสิญจน์จะคล้องคอเด็กที่ตายออกมาด้วย ชื่อเสียงของท่านจึงโด่งดังมาก แม้ในเรื่องคุณไสย คนที่มาให้ท่านรดน้ำมนต์จนครบสามวันก็จะหายเป็นปกติ เป็นเหตุให้คนที่จ้างหมอไสยศาสตร์และตัวหมอไสยศาสตร์เองโกธรท่านมาก ถึงกับส่งคุณไสยมาใส่ท่าน แต่คุณไสยที่ถูกปล่อยมาไม่อาจทำร้ายท่านได้ พอชนฝากุฏิก็ตกลงพื้นหมด ในบางครั้งคุณไสยก็กลับไปยังคนที่ทำมานั่นเอง
  • สิ่งศักดิ์สิทธิ์ที่ช่วยสะเดาะเคราะห์ต่ออายุ ป้องกันภยันตราย และทำให้มีโชคลาภ เช่น ของขลังของหลวงปู่ครูบาอินสม หลวงปู่ครูบาอินสม (ซึ่งสืบทอดความศรัทธาต่อจากหลวงปู่แหวน) มีของขลังและวัตถุมงคลหลายอย่าง เช่น เทียน ตะกรุด และรูปเหมือน วัตถุมงคลที่ขึ้นชื่อที่สุดในด้านอิทธิฤทธิ์ปาฏิหาริย์ คือ เทียนปลุกเสก ซึ่งหนึ่งชุดจะมี 3 เล่ม เป็นเทียนสะเดาะเคราะห์เล่มหนึ่ง เทียนต่ออายุเล่มหึ่ง และเทียนมหาโชคอีกเล่มหนึ่ง ผู้ที่ได้เทียนไปแล้ว ก็จะนำไปจุดที่บ้านในยามที่ตนเองมีความทุกข์ หรือจะจุดเพื่อเสริมดวงก็ได้ จุดเสร็จแล้วก็ตั้งจิตอธิษฐานไป แล้วนำเทียนไปปักไว้ที่หน้าพระ วัตถุมงคลอีกอย่างหนึ่งที่มีความขลัง คือ รูปเหมือน ครั้งหนึ่ง นายนิกัน ขวัญมาก มาขอรับวัตถุมงคล คือ รูปเหมือนไปจากท่าน วันรุ่งขึ้นได้กลับมาเล่าว่า ในวันที่รับรูปเหมือนไปนั้น เมื่อเดินทางกลับบ้าน เกิดอุบัติเหตุรถคว่ำ รถพังเป็นแถบ ตัวเขากระเด็นออกมานอกรถ แต่ไม่ได้รับอันตรายอะไรเลย ในตัวเขาก็ไม่มีสิ่งศักดิ์สิทธิ์ใด ๆ นอกจากรูปเหมือนของท่าน นายนิกันจึงเชื่อว่า พระที่เป็นรูปเหมือนนั่นเองที่ได้แผ่บารมีช่วยให้ปลอดภัย

อิทธิฤทธิ์ของวิญญาณ

“วิญญาณ” คือ สิ่งที่ถือกันว่า สิงอยู่ในตน ทำให้บุคคลขึ้น เมื่อร่างกายเปื่อยเน่าแล้วก็ยังคงอยู่ต่อไป ซึ่งคนในสมัยโบราณนั้นเชื่อว่า สัตว์มีชีวิตเคลื่อนที่ได้ เพราะมีสัตว์ตัวน้อย ๆ อยู่ในตัวสัตว์นั้น คนเรามีชีวิตและเคลื่อนไหวได้ เพราะมีคนเล็ก ๆ หรือสัตว์เล็ก ๆ สิงอยู่ในร่างกายคน คน หรือสัตว์ตัวน้อย ๆ นี้ เรียกว่า วิญญาณ อาตมัน เจตภูต หรืออาจเรียกได้อีกหลายชื่อ วิญญาณเป็นสิ่งที่ทำให้คนและสัตว์กระดุกกระดิกได้ ถ้าคนหรือสัตว์นอนหลับ วิญญาณออกไปชั่วคราว ส่วนกายนั้น เป็นเพราะวิญญาณออกไปเลย ไม่กลับคือสู่ร่างอีก มนุษย์ครั้งดั้งเดิม จึงเห็นว่า การนอนหลับกับตายเหมือนกัน ผิดกันแต่เพียง ตายนั้นเป็นการหลับนาน นานจนไม่ตื่น มนุษย์ในครั้งกระนั้นจึงกลัวการนอนหลับนานนี้มาก

คนส่วนใหญ่เชื่อกันว่า “วิญญาณมีพลังงานเหนือธรรมชาติ” วิญญาณจึงสามารถดลบันดาลให้เกิดเหตุการณ์ต่าง ๆ ขึ้น ดังนั้น จึงมีเรื่องเล่าเกี่ยวกับอิทธิฤทธิ์ของวิญญาณที่ปรากฏในที่ทั่ว ๆ ไปอยู่เสมอ

การปรากฏตัวของวิญญาณที่มีกล่าวกันถึงเนือง ๆ คือ การปรากฏให้คนที่ใกล้ตายหรือกำลังจะตายได้พบเห็น ในสู่ภพแห่งวิญญาณสรุปได้ว่า ภรรยาของเทพซู ทับทอง ป่วยเป็นโรคมะเร็ง ก่อนที่จะมีอาการหนักจนต้องเข้ารักษาตัวที่โรงพยาบาลนั้น เธอมองเห็นคนมายืนที่หน้าประตู แต่ไม่ทราบว่าเป็นใคร จึงคิดกันไปว่า น่าจะเป็นผีบ้านผีเรือนหรือนางไม้ เพราะที่บ้านมีกระดานตกน้ำมันอยู่แผ่นหนึ่ง หลังจากที่เข้าไปรักษาตัวในโรงพยาบาลแล้ว ก่อนจะถึงแก่กรรมประมาณ 3 – 4 วัน เธอก็เล่าให้ฟังว่า ได้เห็นดวงวิญญาณของผู้ที่เสียชีวิตในโรงพยาบาง และที่มานั่งคุยกับเธอทุกวัน คือ ดวงวิญญาณของคนจีนแก่ ๆ ที่ตายในห้องนั้นด้วยโรคมะเร็ง และในบ่ายของวันที่เธอจะสิ้นใจนั้น เธอก็มองเห็นหัวกะโหลกอยู่บนโต๊ะ ทั้ง ๆ ที่ เทพซู ทับทอง มองไม่เห็นกะโหลกนั้นเลย เรื่องนี้ แสดงให้เห็นว่า วิญญาณมักจะมาแสดงอิทธิฤทธิ์ปรากฏกายให้คนใกล้ตายหรือกำลังจะตายเห็น

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *